Favorite Actress: Maria Félix – REPUBLIC OF SIN (FEVER MOUNTS AT EL
PAO) (1959, Luis Buñuel, A+30)
Maria Félix สวยสง่าอารัมภีร์มากๆ
ถ้าเราเป็นผู้กำกับหนังในยุคนั้น เราอยากจับเธอมาปะทะกับ Maria Casarès และ Anouk Aimee ที่สวยสง่าเหมือนๆกัน
SPOILERS ALERT
REPUBLIC OF SIN ติดอันดับหนึ่งในหนังที่เราชื่นชอบที่สุดในปีนี้อย่างแน่นอน
มันเป็นหนึ่งในหนังการเมืองที่เราชื่นชอบที่สุดในชีวิตด้วย
แต่ไม่ใช่เพราะว่ามันพูดถึงการเมืองได้อย่างแหลมคมหรือเจาะลึกแต่อย่างใด
มันพูดถึงการเมืองในระดับค่อนข้างผิวเผินถ้าหากเทียบกับหนังบางเรื่อง
แต่มันมีองค์ประกอบอื่นๆที่เราชอบสุดๆในหนังเรื่องนี้ อย่างเช่น
1.ความสิ้นหวังไร้ทางออกของสถานการณ์ในเรื่อง
ความสิ้นหวังของหนังเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงหนังของ Robert Bresson และ Michael
Haneke เลยทีเดียว
2.แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้อาจจะติดอันดับหนึ่งในหนังที่เราชอบที่สุดในปีนี้คือตอนจบของมัน
มันมีตอนจบที่แผดเผาจิตใจเราอย่างรุนแรงมาก ใครจะนึกล่ะว่าดูหนังหลุยส์
บุนเยลแล้วเราอยากจะร้องไห้ แต่เราไม่ได้ร้องไห้นะ
เพราะถึงแม้ตอนจบของหนังมันจะสะเทือนใจเราอย่างรุนแรงสุดๆ
แต่บุนเยลไม่มีความพยายามที่จะสร้างความซาบซึ้งหรือเร้าอารมณ์เราในจุดนั้นเลย
คือถ้าหากเป็นผู้กำกับคนอื่นๆ เขาคง exploit อารมณ์คนดูอย่างรุนแรงในช่วงท้ายไปแล้ว
หรือพยายามทำให้ตัวละครดูเป็นวีรบุรุษไปแล้ว แต่บุนเยลไม่พยายามทำเช่นนั้นเลย
เขานำเสนอการตัดสินใจของตัวละครให้คนดูได้เห็นโดยไม่เร้าอารมณ์คนดู เราก็เลยไม่ร้องไห้
แต่เรากลับคิดถึงตอนจบของหนังเรื่องนี้บ่อยครั้งมาก
และมันแผดเผาจิตใจเราอย่างรุนแรงมากๆ
จริงๆแล้วผลกระทบที่ตอนจบของหนังเรื่องนี้มีต่อเรา
อาจจะไม่ใช่สิ่งที่บุนเยลตั้งใจก็ได้
แต่เราชอบการตัดสินใจของตัวละครในตอนจบอย่างรุนแรงมากๆ เรารู้สึกเข้าใจตัวละครมากๆ
และเราก็ดีใจมากๆที่มีหนังที่นำเสนอตัวละครอย่างนี้ ตัวละครที่เป็น “กึ่งคนดี
กึ่งคนขี้ขลาด” เป็นคนที่ประนีประนอมในทางการเมืองมาตลอดชีวิต
แต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง เขาก็เลือกที่จะพลีชีพหรือฆ่าตัวตาย ดีกว่าที่จะทนมีชีวิตอยู่ภายใต้ระบอบการปกครองบางอย่างอีกต่อไป
เขายินดีตาย เพราะมันมีแรงผลักดันบางอย่างในใจเขา เขายินดีตาย
ทั้งๆที่มันเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล หลายๆคนคงมองว่าเขาโง่มากๆ
หลายๆคนคงไม่เข้าใจเขา แต่เราชอบตัวละครที่ทำอะไรที่ “คนอื่นๆมองว่าไร้เหตุผล”
แบบนี้นี่แหละ มันเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจมนุษย์ที่มันดูเหมือนจะอยู่นอกเหนือเหตุผล
และมันก็ยากที่จะอธิบายได้ และก็มีหนังบางเรื่องเท่านั้นที่นำเสนอจุดนี้ออกมาได้อย่างดีมากๆ
เราชอบมากๆด้วยที่บุนเยลไม่ได้นำเสนอตัวละครที่พลีชีพเพื่ออุดมการณ์ทางการเมืองในแบบเชิดชูหรือยกย่องเป็นวีรบุรุษ
และก็ไม่ได้นำเสนอตัวละครตัวนี้อย่างดูถูกเหยียดหยามด้วย
ทั้งๆที่เขาทำในสิ่งที่ดูเหมือนไร้เหตุผล มันเหมือนกับว่าหนังเรื่องนี้ treat ตัวละครตัวนี้เป็นเพียงมนุษย์คนนึงเท่านั้นเอง
No comments:
Post a Comment