Thursday, October 26, 2006

I FELL IN LOVE WITH A HANDSOME TEACHER WHEN I WAS 11

ตอบคุณ MAX77

อันนี้เป็นคำตอบต่อจากที่คุณ MAX77 เขียนไว้ในบล็อกนี้ค่ะ
http://celinejulie.blogspot.com/2006/10/silence-will-speak.html

>>- เรื่องนี้ทำให้พวกเราที่ได้ดูหวนรำลึกถึงตอนเด็กๆที่แอบปิ๊งผู้ชายแถวบ้านที่หน้าตาและบุคลิกภาพดูดีและอบอุ่น<<

--เห็นด้วยกับข้อความนี้ของคุณ MAX77 เป็นอย่างยิ่งค่ะ สิ่งที่ทำให้ดิฉันชอบ THE BLOSSOMING OF MAXIMO OLIVEROS (2005, AURAEUS SOLITO, A+/A) มากถึงขั้น A+ ก็คือการที่หนังเรื่องนี้ทำให้ดิฉันหวนรำลึกถึงแฟนตาซีทางเพศตอนที่ตัวเองยังเป็นเด็ก ตอนที่ดิฉันยังเป็นเด็กชั้นประถม ดิฉันก็เคยใฝ่ฝันอยากจะมีผู้ชายสักคนที่บุคลิกภาพดูดีและอบอุ่นมาเป็นแฟน+พี่ชายเหมือนกัน ดิฉันคิดว่าถ้าหากตัวเองเป็น MAXIMO ในหนังเรื่องนี้ ดิฉันก็คงจะทำอะไรหลายๆอย่างคล้ายๆ MAXIMO ซึ่งรวมถึงการพยายามใกล้ชิดกับตำรวจหนุ่มคนนี้อย่างเต็มที่

การที่หนังเรื่องนี้สามารถนำเสนอสิ่งที่ใกล้เคียงกับแฟนตาซีทางเพศในวัยเด็กของดิฉันได้อย่างใกล้เคียงมากๆๆ คือสิ่งที่ทำให้ดิฉันชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆค่ะ และสิ่งนี้มักจะไม่ค่อยพบในหนังเรื่องอื่นๆ

หนังเรื่องนี้ทำให้ดิฉันหวนนึกไปถึงตอนที่ตัวเองเรียนอยู่ชั้นป.6 ค่ะ ตอนนั้นดิฉันหลงใหลคลั่งไคล้ครูหนุ่มคนหนึ่งที่สอนวิชาเกษตรอย่างรุนแรงมาก เอาไปนอนฝันแทบทุกคืนว่าอยากได้เขามาเป็นพี่ชาย เขาเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง บุคลิกสะอาดสะอ้าน ดูใจดี, อ่อนโยน และเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน

ปกติแล้วดิฉันไม่เคยมีความใส่ใจในวิชาเกษตรเลย แต่พอเจอครูหนุ่มคนนี้ (เดาว่าตอนนั้นเขาน่าจะมีอายุประมาณ 25 ปี ส่วนดิฉันมีอายุประมาณ 11 ปี) มาสอน ดิฉันก็เลยกลายเป็นคนที่ตั้งใจเรียนวิชาเกษตรอย่างรุนแรง ทุ่มเททั้งกายใจให้วิชาเกษตร เขาให้ปลูกต้นไม้ ดิฉันก็เพียรไปรดน้ำต้นไม้ที่ตัวเองปลูกทุกวัน และถึงแม้เวลาจะผ่านมานาน 22 ปีแล้ว ดิฉันก็ยังจำเหตุการณ์ในช่วงนั้นได้ดี ดิฉันจำได้ว่ามีวันหนึ่ง ฝนตกอย่างรุนแรงมาก แต่วันรุ่งขึ้น ดิฉันก็ยังคงไปรดน้ำต้นไม้ของตัวเองอยู่ (ด้วยความอยากได้คะแนนดีๆจากเขา) จนกระทั่งมีคุณครูผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเข้า เธอก็เลยมาเตือนดิฉันว่า “อย่าไปรดน้ำมันเลย ฝนมันตกหนักมากแล้วเมื่อคืนนี้ เดี๋ยวต้นไม้ก็ตายหรอก”

ถ้าจำไม่ผิด ปีนั้นดิฉันได้คะแนนวิชาเกษตรถึง 93/100 และพอจบชั้นป.6 ดิฉันก็ลงทุนแบกกระถางต้นไม้ที่ปลูก ขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ดิฉันไม่ได้นั่งบนรถเมล์ ต้องยืนเอา และต้องหิ้วกระถางต้นไม้อย่างทุลักทุเลตลอดทาง แต่ก็ลงทุนยอมลำบาก เพราะอยากได้อะไรสักอย่างเพื่อเอาไว้รำลึกถึงคุณครูหนุ่มคนนี้

หลังจากนั้นดิฉันก็เอาต้น “เขียวหมื่นปี” ที่ปลูกในวิชาเกษตร มาปลูกต่อที่บ้าน ปรากฏว่ามันเจริญงอกงามขยายพันธุ์ของมันเองออกไปเรื่อยๆ และจนถึงบัดนี้ เวลาผ่านมานาน 22 ปีแล้ว ต้นเขียวหมื่นปีก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในบ้านดิฉันต่อไป เมื่อมองเห็นมันทีไร ดิฉันก็ยังคงรำลึกถึงคุณครูหนุ่มคนนั้นและความคลั่งรักตอนป.6 ของดิฉันทุกครั้ง

ปัจจุบันนี้ได้ข่าวว่าคุณครูหนุ่มคนนั้นแก่หัวเถิกไปแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าดิฉันได้เจอเขาอีกครั้ง ดิฉันจะยังจำเขาได้อยู่หรือเปล่า

จำได้ว่าตอนป.6 ดิฉันเคยเก็บเอาเขามาฝันถึงในเวลากลางคืนด้วย ฝันว่าได้เขามาเป็นพี่ชายจริงๆ น่าเสียดายที่มันเป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น

อีกสิ่งหนึ่งที่ดิฉันจำได้เกี่ยวกับเขา ก็คือ “หัวเข่า” ของเขา ดิฉันรู้สึกว่ามันเซ็กซี่มาก ปกติแล้วเขามักจะใส่กางเกงขายาวเวลามาสอนหนังสือ แต่เขาก็สอนวิชาลูกเสือด้วย และเวลาที่เขาสอนวิชานี้ เขาต้องแต่งตัวเป็นลูกเสือและใส่กางเกงขาสั้นโชว์หัวเข่า ดิฉันจำได้ว่าตอนที่ดิฉันเรียนวิชาลูกเสือ ดิฉันก็เลยถือโอกาสจ้องมองหัวเข่าของเขาด้วยความชื่นชม

รู้สึกว่าประสบการณ์ชีวิตของตัวเองคงไม่ถึง 1 ใน 1000 ของ MAXIMO OLIVEROS เพราะในขณะที่ MAXIMO ได้ใกล้ชิดกับตำรวจหนุ่มและได้แอบมองตำรวจหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า ดิฉันกลับทำได้เพียงแค่เป็นนักเรียนคนหนึ่งที่ตั้งใจเรียนวิชาของเขา และได้ใช้สายตาโลมเลียเพียงแค่ “หัวเข่า” ของเขาเท่านั้น (ถ้าเป็นหัวหน่าวก็คงจะดีกว่านี้มิใช่น้อย)


>>เอ่อ. คุณ Madคิดว่าพระเอกจะมีแนวโน้มเป็น...บ้างรึเปล่ามัวแต่ทำงานผ่านไปหลายเดือน (หรือเป็นปีแล้ว)แต่ก็ไม่เห็นมีแฟน(สาว) สักที<<

--เรื่องนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ คิดว่าพระเอกมีแนวโน้มสูงเหมือนกันที่จะเป็นไบเซ็กชวล หรือไม่ก็เกย์


>>ขอโทษนะครับที่สงสัยเหมือนหลายๆ คนก็คือในหนึ่งสัปดาห์คุณ Mad ดูหนังเฉลี่ยประมาณ 15-30เรื่องเลยหรือครับ นั่นหมายความว่าดูทุกวันๆ ละ 2เรื่องเป็นอย่างน้อย เอ่อ...เวลาหลังเลิกงานกับวันหยุดนี่นั่นดูตาแฉะเลยหรอครับ<<


--สมัยก่อนก็เคยดูหนังวันละหลายเรื่องเหมือนกันค่ะ อาจจะดูวันละ 2 เรื่องหลังเลิกงาน แต่ปัจจุบันนี้สุขภาพไม่เอื้ออำนวย ก็เลยได้ดูหนังน้อยลงมาก ช่วงนี้กะว่าจะดูหนังเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น จะพยายามไม่ดูหนังในวันธรรมดา เพราะจะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ ยกเว้นเฉพาะในช่วงที่มีเทศกาลหนัง ที่อาจจะดูหนังในวันธรรมดาวันละหลายๆเรื่อง

--เห็นเพื่อนและนักวิจารณ์บอกว่า ฉากตอนจบของ THE BLOSSOMING OF MAXIMO OLIVEROS ที่ให้ “นางเอก” เดินเชิดหน้าโดยไม่เหลือบมองพระเอกนั้น เป็นการ “บูชา” ฉากจบของ THE THIRD MAN (1949, CAROL REED, A) ค่ะ เพราะฉากจบของ THE THIRD MAN ก็ให้นางเอก (ALIDA VALLI) เดินเชิดใส่พระเอก (JOSEPH COTTEN) เหมือนกัน

ฉากจบของ THE THIRD MAN
http://pov.imv.au.dk/Issue_02/section_3/artc3C6.jpeg


THE THIRD MAN
http://themave.com/Cotten/tman1c.jpg


JOSEPH COTTEN
http://www.dvdbeaver.com/FILM/DVDReviews21/a%20Orson%20Welles%20The%20Magnificent%20Ambersons%20Joseph%20Cotten/a%20Orson%20Welles%20The%20Magnificent%20Ambersons%20Joseph%20Cotten%20PDVD_009.jpg

ALIDA VALLI
http://axion.physics.ubc.ca/thirdman/026graveyard3-anna.gif

--เพื่อนยังบอกอีกด้วยว่า ฉากนางเอกพับเสื้อผ้าใน ENDING CREDIT ของ THE BLOSSOMING OF MAXIMO OLIVEROS ทำให้เขารู้สึกเศร้ามาก

--ส่วนสาเหตุที่ทำให้ดิฉันชอบ THE BLOSSOMING OF MAXIMO OLIVEROS ในระดับ A+/A แทนที่จะเป็น A+ นั้น เป็นเพราะว่าดิฉันรู้สึกขัดใจเล็กน้อยกับตอนจบค่ะ ตอนแรกดิฉันนึกว่าพี่ชายสองคนของนางเอกจะไปแก้แค้นตำรวจจนเกิดความพินาศวอดวายตามมา แต่อยู่ดีๆพี่ชายสองคนนี้ก็เหมือนจะกลับตัวเป็นคนดีอย่างไม่มีสาเหตุ (หรือเปล่า) ดิฉันก็เลยงงๆว่าตกลงมันยังไงกันแน่ ตอนจบของหนังเรื่องนี้ก็เลยทำให้ดิฉันรู้สึกสะดุดเล็กน้อยกับพี่ชายสองคนของนางเอก และทำให้รู้สึกอคติว่าหนังเรื่องนี้หาทางออกให้กับตัวละครสองคนนี้อย่างง่ายดายไปหน่อย

--อย่างไรก็ดี ดิฉันชอบการสร้างสถานการณ์ต่างๆในช่วงก่อนหน้านั้นมากค่ะ แม้มันจะดูน้ำเน่าไปบ้าง เพราะหนังเรื่องนี้สร้างสถานการณ์ได้ตรงกับจินตนาการในฝันของดิฉันจริงๆ เพราะดิฉันเองก็เคยจินตนาการว่าตัวเองอยากจะทำหน้าที่เป็นนางพยาบาลให้กับชายหนุ่มรูปหล่อที่ได้รับบาดเจ็บ และคอยพยาบาลเขาจนกระทั่งร่างกายของเขาแข็งแรงหายดี และเขากับดิฉันก็ตกหลุมรักกันในช่วงเวลาที่เขาได้รับบาดเจ็บอยู่นั้น

เรื่องแต่งอีกเรื่องที่ใกล้เคียงกับจินตนาการทางเพศของดิฉันอันนี้มากๆก็คือ “ดาบมังกรหยก” ของกิมย้งค่ะ เพราะในละครทีวีเรื่องนี้ เตียบ่อกี้เคยได้รับบาดเจ็บตกเหวหรืออะไรทำนองนี้ เขาขยับร่างกายไม่ได้จนกว่าขาจะหายดี และเขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากฮึงลี้ หรือ “แมงมุม”ในช่วงนั้น ฮึงลี้คอยดูแลเขาและดูเหมือนจะตกหลุมรักเขาในเวลานั้น และต่อมาพอเธอรู้ว่าคนที่ทำให้เตียบ่อกี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสคือคุณหนูตระกูลจู เธอก็เลยบุกไปฆ่าคุณหนูตระกูลจูในทันที

--นอกจาก THE BLOSSOMING OF MAXIMO OLIVEROS แล้ว หนังอีกสองเรื่องที่ใกล้เคียงกับจินตนาการทางเพศในวัยเด็กของดิฉันอย่างมากๆก็คือ

1.BEAUTIFUL THING (1996, HETTIE MACDONALD, A+)

2.TAKESHI: CHILDHOOD DAYS (1990, MASAHIRO SHINODA, A)

No comments: