CAMBODIA 1965 (1965, King Narodom Sihanouk, Cambodia, documentary,
A+30)
You can watch this film here:
อาจจะไม่ใช่หนังที่น่าสนใจมากนักในแง่ aesthetics แต่เรารู้สึกว่ามันมีความสำคัญมากๆในเชิงประวัติศาสตร์
นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้เราชอบหนังเรื่องนี้สุดๆ เป็นเพราะว่ามันทำให้เรานึกถึง “ภาพลักษณ์แบบโกหกตอแหลของประเทศไทยในสื่อบางประเภท”
อย่างมากๆ เพราะสื่อบางประเภทชอบนำเสนอภาพลักษณ์ว่าประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข
และมันก็เลยเหมือนกับภาพลักษณ์ในหนังสารคดี/โฆษณาชวนเชื่อของกัมพูชาเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ตัวอย่างภาพลักษณ์แบบโกหกตอแหลของประเทศไทยที่เรานึกถึง
ก็อย่างเช่นในโฆษณาของบริษัท ISUZU ในตัวอย่างข้างล่างนี้
หรือที่ถูกนำมาล้อเลียนในหนังเรื่อง “ฉันจะเป็นชาวนาอีฟ” (2012, Viriyaporn Boonprasert, A+30)
เพราะฉะนั้นเวลาที่เราดู CAMBODIA 1965 เราก็เลยเกิดการเปรียบเทียบโดยอัตโนมัติว่า
ถ้าหาก CAMBODIA 1965 นำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศที่ดูเหมือนจะร่มเย็นเป็นสุขแบบประเทศไทยในปัจจุบัน
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับกัมพูชาในทศวรรษ 1970
ก็อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอนาคตก็ได้
ดู CAMBODIA 1965 แล้วเราคิดถึงสิ่งที่พูดกันในงานเสวนาหลังฉายหนังเรื่อง
THE RELUCTANT FUNDAMENTALIST (2012, Mira Nair) ที่รีดดิ้งรูมด้วย
เพราะสิ่งที่พูดกันในงานวันนั้นก็คือการบอกว่า “เราควรมองในสิ่งที่เราไม่เห็น”
เพราะในหนังอย่าง CAMBODIA 1965 สิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งที่ปรากฏในหนัง
อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ปรากฏในหนัง สิ่งที่ผู้สร้างหนังพยายามตัดทอนออกไป
สิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ผู้สร้างหนังต้องการนำเสนอ
เพราะสิ่งที่ไม่ปรากฏในหนังเรื่องนี้ หรือสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ปรากฏในหนังเรื่องนี้
ไม่ใช่สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง มันคือสิ่งที่มีอยู่จริง
แต่มันไม่ได้รับการนำเสนอออกมา และเมื่อสิ่งที่มีอยู่จริง ไม่ได้รับการนำเสนอออกมา
มันก็อาจจะปรากฏตัวออกมาเองในภายหลังในแบบที่รุนแรงที่สุด
เพราะฉะนั้นเราก็เลยคิดว่าในเมื่อหนังอย่าง CAMBODIA 1965 พยายามนำเสนอ
“ภาพลักษณ์ของประเทศที่ดูร่มเย็นเป็นสุข” เราก็เลยต้องตั้งคำถามต่อไปว่าอะไรคือสิ่งที่ไม่ปรากฏในหนังเรื่องนี้
มันมีอยู่จริงหรือไม่ แล้วไอ้สิ่งที่ไม่ปรากฏในหนังเรื่องนี้
แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง มันได้สำแดงตัวมันเองออกมาอย่างทรงพลังในภายหลังหรือไม่
แล้วคำถามต่อไปก็คือว่า โฆษณาของ Isuzu หรือสื่อบางประเภท
พยายามนำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศไทยว่าอย่างไร
แล้วอะไรที่เราไม่เห็นในโฆษณาเหล่านี้
No comments:
Post a Comment