Friday, May 09, 2014

Desirable Actor: Poodit Koonchanasongkram – EMPRESS DOWAGER TZU-HSI THE MUSICAL (2014, Kriangsak Silakong, stage play, A+25)



Desirable Actor: Poodit Koonchanasongkram – EMPRESS DOWAGER TZU-HSI THE MUSICAL (2014, Kriangsak Silakong, stage play, A+25)

 

สิ่งหนึ่งที่เราชอบสุดๆในซูสีไทเฮา เดอะ มิวสิคัล ก็คือการที่ละครเวทีเรื่องนี้มีโครงสร้างบางอย่างที่ทำให้เรานึกถึง BREMEN FREEDOM (1972, Rainer Werner Fassbinder) ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่เราชื่นชอบที่สุดในชีวิต และ “เพลิงพ่าย” (1990) ซึ่งเป็นหนึ่งในละครทีวีที่เราชื่นชอบที่สุดในชีวิต และสิ่งนั้นก็คือการที่ละครเวที/ภาพยนตร์/ละครทีวี 3 เรื่องนี้ ต่างก็เล่าเรื่องของนางเอก ที่ไล่ฆ่าตัวละครประกอบไปทีละคน ทีละคน และกว่าเรื่องราวจะจบลง เราก็นับกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียวว่านางเอกฆ่าตัวละครไปแล้วกี่คนกันแน่ ถ้าหากให้เราประเมินอย่างคร่าวๆ นางเอกเพลิงพ่ายน่าจะฆ่าตัวละครอื่นๆทั้งทางตรงและทางอ้อมไปประมาณ 5 คน, นางเอก BREMEN FREEDOM ฆ่าคนไปประมาณ 15 คน (สร้างจากเรื่องจริง) ส่วนตัวละครซูสีไทเฮาในละครเวทีเรื่องนี้ ฆ่าคนไปประมาณ 10 คน (แม่ของตุงจี่ฮ่องเต้, เซียนเฝ็งฮ่องเต้, อ๋อง 3 คน, อันเตไฮ หัวหน้าขันที, ตุงจี่ฮ่องเต้, ซูอันไทเฮา, พระสนมเจ็งไฝ และกวางสูฮ่องเต้)

 

เราไม่เคยรู้ประวัติของซูสีไทเฮามาก่อน พอมาได้ดูละครเวทีเรื่องนี้ เราก็เลยชอบมากๆที่ละครเวทีเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกว่า จริงๆแล้วซูสีไทเฮาก็มีความคล้ายคลึงกับฆาตกรโรคจิตเป็นอย่างมาก แต่ซูสีไทเฮาอาจจะต่างจากฆาตกรโรคจิตอย่างนางเอก BREMEN FREEDOM, BAISE-MOI หรือ MONSTER (2003, Patty Jenkins) ในแง่ที่ว่า ซูสีไทเฮาฆ่าคนไปมากมายเพื่อรักษาอำนาจของตนเอง และเธอก็มักจะอ้างว่าเธอ “รักชาติ” อยู่เสมอ ซึ่งความรักชาติของซูสีไทเฮานี้ทำให้เธอแตกต่างจากฆาตกรโรคจิตคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอดูดีกว่าฆาตกรโรคจิตคนอื่นๆแต่อย่างใดในสายตาของเรา

 

ตอนนี้เราตัดสินใจไม่ได้ว่าระหว่างซูสีไทเฮากับเจ้านางปิ่นมณี (วาสนา พูนผล) ในละครทีวีเรื่อง “เพลิงพระนาง” ใครเป็นตัวละครราชินีที่ชั่วช้าสารเลวกว่ากัน


 

ส่วนสิ่งที่เราไม่ชอบมากที่สุดใน “ซูสีไทเฮา เดอะมิวสิคัล” ก็คือเพลงเพลงหนึ่งที่ใช้ในฉากจบของเรื่อง ซึ่งเป็นเพลงที่ออกมาในแนวเชิดชูความรักชาติของซูสีไทเฮา อย่างไรก็ดี เราไม่ได้อารมณ์เสียอะไรกับเพลงนี้มากนัก เพราะเราคิดว่าเพลงนี้อาจถูกใส่เข้ามาเพื่อประนีประนอมกับอะไรบางอย่าง และในแง่นึง เราก็มีตอนจบของซูสีไทเฮาในจินตนาการของเราเองอยู่แล้ว

 

เรารู้สึกดีใจมากๆที่ได้ดูละครเวทีเรื่อง SISTERS OF THE REVOLUTION (2014, Ninart Boonpothong, A+20) ที่เล่าเรื่องภรรยาของซุนยัดเซ็นกับภรรยาของเจียงไคเช็คในเวลาไล่เลี่ยกัน เรารู้สึกว่าละครเวทีสองเรื่องนี้มันช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก และสำหรับเราแล้ว เรารู้สึกว่าละครเวทีเรื่อง SISTERS OF THE REVOLUTION นี่แหละ คือตอนจบที่แท้จริงของซูสีไทเฮา เดอะ มิวสิคัล เพราะมันเล่าถึงผู้หญิงคนสำคัญของประเทศจีนในเวลาที่ต่อเนื่องกัน เล่าถึงความทะเยอทะยานและความรักชาติของผู้หญิงเหล่านี้ และการนำละครเวทีสองเรื่องนี้มาประกบกัน มันก็ช่วยให้ภาพที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ “ประเทศในยุคราชวงศ์และการล่มสลายของราชวงศ์” ด้วย

 

มีสิ่งที่น่าเปรียบเทียบกันมากมายระหว่างละครเวทีสองเรื่องนี้ ซึ่งเราชอบมากๆทั้งสองเรื่อง เราชอบความอลังการของซูสีไทเฮา เดอะ มิวสิคัล และเราก็ชอบความ minimal ทางฉากและโปรดักชั่นของ SISTERS OF THE REVOLUTION เราชอบความพยายามที่จะเล่าประวัติอันยาวนานของซูสีไทเฮา และเราก็ชอบการเล่าเจาะเฉพาะช่วงเวลาสำคัญบางช่วงในชีวิตของตัวละครใน SISTERS OF THE REVOLUTION

 

การได้ดูละครเวทีสองเรื่องนี้ในเวลาไล่เลี่ยกันทำให้เราอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงละครเวทีเรื่องที่สามในหัวของเราเอง และในจินตนาการของเรานั้น ภรรยาของซุนยัดเซ็นกับภรรยาของเจียงไคเช็ค กำลังหัวเราะเยาะหยันซูสีไทเฮาอย่างสะใจ




No comments: