อันนี้เป็นความเห็นของเราที่แปะไว้ในวอลล์ของเพื่อนจ้ะ
เราไม่มีความรู้เรื่องหนัง 16 จ้า และไม่รู้ด้วยว่าทำไมพี่มาก
พระโขนงถึงประสบความสำเร็จมากอย่างนี้ แต่ไหนๆโดน tag มาแล้วก็เลยขอถือโอกาสนี้เขียนถึงความเห็นส่วนตัวของเราด้วยแล้วกัน
เราดูพี่มาก พระโขนงแล้วชอบมากในระดับ A+15 (แต่น้อยกว่าแม่นาค
ของพิมพกา โตวิระ ที่เราชอบในระดับ A+30)
เพราะหนังมันตอบสนอง fantasy เรื่องสามีในอุดมคติของเรา
สำหรับเราแล้วหนังเรื่องนี้มัน fulfill my romantic fantasy เหมือน
“โอม สู้แล้วอย่าห้าม” (1988, O Sing-Pui) หรือมิวสิควิดีโอ
NO ORDINARY LOVE ของ Sade ที่เป็นความรักระหว่างกลาสีกับเงือก
มันตอบสนองเราในแง่ที่ว่ามันเป็นความรักระหว่างผู้ชายกับ “สิ่งที่มีความเป็นผู้หญิงแค่ครึ่งเดียว”
มันเป็นความรักระหว่างผู้ชายกับสิ่งที่สังคมรอบข้างมองว่า “ผิดธรรมชาติ”
มันก็เลยทำให้เรานึกถึงจินตนาการในวัยเด็กของเราที่อยากผ่าตัดแปลงเพศ
แต่ก็หวั่นใจว่าถ้าหากสามีมารู้ภายหลังว่าเราแปลงเพศมาแล้วเขาจะว่ายังไง
ถ้าหากเขาทำแบบพี่มากในเรื่องนี้ เราก็คงจะดีใจ
เพราะฉะนั้นโดยส่วนตัวแล้ว เราจึงซึ้งมากๆกับช่วงท้ายที่พี่มากรู้ความจริง
แต่ก็ไม่ว่าอะไร มันพีคเหมือนกับตอนเด็กๆที่เราดูหนังเรื่อง SPLASH (1984, Ron Howard) ที่มีช่วงนึงที่ Tom Hanks พูดกับ Daryl
Hannah ว่า ถึงคุณจะเป็นกะเทยแปลงเพศมา เขาก็ไม่ว่าอะไร
เขาก็จะยังรัก Daryl เหมือนเดิม
คือความชอบของเราที่มีต่อพี่มาก พระโขนง
มันเป็นสาเหตุเดียวกับที่เราพีคสุดๆกับประโยคนั้นในหนังเรื่อง SPLASH ในตอนเด็กนั่นแหละ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามีใครบนโลกนี้ที่พีคกับประโยคนั้นใน SPLASH
เหมือนเราหรือเปล่า
หนังเรื่อง “พี่มาก พระโขนง” ในแง่นึงมันก็เลยคล้ายกับหนังในฝันของเรา
ซึ่งหนังในฝันของเราก็คือหนังที่หนุ่มหล่อคนนึงค้นพบความจริงว่าจริงๆแล้วภรรยาของเขาเป็น
“ตุ๊กตาหมี” ที่แปลงร่างมาเป็นคน แต่ถึงพระเอกรู้ความจริงแล้ว
เขาก็ยังคงรักภรรยาที่เป็นตุ๊กตาหมีจำแลงมาต่อไป อะไรทำนองนี้ ฮ่าๆๆ
ส่วนคู่กรรมนั้นเราชอบในระดับ A+/A จ้ะ ด้วยสาเหตุที่คล้ายๆกับ HOLY
MOTORS นั่นก็คือเราชอบความแปลกแตกต่าง ความเป็นตัวของตัวเองของมันมากๆ
แต่เราไม่มีอารมณ์ร่วมกับมันสักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่ว่าหนังไม่ดีนะ
เราว่ามันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่หนังดีๆหลายๆเรื่องไม่มีตัวละครที่เรา identify
อะไรด้วยได้ แต่ในแง่นึงเราก็ไม่มีอารมณ์ร่วมกับคู่กรรมเวอร์ชั่นอื่นๆด้วยเช่นกัน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถ้าหากเทียบกับผลงานของทมยันตีด้วยกันแล้ว มันต้อง “ล่า” นี่แหละที่ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมด้วย
สรุปว่าเราดูหนังบนพื้นฐานของการ identify ตัวเองกับตัวละครเป็นหลัก
เราไม่สามารถ identify ตัวเองกับตัวละครในคู่กรรมเวอร์ชั่นนี้และเวอร์ชั่นอื่นๆได้
เราก็เลยชอบมันแค่ A+/A, เรา identify fantasy ของตัวเองกับพี่มาก พระโขนงได้บางส่วน เราก็เลยชอบมันในระดับ A+15 และเรา identify ตัวเองกับตัวละครหญิงตัวนึงใน BACK
TO 1942 (2012, Feng Xiaogang) ได้อย่างเต็มที่
เราก็เลยชอบมันในระดับ A+30 จ้ะ จบ
ส่วนประเด็นเรื่อง aesthetics และ spectatorship
ของพี่มาก พระโขนงและคู่กรรมนั้น เราขอเป็นฝ่าย “อ่าน”
สิ่งที่คนอื่นๆเขียนแล้วกันนะจ๊ะ
No comments:
Post a Comment