Monday, January 12, 2009

HAPPINESS OF KATI (2009,Genwaii Thongdeenok, A/A-)

THIS IS MY COMMENT IN SCREENOUT WEBBOARD:
http://zaa.xq28.org/viewtopic.php?f=5&t=79&st=0&sk=t&sd=a&start=475

ตอบน้อง Matt

พี่ออกกำลังกายด้วยการเล่นโดดยางจ้ะ ตอนนี้โดดท่าลอยลมได้ถึงระดับอกแล้ว และอยู่ในระหว่างการฝึกโดดท่าลอยลมให้ได้ถึงระดับคางอยู่

ฮ่าๆๆ จริงๆแล้วพี่วิ่งบนเครื่อง TREADMILL ค่ะ วันละประมาณ 30 นาที แต่เครื่อง TREADMILL แต่ละเครื่องก็ตลกดี เพราะพี่ไม่รู้ว่ามาตรฐานมันตรงกันหรือมันเที่ยงตรงมากน้อยแค่ไหน เพราะเครื่องที่พี่วิ่งเป็นประจำ มันบอกว่าพี่เผาผลาญแคลอรี่ไปได้ 422 แคลอรี่/30 นาที แต่พอพี่ไปวิ่งอีกเครื่องนึง ซึ่งคนละยี่ห้อกัน มันก็บอกว่าพี่เผาผลาญแคลอรี่ได้เพียง 380 แคลอรี่ต่อครึ่งชั่วโมง ทั้งๆที่เครื่องที่สองนี้ทำให้พี่รู้สึกเหนื่อยหอบมากกว่าเครื่องแรกมาก พี่ก็เลยไม่รู้ว่าเครื่องไหนมันโกงตาชั่งกันแน่

ส่วน THE WIND THAT SHAKES THE BARLEY นั้น พี่ก็ชอบมากนะ แต่อาจจะชอบมันน้อยที่สุดในบรรดาหนังของเคน โลช 4 เรื่องที่ได้ดู ส่วนอีก 3 เรื่องที่ได้ดูก็คือ CARLA’S SONG (A+++++++++++++++), AE FOND KISS (A++++++++++) และ MY NAME IS JOE (A+)


ตอบน้อง ZM

ที่น้องนั่งไขว่ห้างเป็นประจำ เพราะน้องชอบสวมชุดแบบเดียวกับชารอน สโตนใน BASIC INSTINCT หรือเปล่าจ๊ะ ก็เลยต้องนั่งไขว่ห้างเพื่อความเรียบร้อย


ตอบคุณ Vivaldianto

เคยดู A CHORUS LINE เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่มาฉายทางช่อง 9 จำได้ว่าชอบหนังเรื่องนี้มากพอสมควร และดูจบแล้วก็ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมันโหดร้ายเหมือนกัน ที่คนเราต้องทุ่มเทอย่างมากในการแข่งขันเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ

พูดถึงประเด็นเรื่องการแข่งขันในชีวิตแล้ว ก็เลยทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า หนังที่อาจพูดถึงประเด็นนี้ได้อย่างโหดร้ายที่สุด ก็คงจะเป็น BATTLE ROYALE (2000, Kinji Fakasaku, A+) ตอนที่ดิฉันดูหนังเรื่องนี้ ดิฉันรู้สึกว่ามันสนุกมากๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของเรา แต่พอดูจบแล้ว ได้เจอกับคุณมโนธรรม เทียมเทียบรัตน์ (ถ้าจำไม่ผิด) และการพูดคุยกับคุณมโนธรรมก็เลยทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า จริงๆแล้ว BATTLE ROYALE มันก็มีความคล้ายคลึงกับการสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาลัยอย่างมากๆ


ตอบคุณ sensitiveman

ดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยมีปัญหากับเสมหะอย่างรุนแรงค่ะ จำได้ว่าตอนช่วงต้นปี 2006 ป่วยเป็นหวัดนานเป็นเดือนเลยกว่าจะหายสนิท ตอนนั้นมีอาการไข้แค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น แต่ถึงไข้จะหายไปแล้ว แต่ก็ยังมีเสมหะอยู่ในคอเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งทำให้ไม่สามารถไปดูหนังในโรงได้ เพราะเราจะต้องไอค่อกแค่กๆตลอด และอาจสร้างความรำคาญให้ผู้ชมคนอื่นได้ ช่วงนั้นตลอดทั้งเดือนก็เลยได้ดูหนังในโรงน้อยมาก โชคยังดีที่ปีนั้นเทศกาลหนัง BANGKOK INTERNATIONAL FILM FESTIVAL เลื่อนจากเดือนม.ค.ไปเป็นเดือนก.พ. ก็เลยทำให้อาการป่วยในครั้งนั้นหายทันก่อนถึงเทศกาลหนัง

ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเสมหะสามารถเข้าไปอยู่ในปอดได้ด้วย ดิฉันคงจะต้องระวังสุขภาพให้มากขึ้นไปอีก



ตอบน้อง BLACK FORESTS

ถึงแม้น้องอาจจะคิดว่า “ความไม่มีร่าน เป็นโลกอันประเสริฐ” อย่างที่น้องจั่วหัวเอาไว้ แต่พี่กลับเชื่อว่า “ร่านได้ อายอด” ค่ะ



ตอบคุณ TARENCE

ไม่เคยอ่านหนังสือความสุขของกะทิมาก่อน แต่พอได้ดูหนังแล้วก็ชอบในระดับประมาณ A/A- ค่ะ รู้สึกว่าหนังมันก็ดีน่ะนะ แต่เนื้อหาในหนังมันดูห่างไกลจากชีวิตจริงของดิฉันเสียเหลือเกินจนดิฉันไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมกับมันสักเท่าไหร่

No comments: