--ขอแก้ไขข้อผิดพลาดค่ะ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง DINING TIME (2006, A) ที่จริงชื่อ SHIGEAKI IWAI ค่ะ
ตอบคุณอ้วน
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับคำชม
แนะนำมิวสิควิดีโอเกี่ยวกับการเดินอีก 2 อัน
1. PUISQUE VOUS PARTEZ EN VOYAGE
http://www.youtube.com/watch?v=9pGw_3ANHEs
แนะนำโดยคุณ pc แห่งเว็บบอร์ดไบโอสโคป
2.มิวสิควิดีโอเกี่ยวกับการเดินอีกอันที่เฮี้ยนมากคือ THE SENSUAL WORLD ของ KATE BUSH
http://www.youtube.com/watch?v=AJc64xncBt4
(อยากให้มีมิวสิควิดีโอที่ KATE BUSH, TORI AMOS และ NINA HAGEN เดินมาเจอกันที่ทางสามแพร่ง)
--พูดถึงหอกลาง จุฬา แล้วก็เสียดายเหมือนกันที่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีฉายภาพยนตร์อิตาลีเรื่อง
1.CATERINA IN THE BIG CITY (2003, PAOLO VIRZI) ซึ่งเป็นทั้งหนังเด็กและหนังการเมือง
http://www.imdb.com/title/tt0366287/
Caterina, who loves music, moves at 12 from the sticks to Rome where her parents must care for an invalid aunt. At school, her simple and direct ways make her appealing to two cliques: one led by Margherita, the Bohemian daughter of leftist intellectuals, and the other headed by the preppy Daniela, daughter of one of Berlusconi's ministers. Caterina's navigating a new city, a new school, new friends, the onset of puberty, and the cross-cutting politics of wealth, class, and ideology in Rome is complicated by her parents, each profoundly unhappy. What hope is there for someone who doesn't play the game?
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/22/32/18395133.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/22/32/18392196.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/22/32/18392197.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/22/32/18392198.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/22/32/18375017.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/22/32/18375018.jpg
2.KISSES AND HUGS (1999, PAOLO VIRZI)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B000G8NZ0I.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V64177358_.jpg
It is the story of a group of people in despair (Mario with a failed restaurant and three brothers with a breeding of ostriches near Cecina) who casually meet together. Mario is the name of a man, who could save the breeding from the end and when the brothers meet the failed Mario (instead of the rich) at the station, they believe he is their savior. Mario would like to explain, but when he finds love and friendship in that big and fool family, he prefers to continue his lie.
--วันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีงานฉายหนังที่น่าดูชนกันถึง 3 งาน ทั้งงานหนังอิตาลีที่หอกลางจุฬา, หนังเรื่อง IT’S RAINING ON SANTIAGO (1976, HELVIO SOTO) ที่ธรรมศาสตร์ และงานฉายหนังแอนิเมชั่นที่ศิลปากร แต่ก็รู้สึกว่าไม่ว่าตัวเองจะเลือกไปดูหนังที่ไหน ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ “ไม่ผิด” ทั้ง 3 ทางเลือก
--ส่วนวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น ตอนแรกลังเลว่าจะไปดูหนังที่ FLIP CAFE, ดูละครที่ถ.พระอาทิตย์ หรือดูละครที่ภัทราวดีเธียเตอร์ดี แต่ไปๆมาๆปรากฏว่าวันนั้นท้องเสีย ก็เลยต้องกลับมานอนซมอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกไปดูละครที่ไหนทั้งสิ้น
ตอบคุณโอลิเวอร์ + คุณอ้วน
หลังกลับจากไปเที่ยวแล้วก็รู้สึกเซ็งๆมากค่ะที่ต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง และสิ่งนี้ทำให้นึกถึงบทกวีสองบทของ ROBERT FROST ที่อาจจะไม่ได้พูดถึงความรู้สึกนี้ แต่สามารถนำมาเทียบเคียงกันได้
1.Stopping By Woods On A Snowy Evening
Whose woods these are I think I know.
His house is in the village though;
He will not see me stopping here
To watch his woods fill up with snow.
My little horse must think it queer
To stop without a farmhouse near
Between the woods and frozen lake
The darkest evening of the year.
He gives his harness bells a shake
To ask if there is some mistake.
The only other sound's the sweep
Of easy wind and downy flake.
The woods are lovely, dark and deep.
But I have promises to keep,
And miles to go before I sleep,
And miles to go before I sleep.
บทกวีนี้พูดถึงผู้ชายคนนึงที่อาจจะอยู่ในระหว่างการทำงาน เขากำลังขี่ม้า และเขาก็อยากจะหยุดพักผ่อนเหลือเกิน เขาหยุดม้าของเขาอยู่กลางป่า และมองดูหิมะตกลงมาเรื่อยๆในป่า นั่นเป็นสิ่งที่เขาอาจจะไม่ควรทำ เขาไม่ควรหยุดพักอยู่เฉยๆกลางป่าที่มืดมิด และมองดูหิมะตกลงมาเรื่อยๆเช่นนั้น แต่เขาก็อยากจะหยุดอยู่แค่นั้น เขาแทบไม่อยากจะเดินทางต่อไป แต่ในที่สุดเขาก็จำใจออกเดินทางต่อไป เขาต้องเดินทางต่อไปอีกหลายไมล์กว่าภารกิจของเขาจะเสร็จสิ้น และเขาถึงจะได้นอนหลับพักผ่อนเสียที
อ่านบทกวีนี้แล้วบางทีก็ทำให้นึกถึงความรู้สึกของตัวเองที่ไม่อยากจะลุกจากเตียงนอนไปทำงานเลย แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจริงๆแล้วบทกวีนี้หมายถึงอะไร บางคนบอกว่าอ่านบทกวีนี้แล้วนึกถึงความรู้สึกของคนที่อยากฆ่าตัวตาย แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจไม่ฆ่าตัวตายและมีชีวิตอยู่ต่อไป (สังเกตความรู้สึกหม่นหมองในบทกวีนี้ได้จากประโยคอย่างเช่น THE DARKEST EVENING OF THE YEAR)
2.BIRCHES
When I see birches bend to left and right
Across the lines of straighter darker trees,
I like to think some boy's been swinging them.
But swinging doesn't bend them down to stay.
Ice-storms do that. Often you must have seen them
Loaded with ice a sunny winter morning
After a rain. They click upon themselves
As the breeze rises, and turn many-coloured
As the stir cracks and crazes their enamel.
Soon the sun's warmth makes them shed crystal shells
Shattering and avalanching on the snow-crust
Such heaps of broken glass to sweep away
You'd think the inner dome of heaven had fallen.
They are dragged to the withered bracken by the load,
And they seem not to break; though once they are bowed
So low for long, they never right themselves:
You may see their trunks arching in the woods
Years afterwards, trailing their leaves on the ground,
Like girls on hands and knees that throw their hair
Before them over their heads to dry in the sun.
But I was going to say when Truth broke in
With all her matter-of-fact about the ice-storm,
I should prefer to have some boy bend them
As he went out and in to fetch the cows--
Some boy too far from town to learn baseball,
Whose only play was what he found himself,
Summer or winter, and could play alone.
One by one he subdued his father's trees
By riding them down over and over again
Until he took the stiffness out of them,
And not one but hung limp, not one was left
For him to conquer. He learned all there was
To learn about not launching out too soon
And so not carrying the tree away
Clear to the ground. He always kept his poise
To the top branches, climbing carefully
With the same pains you use to fill a cup
Up to the brim, and even above the brim.
Then he flung outward, feet first, with a swish,
Kicking his way down through the air to the ground.
So was I once myself a swinger of birches.
And so I dream of going back to be.
It's when I'm weary of considerations,
And life is too much like a pathless wood
Where your face burns and tickles with the cobwebs
Broken across it, and one eye is weeping
From a twig's having lashed across it open.
I'd like to get away from earth awhile
And then come back to it and begin over.
May no fate wilfully misunderstand me
And half grant what I wish and snatch me away
Not to return. Earth's the right place for love:
I don't know where it's likely to go better.
I'd like to go by climbing a birch tree,
And climb black branches up a snow-white trunk
Toward heaven, till the tree could bear no more,
But dipped its top and set me down again.
That would be good both going and coming back.
One could do worse than be a swinger of birches.
บทกวีนี้พูดถึงอะไรหลายๆอย่าง ลองค้นหาความหมายของบทกวีนี้ได้จากอินเทอร์เน็ต
http://www.cs.rice.edu/~ssiyer/minstrels/poems/1272.html
แต่สิ่งที่โดนใจดิฉันมากที่สุดในบทกวีนี้ก็คือบางท่อนของบทกวีที่ทำให้นึกถึงความรู้สึกของผู้ใหญ่คนนึงที่รู้สึกเหนื่อยล้ากับชีวิตมากเหลือเกิน เขารู้สึกว่าการดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้มันเต็มไปด้วยเรื่องที่ต้องกังวล เรื่องที่ต้องเป็นห่วงมากมาย เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในป่าที่ไม่มี “เส้นทาง” เขารู้สึกว่าเขากำลังเดินผ่านต้นไม้ที่ขึ้นอยู่รกทึบในป่า และถูกกิ่งไม้ข่วนหน้าข่วนตาจนเป็นแผล แถมกิ่งไม้ยังข่วนตาข้างนึงจนทำให้เขาต้องร้องไห้อีกด้วย
เมื่อชีวิตในปัจจุบันทำให้เขารู้สึกเป็นทุกข์เช่นนั้น เขาก็เลยนึกถึงชีวิตในวัยเด็กที่เขาได้ปีนไต่ไปตามกิ่งต้นเบิร์ช การได้ไต่กิ่งต้นเบิร์ชทำให้เขารู้สึกว่าเขาได้หลุดออกไปจากโลก และได้ไต่ขึ้นไปจนถึง “สวรรค์” และเขาก็อยากจะทำอย่างในวัยเด็กอีกครั้ง
เนื้อหาของบทกวีในท่อนนี้ทำให้นึกถึงความรู้สึกของคนที่อยากหยุดพักผ่อนจากการทำงานสักระยะ เพื่อหาความสุขสนุกสนานใส่ตัวเองให้เต็มที่ อยากจะลืม “โลกแห่งความเป็นจริง” สักระยะ อยากจะทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนอยู่ในสวรรค์
แต่เนื้อหาของบทกวีนี้ไม่ได้ยุให้คนละทิ้งหน้าที่การงานแต่อย่างใด เพราะบทกวีนี้บอกว่าเขาอยากจะไต่ต้นเบิร์ชขึ้นไปจนถึงสวรรค์ก็จริง แต่เขาก็อยากจะอยู่บนสวรรค์สักระยะนึงเท่านั้น และเขาก็จะไต่ต้นเบิร์ชกลับลงมายังพื้นโลกอีกครั้ง เขาบอกว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาก็คือการไต่ขึ้นไปจนถึงสวรรค์และไต่กลับลงมายังโลก ไม่ใช่การไต่ขึ้นไปถึงสวรรค์แล้วไม่กลับลงมาอีกเลย
รูปต้นเบิร์ช
http://smart-studio.com/birches.jpg
http://www.gilbertart.com/images/Landscape/7020%20Birches.jpg
http://www.kgcphoto.com/Upper_Michigan_Landscapes/white-birches-horiz-1-2.jpg
หนังและละครเวทีที่ได้ดูในวันนี้
1.WHAT HAPPENED TO MAGDALENA JUNG? (1983, CHRISTOPH SCHLINGENSIEF, A++++++++++)
http://www.schlingensief.com/index_eng.html
รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เฮี้ยนพอๆกับหนังของ ULRIKE OTTINGER และ HERBERT ACHTERNBUSCH และนี่คงเป็นหนึ่งในหนังสั้นที่ชอบที่สุดในปีนี้อย่างแน่นอน
ดูหนังเรื่องนี้แล้วตัดสินไม่ได้จริงๆว่าตัวละครตัวไหนแรงที่สุดในเรื่อง ทั้งนางเอกที่เหาะเหินได้อย่างไม่มีสาเหตุ, พิธีกรโทรทัศน์หญิงที่ใช้เทคนิคด้านภาพในการสร้างความเฮี้ยนให้ตัวเอง (ด้วยการแบ่งหน้าจอออกเป็นสองช่อง แต่ละช่องพูดไม่ตรงเวลากัน และมีการสลับภาพกลับหัวกลับหางในบางระยะ), พิธีกรชาย, ผู้โดยสารหญิงในเครื่องบิน และสาวเล่นเปียโนที่มีท่าทางการจิกกระดาษโน้ตเพลงที่รุนแรงมาก
เว็บไซท์ของ CHRISTOPH SCHLINGENSIEF
http://www.schlingensief.com/index_eng.html
ภาพจากผลงานของเขา
http://www.schlingensief.com/bildergalerien/034/t052_1.jpg
http://www.schlingensief.com/bildergalerien/041/f047_1.jpg
http://www.schlingensief.com/bildergalerien/041/f047_4.jpg
http://www.schlingensief.com/bildergalerien/041/f047_7.jpg
http://www.schlingensief.com/bildergalerien/041/f047_16.jpg
2.THE GURU THEATRE (A+)
แสดงโดย B-FLOOR
กำกับโดย ธีระวัฒน์ มุลวิไล (TEERAWAT MULVILAI)
3.THE DEATH KING (1990, JORG BUTTGEREIT, A+)
4.PERFORMANCE BY LIFEWORK DANCE COMPANY (A+)
แสดงโดยคุณพิเชษฐ์ กลั่นชื่น และลูกศิษย์
ดูแล้วรู้สึกว่าคุณพิเชษฐ์ กลั่นชื่น เจ๋งมากๆ ไม่แพ้คุณประดิษฐ์ ประสาททอง (MAHAJANOK NEVER SAY DIE EPISODE II) และคุณมานพ มีจำรัส (วันทอง นางผู้เป็นมากกว่าหญิงสองใจ) รู้สึกชอบทั้งสามคนนี้อย่างมากๆ
5.เด็กชายชั่วคราว เด็กสาวชั่วคืน (A-)
แสดงโดย คณะละครมรดกใหม่
กำกับโดย ฐานชน จันทร์เรือง TANACHON CHANDRUNAG
--น้องเก้าอี้มีพนักแนะนำว่าในเดือนธ.ค.นี้จะมีการจัด THE SECOND INTERNATIONAL BUTOH FESTIVAL ที่หอศิลป์ตาดูด้วย ดูรายละเอียดได้ที่
http://www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C4899042/C4899042.html
Sunday, November 26, 2006
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
1 comment:
ผมไปนั่งดู MAGDALENA JUNG แบบเอ๋อๆ ไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะดูแล้วไม่เก็ตว่าหนังต้องการบอกอะไร เห็นคนข้างๆ หัวเราะคิกๆ คักๆ แล้วนึกอิจฉา บางทีความสามารถในการ appreciate ศิลปะ ก็มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตเหมือนกันนะ
Post a Comment