Sunday, May 24, 2020

HAVE A SAFE TRIP


WE STILL KILL THE OLD WAY (1967, Elio Petri, Italy, A+30)

หนังปริศนาฆาตกรรมที่สนุกมาก แต่ตอนจบเราจะงงๆเล็กน้อย 55555

Gian Maria Volonte หล่อดี

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 3 ของ Elio Petri ที่เราได้ดู ต่อจาก THE 10TH VICTIM (1965) กับ INVESTIGATION OF A CITIZEN ABOVE SUSPICION (1970)

เดินทางโดยสวัสดิภาพ (2020, Arisara Theerajit, 34min, A+30)

1.กราบมากๆ เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกเจ็บปวดจนสุดจะทานทน ดูแล้วนึกถึงนิยายเรื่อง “การล่มสลายของสถาบันครอบครัวที่ความรักไม่อาจเยียวยา” ของอรุณวดี อรุณมาศ ในแง่การถ่ายทอดความเจ็บปวดของตัวละครลูกสาวออกมาได้อย่างรุนแรงสุดๆเหมือนๆกัน

2.ดูแล้วแอบนึกถึงชีวิตตัวเองในบางจุดด้วย นึกถึงตอนที่ตัวเองเป็นวัยรุ่น แล้วเคยคิดจะฆ่าตัวตายบ่อยครั้งมาก

3.กลวิธีในการนำเสนอทำให้นึกถึง MOTHER (2012, Vorakorn Ruetaivanichkul) ที่มีการให้นักแสดงละครเวทีมาแสดงเป็นแม่ของตัวเอง เพื่อ recreate ฉากที่ไม่สามารถนำเสนอในแบบหนังสารคดีได้

4.ชอบการ balance ระหว่างความสุขกับความทุกข์  เพราะหนังไม่ได้นำเสนอแค่ความไม่เข้าใจกันระหว่างพ่อแม่ลูกเพียงอย่างเดียว แต่เหมือนหนังพยายามจะสอดแทรก moments ของความสุขเข้ามาด้วย ผ่านทางภาพถ่ายเก่าๆ วันวานเก่าๆ

และพอเราได้เห็นว่า ครอบครัวในหนังมันเคยมีความสุขด้วยกันมาในอดีต หรือมีความสุขด้วยกันบ้างในบาง moments เราก็จะยิ่งเข้าใจความทุกข์ของตัวละครลูกสาวได้ดียิ่งขึ้น

5.ดูแล้วนึกถึง “เทวทัณฑ์” THE THING THAT STRUCK ME (2018, Ratchanirat Promprasit) ด้วย เหมือนมันมีความเจ็บปวดบางอย่างในหนังสองเรื่องนี้ที่เรารู้สึกว่ามัน relate กัน แม้กลวิธีการนำเสนอจะแตกต่างกันมาก

6.เป็นหนึ่งในหนังกลุ่ม hybrid autobiography ของไทยที่เราชอบมากๆ คือในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา มีหนังไทยหลายเรื่องที่เหมือนนำเสนอชีวิตของผู้กำกับ แต่แทนที่จะนำเสนออย่างตรงไปตรงมาแบบหนังสารคดี หนังเหล่านี้กลับใส่ part ที่เป็น fiction เข้ามาด้วย, หรือไม่ก็ทำเป็นหนังทดลองไปเลย หรือไม่ก็พูดถึงการพยายามจะ cast นักแสดงเพื่อมารับบทเป็นสมาชิกครอบครัวของตัวเอง และหนังในกลุ่มนี้ก็มีทั้งหนังที่ “รักครอบครัวมากๆ” และหนังที่นำเสนอ  “ปัญหาในครอบครัว” ได้อย่างสะเทือนใจมากๆ

ตัวอย่างหนังไทยในกลุ่มนี้ก็มีเช่น

6.1 001 6643 225 059 (1994, Apichatpong Weerasethakul)
6.2 GHOSTS (2005, Anocha Suwichakornpong, 35min)
6.3 THE GIRL WHO LIKE TO CALL HER HOUSE เด็กผู้หญิงที่โทรเข้าบ้านของตัวเอง (2010, Suparom Ronyut, Theemaporn Thanapala, La-ongsri Kongkachasing, 20min)
6.4 SCAR แผลเป็น (2010, Authawut Boonyuang, 10min)
 ไม่แน่ใจว่าหนัง
เรื่องนี้ต้องการพูดถึงบาดแผลทางใจจากครอบครัวของตัวเองหรือเปล่า
6.5 SURREPTITIOUS ซ่อนเร้น (2010, Thitikan Kanchanapakdee, 13min)
6.6 MOTHER (2012, Vorakorn Ruetaivanichkul)
6.7 วรรณพร ซึ้งหิรัญพฤกษ์ (2012, Methat Suenghiranyapruek, 26min)
6.8 SHE FLEW INTO THE SKY เที่ยวบินของแม่ (2015, Taweewit Kijtanasoonthorn, 15min)
6.9 HAPPINESS (2018, Arpasiri Boonying, 20min)
6.10 NAKORN-SAWAN (2018, Puangsoi Aksornsawang)



No comments: