Saturday, October 15, 2005

PAT BRASSINGTON

นักร้องหญิงญี่ปุ่นที่ชอบมากๆที่อยู่ยุคเดียวกับ MIKI IMAI (หรือยุคปลายทศวรรษ 1980)

1.MIHO NAKAYAMA
เพลงที่ชอบที่สุดคือ YOU’RE MY ONLY SHININ’ STAR


2.ANRI
เพลงที่ชอบมากคือ LOVERS ON VENUS
อยู่ในอัลบัม CIRCUIT OF RAINBOW (1989, A)
http://www.anribox.com/disco/album.html


3.AYUMI NAKAMURA
เพลงที่ชอบมากคือ TOMODACHI
อยู่ในอัลบัมชุด KIDS BLUE (1989, A)
http://www.midnightkids.net/disco.html
http://www.midnightkids.net/


4.KAHORU KOHIRUIMAKI หรือ KOHI

เพลงที่ชอบมากคือ DREAMER และ TIME GOES BY
http://www.kohhy.co.jp/disco/frameset.html
http://www.kohhy.co.jp/home2/home.html


5.YOKO MINAMINO หรือ NANNO
เพลงที่ชอบมากคือ ANATA WO AISHITAI (1988)
http://www.ne.jp/asahi/nanno/homepage/dic/single.html

เพิ่งเห็นว่าภาพยนตร์เรื่อง SUKEBAN DEKA (1987, HIDEO TANAKA) ที่นำแสดงโดย NANNO + YUI ASAKA ได้รับการผลิตขายเป็นดีวีดีแล้วที่ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา โอ๊ย อยากดูมากๆเลย ถึงไม่มีซับไตเติลภาษาอังกฤษ ก็อยากดูอยู่ดี เพราะละครทีวีชุด SUKEBAN DEKA ภาคสอง (สิงห์สาวหน้ากากเหล็ก) เป็นหนึ่งในละครทีวีที่ชอบที่สุดในชีวิต

ถ้าใครเห็นดีวีดีหนังเรื่อง SUKEBAN DEKA ภาคหนึ่งและภาคสอง มีขายที่ไหนในไทย ก็ช่วยบอกด้วยนะคะ อยากดูหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆเลยค่ะ

ดูรายละเอียดเกี่ยวกับดีวีดีภาพยนตร์เรื่อง SUKEBAN DEKA หรือ “สิงห์สาวนักสืบ” ได้ที่
http://www.cdjapan.co.jp/detailview.html?KEY=DSTD-2431

http://www.cdjapan.co.jp/pictures/l/14/33/DSTD-2431.jpg
http://www.cdjapan.co.jp/pictures/l/14/33/DSTD-2431_2.jpg


6.MISATO WATANABE
เพลงที่ชอบมากคือ MOONLIGHT DANCE


7.YUI ASAKA
เพลงที่ชอบมากคือ MELODY อยู่ในอัลบัมชุด MELODY FAIR (1989, A-) และ DREAM POWER ซึ่งอยู่ในอัลบัมชุด PRIDE (1989)
http://www.idollica.com/asaka/asakaalbums.html


YUI ASAKA เคยมีซิงเกิลที่ดังมากๆในไทยชื่อ CECILE โดยเพลงนี้ขึ้นถึงอันดับ 1 ของสถานี FM 88 ในช่วงประมาณปี 1988 และหลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือนต่อมา ก็มีพายุชื่อเซซิลพัดเข้ามาแถวประเทศไทยพอดี เพื่อนดิฉันคนนึงเลยแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกเพื่อนๆคนอื่นๆว่า ที่พายุลูกนี้ชื่อ “เซซิล” เป็นเพราะว่าพายุลูกนี้เคยพัดเข้ามาที่ญี่ปุ่นตอนที่ซิงเกิล “เซซิล” ของยูอิ อาซากะขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ทเพลงของญี่ปุ่น คนก็เลยเอาชื่อซิงเกิลเพลงนี้ไปตั้งเป็นชื่อพายุ แต่หลังจากนั้นพายุลูกนี้ก็พัดวกกลับขึ้นไปไซบีเรียอีกครั้ง ก่อนที่จะพัดกลับลงมาทางทิศใต้ในช่วง 2-3 เดือนต่อมา (ชอบกิจกรรมตอ-แหลสมัยมัธยมแบบนี้มากๆเลยค่ะ เป็นอะไรที่ฮามาก เป็นกิจกรรมที่ไม่เกิดประโยชน์ทางรูปธรรมใดๆทั้งสิ้น ไม่รู้เหมือนกันว่าโกหกเพื่อนๆเรื่องพายุเซซิลพัดวกกลับขึ้นไปไซบีเรียเพื่ออะไร แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ประทับใจมากๆมาจนถึงปัจจุบันนี้)


8.NORIKO SAKAI หรือ NORI-P
เพลงของเธอที่ชอบมากคือ LOVE LETTER
http://www.sunmusic.org/noriko/discography-album.html


9.MARIYA TAKEUCHI
เพลงที่ชอบมากคือ SINGLE AGAIN
เพลงนี้อยู่ในอัลบัมชุด QUIET LIFE (A)
http://www.cdjapan.co.jp/detailview.html?KEY=WPCV-10042


10.CHIKAKO SAWADA
เพลงที่ชอบมากคือ AITAI
http://www.megchan.com/lyrics/romaji/aitai.html



ตอบน้อง merveillesxx

รู้สึกว่าจะชอบหนัง 4 เรื่องที่ได้ดูมาในระดับใกล้เคียงกันเลยค่ะ

แทบไม่ได้อ่านหนังสือเลยค่ะในช่วง 10 ปีมานี้ เฉลี่ยอ่านประมาณปีละไม่ถึง 1 เล่ม

หนังสือที่ชอบสุดๆ

การ์ตูน

1.CANDY (1975-1979) แต่งโดย YUMIKO IGARASHI
http://users.skynet.be/mangaguide/au479.html

เจอเว็บไซท์ของ YUMIKO IGARASHI แต่เสียดายที่เป็นภาษาญี่ปุ่น
http://www.candycandy.net/


2.CRYSTAL DRAGON แต่งโดย ASHIBE YUHO
http://www.bongkoch.com/cgi-bin/database/generate.cgi?content=0632&board=girl


3.BLUE SONNET แต่งโดย SHIBATA MASAHIRO
http://www.absoluteanime.com/blue_sonnet/


4.HAIKARA-SANGA TOORU แต่งโดย YAMATO WAKI
http://users.skynet.be/mangaguide/au2099.html

การ์ตูนเรื่องนี้เคยสร้างเป็นภาพยนตร์ นำแสดงโดย YOKO MINAMINO และสุดหล่อ HIROSHI ABE

ชาตินี้เราจะได้มีโอกาสดูภาพยนตร์เรื่อง HAIKARA-SANGA TOORU มั้ยเนี่ย


5.ยอดรักจอแก้ว แต่งโดย SHIBATA AYUKO
http://wingtipcafe.com/about.html



นิยายไทย (ตอนเด็กๆเคยตามอ่าน “สกุลไทย” อยู่พักนึง)

1.ล่า ของ ทมยันตี

2.สมมุติว่าเขารักฉัน ของ กฤษณา อโศกสิน

3.ระบำไฟ ของ ม.มธุการี
http://love-stories.net/thnovels/mathukaree.html


4.นางทิพย์ ของ แก้วเก้า


5.สัมภเวสี ของ ตรี อภิรุม


เรื่องแต่งของต่างชาติ (ส่วนใหญ่ถูกบังคับให้อ่าน)

1.BAISE-MOI (VIRGINIE DESPENTES) ซื้อได้ที่ร้านคิโนะคุนิยะ สาขาเอ็มโพเรียม ดิฉันอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วทำให้รู้สึกมีกำลังใจต่อสู้กับปัญหาในชีวิต เพราะรู้สึกว่าอย่างน้อยปัญหาในชีวิตของตัวเองก็เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับปัญหาของสองสาวนางเอกในนิยายเรื่องนี้


2.LORD OF THE FLIES (WILLIAM GOLDING)


3.TESS OF THE D’UBERVILLES (THOMAS HARDY)


4.OUR TOWN (THORNTON WILDER) เรื่องนี้เป็นบทละครเวที


5.THE BAD PLACE (DEAN KOONTZ)
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/0425124347/104-2403282-1934359?v=glance


6.TO THE LIGHTHOUSE (VIRGINIA WOOLF)
อ่านไม่รู้เรื่อง แต่ชอบ


7.RECOLLECTIONS OF THE GOLDEN TRIANGLE (ALAIN ROBBE-GRILLET)
อ่านไม่รู้เรื่อง แต่ชอบ
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/0802152007/qid=1129295900/sr=8-1/ref=sr_8_xs_ap_i1_xgl14/104-2403282-1934359?v=glance&s=books&n=507846


8.THE ABSENCE (PETER HANDKE)
อ่านไม่รู้เรื่อง แต่ชอบ

นิยายเรื่องนี้เคยสร้างเป็นหนังด้วย นำแสดงโดย JEANNE MOREAU กับ BRUNO GANZ
http://www.gemini-films.com/catalogue/absence_us.htm

9.WOMEN IN THE RIVER LANDSCAPE (HEINRICH BOLL)
http://nupress.northwestern.edu/title.cfm?ISBN=0-8101-1205-1


10.THE STAND (STEPHEN KING)



หนังสือที่ไม่ใช่เรื่องแต่ง

1.ฟิล์มไวรัสเล่ม 1 + 2

2.FROM HITLER TO HEIMAT: THE RETURN OF HISTORY AS FILM (ANTON KAES)

3.GODARD ON GODARD
(ได้ชื่อ “MADELEINE DE SCUDERY” มาจากหนังสือเล่มนี้นี่แหละ)
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/0306802597/104-2403282-1934359?v=glance

4.TIME OUT FILM GUIDE
ไม่ได้อ่านจบหมดทั้งเล่มหรอกนะ แต่เป็นหนังสือที่เปิดอ่านบ่อยที่สุดเวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับหนัง
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/1904978487/qid=1129296643/sr=2-2/ref=pd_bbs_b_2_2/104-2403282-1934359?v=glance&s=books


ได้ไปดู SUPERNATURAL ARTIFICIAL ที่หอกลางของจุฬามาแล้ว นิทรรศการนี้มีหนังให้ดู 2 เรื่อง ซึ่งก็คือ

1.LINEAGE OF THE DIVINE (2002, MONIKA TICHASEK, A+)

หนังที่ฉายในคราวนี้เป็นเวอร์ชันยาว รู้สึกจะยาว 22 นาที ส่วนเวอร์ชันที่มาฉายที่หอศิลป์จามจุรีในปีที่แล้วรู้สึกจะยาวประมาณ 10 นาที นอกจากนี้ ในนิทรรศการนี้ยังมีภาพถ่ายจากหนังเรื่องนี้มาติดโชว์ให้ดูด้วย


2.SOWA (2004, DAVID NOONAN + SIMON TREVAKS, A)
http://www.japantimes.com/cgi-bin/getarticle.pl5?fa20040728md.htm

ชอบดนตรีประกอบของหนังเรื่องนี้มาก ส่วนหนังก็ดูหลอนๆดี เหมาะจะเอามาฉายควบกับ HOTEL ของ JESSICA HAUSNER

นี่คือภาพจากหนังเรื่อง THE LIKENING (2001) ของ DAVID NOONAN + SIMON TREVAKS ดูแล้วท่าทางจะหลอนไม่แพ้ SOWA หรือหนังของ DAVID LYNCH
http://www.caos.org.au/members/galleries/200GERTRUDE/images/DavidNoonan.jpg

http://www.roslynoxley9.com.au/artists/29/David_Noonan/304/


ในนิทรรศการนี้ยังมีผลงานภาพของศิลปินหลายคนด้วยค่ะ คนที่ดิฉันชอบที่สุดก็คือ

1.PAT BRASSINGTON ภาพของเธอดูหลอนๆดี
http://www.stillsgallery.com.au/artists/p_brassington/index.php

นี่คือภาพของ PAT BRASSINGTON ที่หาได้จากอินเทอร์เน็ตค่ะ บางภาพไม่ได้นำมาแขวนโชว์ที่หอกลางของจุฬาแต่อย่างใด

1.1 YOU AGAIN (2001) ของ PAT BRASSINGTON (ดูภาพนี้ได้ที่หอกลาง จุฬา)
http://www.stillsgallery.com.au/artists/p_brassington/img/you_again.jpg

1.2 TWINS (2001) (ดูภาพนี้ได้ที่หอกลาง จุฬา)
http://www.asialink.unimelb.edu.au/arts/japan/img/super_04.jpg

1.3 A SPY IN THE HOUSE OF LOVE (2004) (ดูภาพนี้ได้ที่หอกลาง จุฬา)
http://www.stillsgallery.com.au/artists/p_brassington/img/a_spy_in_the_house.jpg

1.4 SHAMPOO (2004)
http://www.stillsgallery.com.au/artists/p_brassington/img/shampoo.jpg

1.5 HELTER SKELTER (2004)
http://www.stillsgallery.com.au/artists/p_brassington/img/helterskelter.jpg

1.6 MAURICE & I (2003)
http://www.stillsgallery.com.au/artists/p_brassington/img/brassington_09.jpg

1.7 VOICING (2001) (ดูภาพนี้ได้ที่หอกลาง จุฬา)
http://www.stillsgallery.com.au/exhibitions/archive/2001/img/p_brass2.jpg

ภาพนี้ไม่รู้ชื่อ แต่ชอบมาก ดูแล้วนึกถึง “เกือกผี”
http://www.stillsgallery.com.au/exhibitions/archive/2003/img/brassington02.jpg



2.ELIZA HUTCHISON

เธอถ่ายภาพคนที่ทำอาการ “เกร็งๆ” ดูแล้วรู้สึกแปลกๆดี เพราะปกติเรามักจะได้ดูภาพของคนที่พยายามทำท่าทางให้เป็นธรรมชาติ หรือโพสท่าด้วยความมั่นใจ แต่คนในภาพถ่ายของเธอกลับทำอาการ “เกร็งๆ”

สาเหตุที่คนในภาพของเธอดู “เกร็งๆ” เป็นเพราะพวกเขาถูกจับห้อยหัวลง แต่ขณะที่เราดูภาพ เราจะไม่รู้ว่าพวกเขาถูกจับห้อยหัวอยู่

คุณสนธยา ทรัพย์เย็นบอกว่า ELIZA HUTCHISON ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพถ่ายยุคแรกๆ ยุค DAGUERREOTYPE ที่คนต้องโพสท่าต่อหน้ากล้องเป็นเวลานานหลายนาทีกว่าจะถ่ายภาพได้เสร็จ

เวลาดูภาพคนที่ทำอาการไม่เป็นธรรมชาติอย่างนี้ ดูไปดูมา กลับรู้สึกว่ามันเผยความรู้สึกจริงๆบางอย่างออกมา แทนที่เราจะได้ดูภาพ “คนฉีกยิ้มกว้าง” เรากลับได้ดูภาพ “คนยิ้มแหยๆ” หรือ “คนยิ้มเฝื่อนๆ” แทน ซึ่งบางทีอาการยิ้มเฝื่อนๆนี่แหละ มันอาจจะถ่ายทอดความรู้สึกภายในได้มากกว่าการฉีกยิ้มกว้างเสียอีก

http://www.asialink.unimelb.edu.au/arts/japan/img/super03.jpg

อันนี้เป็นภาพอะไรก็ไม่รู้ของ ELIZA HUTCHISON
http://www.caos.org.au/members/galleries/200GERTRUDE/images/ElizaHutchison.jpg



3.DARREN SYLVESTER

ขณะที่ดูภาพถ่ายของ DARREN SYLVESTER ดิฉันรู้สึกว่าภาพของเขาดูธรรมดาที่สุดในนิทรรศการนี้ มันเป็นเหมือนภาพถ่ายธรรมดาๆ ไม่ได้ SUPERNATURAL หรือไม่ได้ ARTIFICIAL เหมือนภาพของคนอื่นๆ

แต่พอเวลาผ่านไประยะนึง กลับรู้สึกว่าภาพถ่ายของ DARREN SYLVESTER มันฝังใจอย่างประหลาด ภาพของเขาเหมือนกับออกมาจากช่วงกลางของหนังเรื่องใดเรื่องนึง และมันเปิดโอกาสให้เราแต่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าภาพนั้นและแต่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามหลังภาพนั้นได้ตามใจชอบ ในขณะที่ภาพของคนอื่นๆ ดูเหมือนถูกกำหนดเนื้อเรื่องเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เราไม่สามารถแต่งเนื้อเรื่องตามใจชอบได้มากนัก

นี่คือภาพ THEY RETURN TO YOU IN SONG ของ DARREN SYLVESTER ค่ะ เป็นภาพของหญิงสาวคนนึงที่ขับรถอยู่ และได้ยินเสียงเพลงดังออกมาจากวิทยุในรถ และในทันใดนั้นเอง เพลงดังกล่าวก็ทำให้เธอรำลึกถึงความรักในอดีต ความรักที่พังทลายไปแล้ว เธอลืมเรื่องนั้นไปแล้ว แต่เพลงเพลงนั้นก็ทำให้เธอรำลึกถึงมันขึ้นมาได้อีกครั้ง

ตอนแรกดิฉันรู้สึกว่าภาพๆนี้ธรรมดามากค่ะ แต่พอดิฉันเริ่มจินตนาการถึงชีวิต, ความรัก, ผัวเก่า และผัวคนปัจจุบันของผู้หญิงคนนี้ ดิฉันก็รู้สึกว่าภาพนี้มันกระตุ้นจินตนาการและอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างดีมากๆ
http://www.asialink.unimelb.edu.au/arts/japan/img/super06.jpg

ภาพ HUMANS EVOLVE TO BE COMPLETELY NEW (2005)
http://www.ssfa.com.au/artists/5/art/183/

http://www.ssfa.com.au/images/gallery/large/21050531900.jpg

ภาพ ONE DAY WILL BE OUR LAST TOGETHER ของ DARREN SYLVESTER
http://arts.abc.net.au/sylvester/life/image6/default.htm

ภาพ EVERYTHING IN LIFE DEPENDS ON YOURSELF ของ DARREN SYLVESTER
http://www.moragalleries.com.au/dsylvester/everythinginlife2000.html

ภาพ COMPUTER NEVER TIRES (2002)
http://www.moragalleries.com.au/dsylvester/computers_never_tire.html

ภาพ FRIENDS THEN LOVERS THEN FRIENDS TO LOVERS TO FRIENDS (2003) (ดูแล้วนึกถึงหนังเรื่องเพื่อนสนิท)
http://www.moragalleries.com.au/dsylvester/Friends_Then_Lovers.html

DARREN SYLVESTER ได้รับอิทธิพลในการถ่ายภาพจากดนตรีของ NEW ORDER และ DAVID BOWIE อ่านเรื่องของ DARREN SYLVESTER ได้ที่
http://arts.abc.net.au/sylvester/bio.htm



FAVORITE ACTRESS

AMANDA LEPORE—LINEAGE OF THE DIVINE

AMANDA LEPORE ได้รับสมญานามว่าเป็น NUMBER ONE TRANSSEXUAL IN THE WORLD เพื่อนดิฉันบอกว่าเธอเหมาะจะมาปะทะกับ IRON PUSSY เป็นอย่างมาก

นี่คือเว็บไซท์ของเธอค่ะ
http://www.amandaleporeonline.com/

อ่านประวัติที่ BOY GEORGE เขียนถึง AMANDA LEPORE ได้ที่นี่
http://www.btinternet.com/~s.essom/axmamanda.htm

นี่คือรูปของ AMANDA LEPORE ที่ทำโดย DAVID LACHAPELLE ซึ่งเป็นตากล้องแฟชั่น, ผู้กำกับมิวสิควิดีโอ และผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีชื่อดัง
http://www.davidlachapelle.com/gallery/20.shtml

รูปของ AMANDA LEPORE ดูรูปนี้แล้วนึกถึง ANNIE LENNOX
http://www.queenmother.tv/nycgirl/amanda/amanimages/aman10.jpg

รูปอื่นๆ ของ AMANDA LEPORE
http://www.btinternet.com/~s.essom/amandaleporebig.htm

http://www.queenmother.tv/nycgirl/amanda/amanimages/aman7.jpg


FAVORITE SONG

SECRET LOVE—LINEAGE OF THE DIVINE
http://homepage.ntlworld.com/gary.hart/lyricsd/day.html

เพลงนี้เป็นเพลงของ DORIS DAY ที่ต่อมากลายเป็นเพลงขวัญใจเลสเบี้ยน แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่าเวอร์ชันที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่อง LINEAGE OF THE DIVINE เป็นเวอร์ชันที่ร้องโดย SINEAD O’CONNOR หรือเปล่า


FAVORITE SET DECORATION
LINEAGE OF THE DIVINE

FAVORITE COSTUME DESIGN
LINEAGE OF THE DIVINE

FAVORITE CINEMATOGRAPHY
LINEAGE OF THE DIVINE

************นิตยสาร MOVIE TIME เล่มใหม่ ลงบทความตอนต่อเกี่ยวกับ ULRIKE OTTINGER ค่ะ และลงบทวิจารณ์หนังในเทศกาลไว้หลายเรื่องด้วยกัน*********

***********หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ “กรุงเทพธุรกิจ BIZWEEK” ฉบับใหม่ ลงบทความเกี่ยวกับ ULRIKE OTTINGER ไว้ด้วยค่ะ*************


ขอบคุณคุณ GENTLE มากค่ะที่นำข่าวมาบอก


ตอบคุณอ้วนlovejuice

พอจะนึกถึงเพลงโฆษณากระจกไทยอาซาฮีออกเหมือนกันค่ะ

จำไม่ได้ว่าเป็นโฆษณาขนมยี่ห้อปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ ที่ใช้เด็กแขกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์

โฆษณาบางอันสร้างปรากฏการณ์จนโด่งดังไปทั่วประเทศเหมือนกัน เท่าที่จำได้ โฆษณาที่ดังสุดๆก็รวมถึง

1.โฆษณาอะไรก็ไม่รู้ที่พูดถึง “เด็กกินดิน” ที่จังหวัดศรีสะเกษ

2.โฆษณา “แฟลตปลาทอง”

3.โฆษณาที่ให้ผู้ชายมาเดินบนทางแคบๆเหนือที่สูง จะตกมิตกแหล่ แต่ไม่เฉลยว่าเป็นโฆษณาอะไร ทำให้คนลุ้นรอกันมากว่ามันเป็นโฆษณาอะไรกันแน่ และในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ก็เฉลยว่าเป็นโฆษณาประกันชีวิต

รู้สึกว่าโฆษณานี้จะเป็นโฆษณาแรกที่ได้ดู ที่ “ไม่จบในตอนเดียว” แต่หลังจากนั้นก็มีโฆษณาแบบ “หลายตอนจบ” ตามมาอีกหลายอัน ซึ่งรวมถึงโฆษณามิสตีน

4.เห็นคนบอกว่าโฆษณาที่ธรรมดาที่สุด แต่ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของการโฆษณามากที่สุด ก็คือโฆษณาที่ให้เด็กๆกระโดดเชือก แล้วปากก็ร้องตะโกนว่า “ขอบคุณเทนโซพลาสท์” ไปเรื่อยๆ

โฆษณาดังกล่าวไม่ได้ดูดี, สร้างสรรค์, แหวกแนว, เปรี้ยว, สวย หรืออะไรเลย แต่กลับทำให้คนจำยี่ห้อพลาสเตอร์ปิดแผล “เทนโซพลาสท์” กันได้ทั้งประเทศ

พูดถึงโฆษณาน้ำอัดลม ก็จะนึกถึงโฆษณาที่ให้ปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจมาประชันกับทีน่า เทอร์เนอร์ และโฆษณามาดอนน่าเพลง LIKE A PRAYER (1989)


ตอบคุณอ้วน

เห็นคุณอ้วนเคยพูดถึง BLOG ของแมลงปีศาจ ก็เลยเอาลิงค์มาให้ค่ะ
http://demonbug.bloggang.com

ขอบคุณคุณอ้วนและน้อง ZM มากค่ะที่ช่วยนำลิงค์รายการนายแบบมาให้ ดิฉันชอบมากๆเลยค่ะ ดิฉันชอบเบอร์ 2, 3, 4, 7 และ 9 ค่ะ สาเหตุที่ชอบหลายคนคงเป็นเพราะพวกเขาถอดเสื้อ ก็เลยทำให้รู้สึกชอบได้ง่ายหน่อย ถ้าหากพวกเขาใส่เสื้อ ก็อาจจะทำให้ชอบพวกเขาได้ยากขึ้น โฮะ โฮะ โฮะ

ตอนนี้ชอบเบอร์ 9 มากที่สุดค่ะ

http://www.m-thailand.tv/m-thailand/m2.php
http://www.m-thailand.tv/m-thailand/m3.php
http://www.m-thailand.tv/m-thailand/m4.php
http://www.m-thailand.tv/m-thailand/m7.php
http://www.m-thailand.tv/m-thailand/m9.php

ชอบรูปพระเอก “เกือกผี” ที่คุณอ้วนอุตส่าห์หามาให้มากเลยค่ะ


ตอบคุณ CHRIS’S GIRLFRIEND

ดีใจที่สุดเลยค่ะที่มีคนรู้จักวง “ก้างปู” รู้สึกว่าเทปของวงนี้ได้กลายเป็น “ของหายาก” หรือ “ของหายสาบสูญ” ไปเสียแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ยังมีเทปของวง “ก้างปู” เหลืออยู่กี่ม้วนบนโลกใบนี้ มีสิทธิอาจหลงเหลืออยู่ไม่ถึง 100 ม้วน

ชอบเพลง “อิจฉาตาร้อน” ของแสงระวีมากๆเหมือนกันค่ะ เสียงของเธอแหลนดีมาก

พูดถึงสัตว์ ก็นึกถึงนักร้องชื่อ “เต่าไฟฟ้า” ขึ้นมาเลยค่ะ ไม่รู้มีใครยังจำเธอได้หรือเปล่า

เคยได้ยินว่าในยุคต้นทศวรรษ 1990 มีศิลปินหญิงไทยสองคนที่ตั้งชื่อวงว่า “แร็พสเปน” หรืออะไรทำนองนี้ แต่ดิฉันหาข้อมูลของสองสาวแร็พสเปนไม่เจอเลย ดิฉันไม่เคยฟังเพลงของเธอค่ะ แต่จำได้ว่าเพื่อนดิฉันมาด่าๆอะไรสักอย่างเกี่ยวกับวงนี้ให้ดิฉันฟัง และดิฉันก็ติดใจมากว่าทำไมผู้หญิงไทยสองคนนี้ถึงตั้งชื่อวงว่า “แร็พสเปน” เพราะสเปนกับเพลงแร็พมันไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหน และมันจะมาเกี่ยวกับเพลงไทยที่พวกเธอร้องยังไงบ้าง

ถ้าเข้าใจไม่ผิด เพลง “ปัดติโถ” ของปฤษณา วงศ์ศิริ ดัดแปลงมาจากเพลง “โธ่เอ๊ย” ของ ปานามาค่ะ เพราะเนื้อเพลง “โธ่เอ๊ย” จะร้องว่า

“โธ่เอ๊ยๆๆๆ นึกว่าอะไร”

ส่วนเนื้อเพลง “ปัดติโถ” จะร้องว่า

“ปัดติโถๆๆๆ คึดว่าอันหยัง”

ฟังดนตรีเพลง “โธ่เอ๊ย” ได้ที่นี่
http://www.yakyaihost.net/kara/kara1/midi40.htm

ส่วน “ไม่อยากเป็นแปรงสีฟัน” ก็เป็นเพลงของวงปานามาเหมือนกัน

ชอบคำว่า “เงียบฉี่” ในเนื้อเพลงของตั๊กลีลามากๆค่ะ

มีเพลงนึงของตั๊ก ที่ชอบมากๆ เพลงนั้นจะร้องว่า “ฝีมือไม่มี” แต่จำไม่ได้แล้วว่าเพลงนั้นคือเพลงอะไรอยู่ในอัลบั้มไหน

นักร้องหญิงคนนึงที่ชอบมากๆในยุคนั้นคือสุกัญญา มิเกล ถ้าใครคิดถึงเธอก็สามารถไปชมบทบาทการแสดงของเธอได้ใน “เด็กเดน” (B-) ค่ะ แต่น่าเสียดายที่สุกัญญา มิเกลบทน้อยไปหน่อย

ตอนนี้อยากฟังอัลบัมของ “ขวัญภิรมย์ หลิน” มากๆเลยค่ะ รู้สึกว่าเธอก็จะเคยออกเทปในยุคนั้นเหมือนกัน

ละครเก่าที่อยากดูใหม่มากๆในช่วงนี้ ก็คือ “มาณวิกาใจร้าย” ถ้าจำไม่ผิด ละครเรื่องนี้ฉายทางช่อง 5 และนำแสดงโดยวีนัส มีวรรณ กับขวัญภิรมย์ หลิน

ศิลปินฮาๆของฝรั่งที่ดิฉันชอบมากในยุคนั้นก็คือ

1.CLUB 69 กับเพลง LET ME BE YOUR UNDERWEAR

2.SISTER BLISS กับเพลง CAN’T GET A MAN, CAN’T GET A JOB, LIFE’S A BITCH!

3.UNCANNY ALLIANCE กับเพลง I GOT MY EDUCATION


ลองเสิร์ชชื่อของขวัญภิรมย์ หลินดู เสิร์ชไปเสิร์ชมา เจอรายชื่อวีซีดีหนังไทยแปลกๆหลายเรื่องเหมือนกัน อย่างเช่น

1.ความรักไม่มีชื่อ นำแสดงโดยขวัญภิรมย์ หลิน + เล็ก ไอศูรย์

2.เช้งกระเด๊ะ นำแสดงืโดยกิ๊ก พิมพิไล

3.ตัณหาสาวพันธุ์โหด นำแสดงโดย ดาริน

4.ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผี นำแสดงโดย เพ็ญ

5.พยัคฆ์เหนือเสืออีสานยมบาลใต้ นำแสดงโดย สมบัติ

6.ผัวเชลย นำแสดงโดย บิณฑ์-ใหม่ เจริญปุระ

7.สาวแรงสูง นำแสดงโดย กรุง-อรัญญา

8.มันโผล่มาตามนัด นำแสดงโดย ปภัสรา

9.เธอชื่อลินดา นำแสดงโดย ณหทัย
(ในขณะที่หนังเรื่อง "ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด" นำแสดงโดย ลินดา)

10.สตรีหมายเลข 0 นำแสดงโดยพิสมัย วิไลศักดิ์ (รู้สึกเรื่องนี้ยังไม่มีขายเป็นวีซีดี)

ดูรายละเอียดได้จากกระทู้นี้ค่ะ
http://www.thaifilm.com/forumDetail.asp?topicID=1717&page=1&keyword=

จำเพลงของปวีณา ชารีฟสกุลไม่ได้แล้ว แต่ชอบละครเรื่อง “บ่วง” (1992, สุพล วิเชียรฉาย) ที่เธอนำแสดงมากๆ ละครเรื่องนี้ฉายทางช่อง 3 และนำแสดงโดยพิมพ์พกา เสียงสมบุญ กับเล็ก ไอศูรย์ รู้สึกว่าละครเรื่องนี้น่ากลัวมาก และดิฉันขอจัดให้เป็นละครโทรทัศน์คลาสสิคของไทยเรื่องนึง
http://www.thaitv3.com/drama_old46/history/2535.html

สุกัญญา นาคประดิษฐ์ ไม่แน่ใจว่าคือคนที่เคยเล่นเป็นนางเอกละครวัยรุ่นทางช่อง 7 ตอนเด็กๆหรือเปล่า แต่พอเธอโตขึ้น เธอก็มาเล่นเป็นนางอิจฉาในละครโทรทัศน์เรื่อง”ปลาบู่ทอง” ที่มีวิญญู จันทร์เจ้าเล่นด้วย

ดิฉันจำสุกัญญา นาคประดิษฐ์ไม่ค่อยได้ แต่จำ “สุกัญญา นาคสมภพ” ได้ดีมากค่ะ การแสดงของเธอในละครเรื่อง “คุณหญิงบ่าวตั้ง” เป็นการแสดงที่อาจจะห่างไกลจากคำว่า “คุณภาพ” มากที่สุด แต่กลับเป็นหนึ่งในการแสดงที่ “คลาสสิค” ที่สุดในความเห็นของดิฉัน


ส่วนเพลงของตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด ที่ชอบมากๆ คือเพลง "ไม่มีฝีมือ" ค่ะ ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะโดนทิ้ง อยู่เร็วๆนี้ ถึงได้ร่าเริง ปล่อยตัว ไปตามเดิม ก็นึก ว่าเธอดีอย่างเดิม ครั้นฉัน ค้นพบธาตุแท้เธอ แทบเพ้อ แทบเหม่อ เผ่าพันธ์ ตระกูลคนใจดํา เป็นญาติ เธอ หากรู้ว่าเธอ เป็นคนวางแผน คงไม่จบแค้น ฉันไม่จาง อาจเดินคนละทาง ตัดหาง กันไปนาน แล้ว ครั้นนึกถึงรัก ชักเสียดาย อย่างกาย ใจที่ให้ ใส่ไป ในตัวเธอเพียงใด ไม่ได้ ดี ไม่มีฝีมือ ฝีมือ รั้งเธอไม่ให้เขา แย่งไป โทษใครกันทำไม ก็เรามันด้อย ฝีมือ ฝีมือไม่ดี เขาดี ซ้ำยัง ได้เธอเป็นใจ บวกแรงกันไป แล้วฉันไปสู้อะไร ไหว ไปเถอะไป ทิ้งฉันไว้ แต่อย่ากลับมา

ฟังดนตรีเพลงนี้ได้ที่ http://www.tourtham.com/song/3034.html

No comments: