Thursday, October 12, 2006

BEYOND OUR KEN (PANG HO-CHEUNG, A+)

http://xq28.net/s/viewtopic.php?t=3437&start=3850

--วันนี้เข้า yahoo ไม่ค่อยได้แฮะ ไม่รู้คนอื่นๆเป็นเหมือนกันหรือเปล่า หรือว่ามันเป็นเฉพาะที่ร้านเน็ตที่เราเล่นก็ไม่รู้

ตอบคุณธัญสก

หนังสั้นที่ดิฉันพูดถึงในวันมีตติ้ง คือหนังสั้นเรื่อง CRASH (A+) ที่กำกับโดย
วรวิทย์ อิกำเนิดค่ะ ถ้าดิฉันตาไม่ฝาด ดิฉันเห็นชื่อของคุณ “สามารถ อิ่มขำ” อยู่ในทีมงานสร้างหนังเรื่องนี้ด้วย


ตอบน้อง VESPERTINE

พยายามจะเข้าไปฟัง “เอาผัวไปเผา” แต่ฟังไม่ได้ค่ะ มันจะขึ้นคำว่า CONNECTING นานมาก หรือไม่ก็ขึ้นว่า ERROR อะไรสักอย่าง ลองดาวน์โหลดโปรแกรมของมันมาแล้วก็ฟังไม่ได้อยู่ดี


ตอบน้องสาวกอร์กอนส์ทั้งสอง

วันอังคารที่ผ่านมาถือเป็นวันตะลุยน้ำท่วมที่หนักที่สุดในชีวิตดิฉันค่ะ ต้องลุยน้ำที่ท่วมเกือบถึงหัวเข่ากลับเข้าบ้าน แต่โชคดีที่ขาของดิฉันไม่มีแผลในช่วงนั้น ก็เลยไม่กังวลกับเรื่องเชื้อโรคมากนัก ปกติแล้วดิฉันมักมีแผลที่ขาเป็นประจำ เพราะดิฉันชอบเกาน่องของตัวเองจนมันเลือดออก แต่โชคดีที่ช่วงนี้แผลหายสนิทหมดแล้ว

ดิฉันอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนท์ที่ถ. เพชรบุรีมานาน 11ปี ไม่เคยต้องลุยน้ำท่วมมาก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีที่เจอน้ำท่วมแถวอพาร์ทเมนท์ของดิฉัน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง AN INCONVENIENT TRUTH ขึ้นมาในทันที และก็ทำให้นึกถึงหนังสารคดีเรื่อง CLIMATE CHANGE OR CLIMATE DISASTER? (2005, HANNES KARNICK + WOLFGANG RICHTER, A+) ด้วย

CLIMATE CHANGE OR CLIMATE DISASTER? เป็นภาพยนตร์ที่มาฉายในเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ในกรุงเทพในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เนื้อหาของหนังมีส่วนคล้าย AN INCONVENIENT TRUTH อยู่บ้าง แต่ดิฉันดูแล้วชอบ CLIMATE CHANGE OR CLIMATE DISASTER? มากกว่าหน่อยนึง เพราะหนังมันไม่ได้เน้นขายภาพลักษณ์ของนักการเมืองเหมือนอย่าง AN INCONVENIENT TRUTH

แต่จุดนึงที่น่าสนใจใน AN INCONVENIENT TRUTH ก็คือการที่เขาพูดถึงการที่ปรากฎการณ์ภัยธรรมชาติบางแห่งในโลกไม่ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่เกิดขึ้นปีเว้นปี เหมือนกับโลกมีการหายใจเข้าและหายใจออก ซึ่งจุดนี้ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ต้องรอดูกันต่อไป เพราะในปีที่แล้วสหรัฐประสบภัยจากพายุเฮอริเคนหนักมาก แต่ปีนี้สหรัฐแทบไม่ประสบภัยจากเฮอริเคนเลย ต้องรอดูว่าปีหน้าสหรัฐจะเจอเฮอริเคนหนักมากเหมือนในปี 2005 อีกหรือไม่

เพลงฟังต้อนรับน้ำท่วมกรุงเทพ

HERE COMES THE FLOOD – PETER GABRIEL
(KATE BUSH เคยเอาเพลงนี้มาร้องด้วย)
http://www.youtube.com/watch?v=T_4ntSUJyic


When the night showsthe signals grow on radiosAll the strange thingsthey come and go, as early warningsStranded starfish have no place to hidestill waiting for the swollen Easter tideThere's no point in direction we cannoteven choose a side.
I took the old trackthe hollow shoulder, across the watersOn the tall cliffsthey were getting older, sons and daughtersThe jaded underworld was riding highWaves of steel hurled metal at the skyand as the nail sunk in the cloud, the rainwas warm and soaked the crowd.


Lord, here comes the floodWe'll say goodbye to flesh and bloodIf again the seas are silentin any still aliveIt'll be those who gave their island to surviveDrink up, dreamers, you're running dry.
When the flood callsYou have no home, you have no wallsIn the thunder crashYou're a thousand minds, within a flashDon't be afraid to cry at what you seeThe actors gone, there's only you and meAnd if we break before the dawn, they'lluse up what we used to be.
Lord, here comes the floodWe'll say goodbye to flesh and bloodIf again the seas are silentin any still aliveIt'll be those who gave their island to surviveDrink up, dreamers, you're running dry.


ภาพยนตร์ดูต้อนรับน้ำท่วม

1.THE RIVER (1984, MARK RYDELL, A/A-)

Farming family battles severe storms, a bank threatening to reposses their farm, and other hard times in a battle to save and hold on to their farm.

http://ec3.images-amazon.com/images/P/0783230591.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1070993087_.jpg


2.CITY OF JOY (1992, ROLAND JOFFE, B+)
ฉากน้ำท่วมในเรื่องนี้น่ากลัวมาก
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00004VYDP.01._SS400_SCLZZZZZZZ_V64967862_.jpg


3.TOUT BAIGNE! (1999, ERIC CIVANYAN, B)
http://www.imdb.com/title/tt0204693/

หนังตลกเรื่องนี้เคยมาฉายในเทศกาลหนังฝรั่งเศส และแสดงให้เห็นภาพของเหตุการณ์น้ำท่วมแบบฉับพลันที่น่ากลัวมากๆ เหตุการณ์ในหนังเรื่องนี้เหมือนกับเกิดขึ้นในหมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมืองใหญ่ ที่อยู่ดีๆพอฝนตกลงมา น้ำก็ท่วมขึ้นเรื่อยๆจนเกือบมิดหลังคาบ้าน

17:00 - The sun is shining. The baby is doing fine. 17:15 - It looks like it's getting cloudy out. We decide to go home. 19:00 - It's raining a lot ... I mean pouring. The garden is inundated with water. All sorts of people are seeking shelter at my house. I don't know who they all are. 20:00 - Now water is flooding the house. We should probably consider getting the hell out of here. But ... telephone is down. 21:00 - Use the bed as a raft?

4.THE FLOOD: WHO WILL SAVE OUR CHILDREN? (1993, CHRIS THOMSON)

หนังเรื่องนี้เคยมาฉายทางเคเบิลทีวีในไทย และสร้างจากเหตุการณ์จริงในรัฐเท็กซัสเมื่อรถนักเรียนคันหนึ่งต้องเผชิญกับน้ำป่าไหลหลากจนส่งผลให้เด็กนักเรียนในรถเสียชีวิตไปหลายคน

David Kinghorn's docudrama Flood is based on a real event that took place in Texas in 1987. The film concerns a school bus full of students who get washed into a river during a torrential downpour. One of the students, Brad Jamison, assumes a leadership position and manages to use a variety of techniques that allow for the largest number of people to survive the disaster.

http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00009V7S8.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1057092407_.jpg


5.FLOOD! (1976, EARL BELLAMY)
นำแสดงโดย BARBARA HERSHEY

After several weeks of heavy rainfall, the dam above Brownsville is short from running over. However the mayor refuses to open it's gates, because he fears for the fishes in the lake... and paves the way for disaster.

http://images.amazon.com/images/P/6300269930.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056620701_.jpg


6.FLOOD – A RIVER’S RAMPAGE (1997, BRUCE PITTMAN)

After heavy rain, the Mississippi is breaking it's banks flooding small towns. Richard Thomas and Kate Vernon realise their town is next on the hit list. Lots and lots of sand bags might not do the trick but a huge explosion might. In the meantime the plot is filled up with a predictable story about a family dreading their mistake of staying behind when they become entrapped in their own home.

http://ec3.images-amazon.com/images/P/B000065U2T.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1057227893_.jpg


ภาพยนตร์ที่ได้ดูในช่วงนี้

1.CINDY, THE DOLL IS MINE (2005, BERTRAND BONELLO, A+)
ดูที่บ้านของน้อง VESPERTINE
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/95/96/18449249.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/95/96/18438303.jpg

2.BEYOND OUR KEN (2004, PANG HO-CHEUNG, A+)

3.13 เกมสยอง (2006, CHOOKIAT SAKVIRAKUL, A)

4.THE ANT BULLY (2006, JOHN A. DAVIS, A)

ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกผิดที่เพิ่งฆ่ามดไปหลายตัวเมื่อไม่นานมานี้ เพราะไปซื้อลองกองมากินจากแม่ค้าในซอย ซื้อมาแล้วก็พบว่ามีมดไต่อยู่ตามพวงลองกองเป็นจำนวนมาก ไม่รู้จะกำจัดยังไง จะปล่อยทิ้งไว้ให้มดสลายตัวไปเอง ก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ เราก็หิว อยากกินลองกองเป็นอาหารเช้า ไม่อยากกินลองกองเป็นอาหารเย็น ก็เลยเอาลองกองไปล้าง และทำให้มดต้องจมน้ำตายไปหลายตัว เห็นมดหลายตัวพยายามกระเสือกกระสนในน้ำเพื่อดิ้นรนเอาชีวิตรอดแล้วก็รู้สึกเศร้ามาก ก็เลยตัดสินใจว่าต่อไปนี้จะซื้อผลไม้พวกนี้จากซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น เพราะมันไม่ค่อยมีมดไต่ ถ้าซื้อผลไม้จากแม่ค้าในซอยก็อาจจะเลือกซื้อเฉพาะที่แน่ใจว่าเราไม่ต้องฆ่ามดจำนวนมากๆแบบนี้อีก

5.HEAVEN’S POND (2003, JOEL VIERTEL, B)
นำแสดงโดย KIP PARDUE หรือสามีของน้อง ZM
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B0000JBUI2.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1067557275_.jpg


ความเห็นที่มีต่อ BEYOND OUR KEN ที่เขียนไว้ในบล็อกของคุณ OLIVER

http://riverdale-dreams.blogspot.com/2006/10/beyond-our-ken.html

เขียนได้ดีมากๆเลยค่ะ ชอบหนังเรื่องนี้มากๆเลย ไม่เคยรู้มาก่อนว่า คำว่า KEN แปลว่า UNDERSTANDING ได้ด้วย

เพิ่งดู THE SHOE FAIRY (2005, YUN CHAN LEE, A-) มา หนังมีความเป็นเทพนิยายคล้ายๆ AMELIE และก็ดูเหมือนจะเล่นกับความเป็นเทพนิยายด้วยเหมือนกัน แต่ยังดูห่างชั้นกันมากเมื่อเทียบกับ BEYOND OUR KEN พอเทียบหนังสองเรื่องนี้เข้าด้วยกันแล้ว THE SHOE FAIRY ดู “หลอก” กว่ามากๆ

มีบางช่วงของ BEYOND OUR KEN ที่ทำให้นึกถึง CELINE AND JULIE GO BOATING + LE PONT DU NORD ของ JACQUES RIVETTE ด้วยเหมือนกัน เพราะหนังทั้งสองเรื่องนี้ ทำให้ “เมืองใหญ่” กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยอันน่าตื่นเต้น แต่ไม่อันตรายจนน่ากลัว ฉากที่ชอบมากใน BEYOND OUR KEN คือฉากในซูเปอร์มาร์เก็ต มันเป็นการนำซูเปอร์มาร์เก็ตมาใช้ในการผจญภัยได้อย่างสนุกสนานมากๆ
http://www.filmsdulosange.fr/upload/cat_affiche/af_125.jpg

หนังแอคชั่นโดยทั่วไปมักจะมีฉากขับรถไล่ล่ากัน หรือฉากยิงปืนใส่กัน ซึ่งนั่นไม่ทำให้ดิฉันรู้สึกอินกับมันสักเท่าไหร่ เพราะดิฉันไม่มีเงินซื้อรถขับ และยิงปืนไม่เป็น (ถึงแม้จะเรียนรด.มา 3 ปีก็เถอะ) แต่หนังของ JACQUES RIVETTE และ BEYOND OUR KEN ทำให้ดิฉันเห็นว่า อะไรหลายๆอย่างที่ดูดาษดื่นธรรมดารอบๆตัวเรา มันอาจจะกลายสภาพเป็นดินแดนแห่งการผจญภัยอันน่าสนุกสนานขึ้นมาได้ทุกเมื่อ

BEYOND OUR KEN ทำให้นึกถึงหนังกลุ่มย่อยๆกลุ่มนึงด้วย นั่นก็คือหนังเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีบุคลิกแตกต่างกันสองคนมาเจอกัน แต่ BEYOND OUR KEN แตกต่างจากหนังส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ตรงที่ว่า นางเอกสองคนใน BEYOND OUR KEN ไม่ได้สลับบุคลิกภาพกัน หรือไม่ได้มีอิทธิพลทางบุคลิกภาพแก่กันและกันมากเท่ากับนางเอกสองคนในหนังเรื่องอื่นๆ

หนังกลุ่มสองสาวสองบุคลิกภาพที่เคยดู ก็มีเช่น

1.CELINE AND JULIE GO BOATING

2.301/302 (1995, PARK CHEOL-SU, A+)
http://ec3.images-amazon.com/images/P/B0006A9I5C.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1099603416_.jpg

3.BIRDCAGE INN (1998, KIM KI-DUK, A-)

4.MIDNIGHT FLY (2001, CHI LEUNG ‘JACOB’ CHEUNG, A+/A)

5.NABI (2001, MOON SEUNG-WOOK, A+++++)

ตอบน้อง LOVEJUICE

ลืมบอกน้อง LOVEJUICE ไปว่า ต้องขอโทษด้วยค่ะที่ในวันมีตติ้งดิฉันฟังเสียงของน้อง LOVEJUICE ไม่ออกเลย ไม่รู้เลยว่าน้องพูดอะไรในโทรศัพท์บ้าง ดิฉันก็ได้แต่ "เออๆ ค่ะๆ" ไปเรื่อยๆ แล้วก็ส่งโทรศัพท์ให้คนอื่น

ตอนที่คุณแฟรงเกนสไตน์เคยโทรมาจากญี่ปุ่นเมื่อราว 1 ปีก่อน ดิฉันก็ฟังไม่ออกเหมือนกันว่าคุณแฟรงเกนสไตน์พูดอะไรในโทรศัพท์บ้าง :cry:

เดาว่าประสาทหูดิฉันต้องไม่ดีแน่ๆเลย ซึ่งสาเหตุอาจจะเป็นเพราะว่า

1.เคยเที่ยวเธคบ่อย ฟังแต่เสียงดังๆจนทำให้หูเริ่มพิการ

2.เป็นโรคหวัด และไซนัสอักเสบ จนส่งผลกระเทือนถึงประสาทหู

No comments: