BIG TIME (2017, Kaspar Astrup Schröder, Denmark, documentary, A+30)
ในหนัง fiction นั้น
ผู้เขียนบทมักจะเป็นผู้กำหนดความเป็นความตายของตัวละคร
กำหนดความสุขความเศร้าของตัวละครได้ แต่ในหนังสารคดีบางเรื่องนั้น
บางทีเราก็คิดว่า “พระเจ้า” หรือ “ชะตากรรม” เป็นผู้เขียนบทหนังสารคดีเรื่องนั้น
บางทีพระเจ้าอาจจะมีอิทธิพลมากกว่าผู้กำกับ/ผู้เขียนบทหนังซะอีก
ในครึ่งแรกของหนังเรื่องนี้ เราได้รู้จักกับ Bjarke Ingels สถาปนิกหนุ่มชื่อดัง
ตอนที่เขาอายุได้ 1 ขวบครึ่ง
พ่อแม่ของเขาก็ประหลาดใจมากที่เขาดูหนังภาษาต่างประเทศรู้เรื่องหมดเลย
ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นอัจฉริยะ และเป็นสถาปนิกที่ประสบความสำเร็จมากๆ
เขาได้รับการว่าจ้างให้ร่วมออกแบบตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์บางตึกที่จะสร้างขึ้นใหม่ด้วย
แต่พอเข้าสู่ช่วงกลางเรื่อง Bjarke ก็มีอาการปวดหัว
หมอตรวจพบว่าเขามีเนื้องอกในสมอง และอาจจะต้องเจาะกะโหลกเพื่อผ่าเอามันออกมา
และเขาอาจจะทำงานได้เพียง 1-2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น
ไม่งั้นเขาจะปวดหัวอย่างรุนแรง
เขามีอายุประมาณ 40 ปีตอนที่รู้เรื่องเนื้องอกในสมองนี้
เขาเคยคิดว่าเขายังเหลือเวลาทำงานอีก 40 ปีข้างหน้า
แต่ตอนนี้มันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว
ตอนครึ่งแรกของหนัง เรารู้สึกอิจฉาเขามากๆ คนอะไรชีวิตมันจะดีขนาดนี้
ประสบความสำเร็จ เก่งกาจได้ขนาดนี้ แต่พอหนังเข้าสู่ช่วงครึ่งหลัง
เราก็บอกตัวเองว่า แค่วันนี้เรา “ไม่ปวดหัว” มันก็บุญมากๆแล้วล่ะ
เราค้นพบแล้วว่า หนังหลายๆเรื่องที่เราชอบสุดๆ
มันคือหนังที่ดูจบแล้วเราบอกกับตัวเองว่า “นี่แหละชีวิต”
และนี่ก็เป็นหนึ่งในหนังกลุ่มนี้ คือดูจบแล้วเราก็บอกกับตัวเองว่า “นี่แหละชีวิต”
No comments:
Post a Comment