Saturday, January 28, 2006

IMAGINE ME & YOU

ตอบน้อง merveillesxx

ดีใจมากค่ะที่สถานการณ์ซวยต่างๆของน้องเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว

>>แต่ก็อยากนั่งเครื่องบินไปญี่ปุ่น แล้วเข้าไปกอดเธอสัก 15 วินาที โดยไม่ต้องพูดอะไรเลย แค่นั้นพอ<<

อ่านข้อความข้างบนของน้อง และได้อ่านความเห็นของหลายๆคนใน blog ของน้อง ก็ทำให้รู้สึกว่า สิ่งที่หลายๆคนที่ได้อ่าน blog ของน้องอยากจะทำ ก็อาจจะเป็นการกอดน้อง หรือจับมือน้อง หรืออย่างน้อยก็ “ส่งสายตา” แห่งความหวังดีและเป็นห่วงเป็นใยมาให้น้อง หลายๆคนที่ได้อ่าน blog ของน้องคงจะรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยน้องมากๆ แต่การถ่ายทอดความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยด้วย “ตัวอักษร” เพียงอย่างเดียว อาจจะไม่ใช่สิ่งที่บางคนถนัด แต่เท่าที่ได้อ่านสิ่งที่คนเหล่านั้นเขียนเอาไว้ พี่คิดว่าคงมีหลายคนทีเดียวที่คงอยากจะเอื้อมมือทะลุผ่านจอคอมพิวเตอร์เข้ามาแตะตัวน้องเบาๆ เพื่อปลอบโยนและให้กำลังใจ หรืออย่างน้อยก็อยากให้กำลังใจน้องด้วย “สายตา” ก็ยังดี


ตอบคุณเต้

ตอนนี้หนังของ WES CRAVEN ที่อยากดูซ้ำมากที่สุด หรืออยากให้มีการรีเมคมากที่สุด ก็คือ DEADLY BLESSING (1981, A+/A) ค่ะ เพราะหนังเรื่องนี้มีตัวละครหญิงที่น่าสนใจถึง 6 คน ซึ่งได้แก่ผู้หญิงที่สามีตายอย่างลึกลับ, เพื่อนสาว 2 คนของผู้หญิงคนนั้น, แม่กับลูกสาวที่ไม่น่าไว้วางใจ และสาวเคร่งศาสนาวิปลาส แต่ถ้าหากมีการรีเมคหนังเรื่องนี้ใหม่ ก็อยากให้ดัดแปลงเนื้อเรื่องให้ไม่เหมือนเดิมไปเลย แต่ให้คงตัวละครผู้หญิงเยอะๆเอาไว้เหมือนเดิม
http://www.imdb.com/title/tt0082245/

เคยดูบางช่วงของ THE PEOPLE UNDER THE STAIRS ทางโทรทัศน์ รู้สึกอยากดูซ้ำเหมือนกัน เพราะชอบ WENDY ROBIE ที่รับบทคุณแม่ในหนังเรื่องนี้มาก รู้สึกชอบเธอมากๆตอนที่เธอเล่นละครชุด TWIN PEAKS เธอดูน่ากลัวมากๆเลย
http://www.imdb.com/name/nm0732133/


ตอบคุณเจ้าชายน้อย

รู้สึกว่าตัวเองยังไม่เคยดูหนังของ BUSTER KEATON เลย แม้แต่หนังของชาร์ลี แชปลินเองก็เคยดูไม่กี่เรื่อง

หนังตลกยุคโบราณที่เคยดู ก็มีเรื่อง A DAY AT THE RACES (1937, SAM WOOD, A-) ที่นำแสดงโดยสามพี่น้อง THE MARX BROTHERS รู้สึกว่าดูสนุกดี แต่จำอะไรในเรื่องไม่ค่อยได้แล้ว
http://www.imdb.com/title/tt0028772/

พูดถึงดารายุคโบราณ ก็จำได้ว่าตอนเด็กๆเคยดูหนังของ SHIRLEY TEMPLE หลายเรื่องทางโทรทัศน์ แต่ดูตอนที่ตัวเองยังเด็กมากๆ ก็เลยจำอะไรไม่ได้เลย จำได้แต่ว่าตอนเด็กๆมีหนังของ SHIRLEY TEMPLE มาฉายทางโทรทัศน์หลายเรื่อง
http://www.imdb.com/name/nm0000073/

พูดถึง LAND OF THE DEAD ก็นึกขึ้นมาได้ว่าปีที่แล้วมีหนังซอมบี้ออกมาฉายหลายเรื่องในสหรัฐ และหนึ่งในเรื่องที่อยากดูมากๆก็คือ HOMECOMING (2005, JOE DANTE) ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับกลุ่มทหารที่เสียชีวิตในสงคราม แต่พวกเขากลายเป็นผีดิบซอมบี้ที่ลุกขึ้นมาจากหลุมเพื่อเดินทางไปที่คูหาเลือกตั้งและช่วยกันโหวตขับไล่ประธานาธิบดีที่ส่งพวกเขาไปตายในสงคราม

JOE DANTE ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึง HOMECOMING ว่า “หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังสยองขวัญ เพราะว่าตัวละครส่วนใหญ่ในเรื่องนี้เป็นคนของพรรครีพับลิกัน” ("This is a horror story because most of the characters are Republicans.")

อ่านบทวิจารณ์ HOMECOMING ได้ที่
http://www.villagevoice.com/film/0548,lim,70455,20.html


ตอบคุณ CHRIS’S GIRLFRIEND

เพิ่งรู้ว่า MATTHEW GOODE ซึ่งเป็นดาราชายในสังกัดของคุณ CHRIS’S GIRLFRIEND ได้เล่นหนังเลสเบียนเรื่อง IMAGINE ME & YOU (2005, OL PARKER) ด้วยค่ะ โดยหนังเลสเบียนเรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้อังกฤษแนว NOTTING HILL และ FOUR WEDDINGS AND A FUNERAL โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับหญิงสาว (PIPER PERABO) ที่กำลังจะแต่งงานกับโบรกเกอร์หนุ่มที่ร่ำรวย (MATTHEW GOODE) แต่เธอกลับตกหลุมรักลูซี ซึ่งเป็นนักจัดดอกไม้ในงานแต่งงาน (LENA HEADEY) ในขณะที่เพื่อนของโบรกเกอร์ (DARREN BOYD) ก็ตกหลุมรักลูซีเช่นกัน
http://www2.foxsearchlight.com/imaginemeandyou/

รู้สึกว่าชื่อหนัง IMAGINE ME & YOU จะมาจากเนื้อเพลง HAPPY TOGETHER

นักวิจารณ์บอกว่า MATTHEW GOODE คือ MARK RUFFALO ของประเทศอังกฤษค่ะ



ตอบคุณอ้วน

ยังมีอีก 2 งานที่น่าดูมากๆในช่วงนี้ค่ะ ซึ่งก็คือ

1.งานแสดงหลากหลายรูปแบบบนดาดฟ้าของ HOUSE OF INDIES

ดูรายละเอียดของงาน NAKED ART 26 PROJECT ได้ที่
http://www.houseofindies.com/about_us/index.asp?pagename=news.asp


2.พิพิธภัณฑ์ศิลปะระยะสั้น ซอยสบาย

งานนี้มีระหว่างวันที่ 11-17 ก.พ. โดยมีคุณอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุลร่วมในงานด้วย ดูรายละเอียดได้ที่
http://roomair.org/




ความเห็นเกี่ยวกับหนังที่ได้ดูในระยะนี้

--AFTERNOON TIME (2005, ทศพล บุญสินสุข, A+)

มีหลายอย่างมากๆที่ชอบในหนังเรื่องนี้ ซึ่งรวมถึง การให้ “เวลา” กับฉากต่างๆ

ในความรู้สึกส่วนตัวของดิฉัน ดิฉันคิดว่าหนังเรื่องนี้เหมือนกับหนังหลายๆเรืองของคุณทศพล บุญสินสุข นั่นก็คือเป็นหนังที่ไม่ได้มีจุดประสงค์หลักเพื่อจะเล่าเรื่อง หรือเพื่อ ”บอก” อะไรบางอย่างกับผู้ชม เพราะถ้าหากหนังเรื่องนี้ต้องการจะเล่าเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในชีวิตของนางเอก หรือต้องการจะ “บอก” ผู้ชมเพียงแค่ว่านางเอกรู้สึกยังไงบ้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หนังความยาว 90 นาทีเรื่องนี้ก็สามารถตัดต่อใหม่ให้เหลือเพียงแค่ 9 นาทีได้เลย ฉากแต่ละฉากที่กินเวลาราว 5-10 นาที สามารถตัดต่อใหม่ให้เหลือเพียงแค่ 5-10 วินาที เพียงเท่านี้ผู้ชมก็จะได้รับข้อมูลครบถ้วน ไม่มีขาดตกบกพร่องเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในชีวิตของนางเอก และนางเอกรู้สึกยังไงบ้าง

แต่จุดที่ทำให้ดิฉันหลงรักหนังของคุณทศพลอย่างหัวปักหัวปำ เป็นเพราะว่าหนังของเขาไม่ได้ต้องการจะทำเพียงแค่ “บอก” ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สามารถทำให้ดิฉัน “รู้สึก” ร่วมไปกับตัวละครหรืออารมณ์ของเรื่องอย่างรุนแรงมาก และหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ดิฉันรู้สึกร่วมไปกับเรื่องอย่างมากๆ ก็เป็นเพราะว่าหนังของเขาให้เวลากับฉากต่างๆอย่างเหมาะสม อย่างเช่นในฉากที่นางเอกเขี่ยอาหารในจาน ถ้าหากฉากนั้นมีความยาวเพียง 5 วินาที ผู้ชมก็จะได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้วว่านางเอกกำลังตกอยู่ในภาวะอารมณ์อย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ฉากนั้นกลับยาวประมาณ 5 นาที และความยาวของฉากนั้นคือสิ่งที่ทำให้ดิฉัน “รู้สึก” ร่วมไปกับนางเอก หรือรู้สึกเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของนางเอกมากยิ่งขึ้น มันเหมือนกับว่าหนังของเขา (และอาจจะรวมไปถึงหนังบางเรื่องของ MARGUERITE DURAS และ JUN ICHIKAWA) ต้องใช้ระบบประสาทการรับรู้ที่แตกต่างไปจากการดูหนังทั่วๆไป (และอาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมที่มีหัวสมองไว ชอบคิดอะไรไวๆ และชอบดูหนังเพื่อหาว่าหนังเรื่องนี้ต้องการจะบอกอะไรกับผู้ชม) หนังหลายเรื่องของผู้กำกับ 3 คนนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์หลักเพื่อ “บอกเล่า” อะไรบางอย่างแก่ผู้ชม แต่หนังของ 3 คนนี้สามารถกระตุ้นต่อมความรู้สึกบางอย่างได้อย่างรุนแรงสุดๆ และเป็นความรู้สึกที่ยากจะถ่ายทอดเป็นตัวอักษรได้ ในแง่หนึ่ง ดิฉันคิดว่าหนังของ 3 คนนี้ทำหน้าที่ของสื่อภาพยนตร์ได้อย่างดีมากๆ เพราะ “การให้เวลาอย่างเต็มที่กับฉากที่แทบไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว” เป็นสิ่งที่ “นิยาย” ยากจะทำได้ (ต่อให้คุณใส่หน้ากระดาษเปล่าๆเข้ามาในหนังสือ เพื่อถ่ายทอดว่า “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นเวลานานๆในฉากนั้น” ผู้อ่านก็คงจะพลิกผ่านหน้ากระดาษเปล่าๆไปภายในเวลาเพียง 10 วินาที คงไม่จ้องหน้ากระดาษเปล่าๆเป็นเวลา 10 นาทีก่อนจะพลิกไปอ่านเนื้อหาต่อไป) และมีแต่สื่อภาพยนตร์หรือละครเวทีที่เฮี้ยนมากๆเท่านั้นที่สามารถทำในสิ่งนี้ได้

การที่จุดเด่นในหนังของคุณทศพลอยู่ที่ “ความรู้สึกร่วม” ของผู้ชมที่มีต่อตัวละคร, บรรยากาศ หรือเหตุการณ์ในเรื่องนี่เอง คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ดิฉันรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิตที่จะถ่ายทอดความรู้สึกประทับใจในหนังของเขาให้คนอื่นๆฟัง ตอนแรกดิฉันยังไม่รู้ในจุดนี้ แต่หลังจากได้ดูหนังของคุณทศพลในวันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค. และได้คุยกับเพื่อนๆหลังจากนั้น ดิฉันก็พยายามเล่าให้เพื่อนๆฟังว่าหนังเรื่องอื่นๆของคุณทศพลที่เคยดูมาเป็นอย่างไรบ้าง (ดิฉันเคยดูเรื่อง “ห้ามอุ่นไข่ในไมโคเวฟเดี๋ยวระเบิดตูม!” (A+), NICE TO MEET YOU (A+), THE AUDIENCE (A+), CHICKEN SMILE (A+), THE LAST SKY PASSENGER (A) และ DANCE TOGETHER (A-)) แต่ยิ่งดิฉันพยายามบรรยายถึงหนังของเขามากเพียงใด ดิฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าดิฉันถ่ายทอดหนังของเขาได้ห่างไกลจากความรู้สึกของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆๆๆ หลังจากพยายามเล่าให้เพื่อนๆฟังว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างในหนังของคุณทศพล, เขาใช้มุมกล้องเช่นไร, ดิฉันได้เห็น “ภาพ” อะไรบ้างในหนัง และได้ยินเสียงอะไรบ้างในหนัง, etc. ดิฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกมามันช่างห่างไกลอย่างลิบลับกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อสิ่งนั้นๆ ในที่สุดดิฉันก็เลยยอมแพ้ และบอกเพื่อนๆไปว่า “มันลำบากเหลือเกินที่จะบรรยายถึงหนังของคุณทศพล คุณต้องสัมผัสหนังของเขาด้วยตัวคุณเองเท่านั้น คุณถึงจะเข้าใจ” ดิฉันรู้สึกว่าความพยายามของดิฉันในการจะบรรยายถึงหนังของคุณทศพลให้เพื่อนๆฟังในวันนั้น มันอาจไม่แตกต่างไปจากความพยายามจะบรรยายภาพ SUNFLOWER ของ VAN GOGH ออกมาเป็น “ถ้อยคำ” ว่าภาพนั้นมีสีสันยังไงหรือมีดอกทานตะวันอยู่กี่ดอกในภาพ, ไม่แตกต่างไปจากความพยายามจะบรรยายเพลง HIGHER STATE OF CONSCIOUSNESS ของ JOSH WINK ออกมาเป็นตัวอักษร (บางทีอาจมีแต่คุณอาทิตย์ พรหมประสิทธิ์เท่านั้นที่สามารถทำในสิ่งนี้ได้) และอาจไม่แตกต่างไปจากการบรรยายว่า “เกิดอะไรขึ้นบ้าง” ในภาพยนตร์เรื่อง WINDOWS (1999, APICHATPONG WEERASETHAKUL, A+++++)

SUNFLOWER
http://www.laks.com/english/302.html

HIGHER STATE OF CONSCIOUSNESS
http://www.juno.co.uk/products/114975-01.htm

WINDOWS
http://www.kickthemachine.com/works/windows.html

No comments: