Saturday, September 26, 2009

THE QUEEN AND I, IMELDA, AND THE ETHICS OF DOCUMENTARIANS

This is my comment in Filmsick's blog:
http://filmsick.exteen.com/20090926/bkiff-2009-diary

เรารู้สึกว่าหนังเรื่อง THE QUEEN AND I ยังไม่ทรงพลังถึงที่สุดเหมือนกันนะ แต่ก็เข้าใจผู้กำกับน่ะแหละ ว่าถ้าหากผู้กำกับต้องการทำหนังที่แสดงความเห็นของตัวเองอย่างเต็มที่ ผู้กำกับก็คงไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำต่อ บางจุดในหนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึงหนังสารคดีเรื่อง IMELDA (A) เหมือนกัน เพราะบางคนก็อาจจะบอกว่าหนังเรื่อง IMELDA ไม่ได้นำเสนอความชั่วร้ายของอิเมลดาอย่างเต็มที่ แต่เราคิดว่ามันก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วล่ะ ที่หนังสารคดีเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะนำเสนอทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด ถ้าหากผู้กำกับสารคดีคิดจะสัมภาษณ์ใคร ผู้กำกับก็คงไม่สามารถที่จะแสดงความเกลียดชังหรือดูถูกดูแคลน,ดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ให้สัมภาษณ์ได้อย่างเต็มที่ ในแง่หนึ่ง เราว่า THE QUEEN AND I กับ IMELDA ตั้งคำถามเกี่ยวกับจรรยาบรรณของผู้กำกับหนังสารคดีได้ดีเหมือนกัน ว่าเราควรจะทำตัวอย่างไรเมื่อเราอยากจะสัมภาษณ์คนที่เราเกลียดชัง เราควรจะสัมภาษณ์เขาหรือไม่ และเราควรจะตีแผ่ความชั่วของคนๆนั้นในหนังของเราหรือไม่ถ้าหากเราจะขอสัมภาษณ์เขา

5 comments:

nanoguy said...

พอพูดถึงเรื่องนี้คู่กับ Imelda แล้วเราก็อยากดู Imelda มากเลย อยากรู้ว่าเธอจะออกอาการ "ไว้ตัว" และ "นางพญา" เหมือนควีนฟาราห์ใน The Queen and I หรือเปล่า แต่สิ่งที่ทำให้ชอบ The Queen and I ก็เพราะบุคลิกแบบที่ว่าของฟาราห์ เพราะมันทำให้เห็นดีเหมือนกันว่าหลังจากเธอลงจากบัลลังก์ไปแล้วเธอเป็นยังไง เธอก็ยังทำตัวเป็นราชินีอยู่เหมือนเดิม เราชอบฉากที่เธอพูดทำนองว่า "หลังจากโดยปฏิวัติแล้วฉันก็ไม่เหลืออะไรเลย" แต่ว่าห้องเช่าของเธอน่ะสุดแสนจะหรูหราอลังการ - แต่ถ้าคนดูไม่ได้มีแนวคิดทางการเมืองคล้ายๆกับเรา เขาจะคิดแบบเดียวกันหรือเปล่าก็ไม่รู้สิ

อีกอย่างที่ทำให้เราไม่ได้ขัดเคืองกับ The Queen and I มาก (จากที่คิดไว้แต่แรก เมื่ออ่านความเห็นของคุณ filmsick) คงเพราะตัวผู้กำกับเองก็แสดงความสับสนของตัวเองไว้ชัดเจนเหมือนกัน (จนสรุปออกมาว่า เธออาจจะเป็นคนที่ชอบฟาราห์ แต่ยังไงก็ไม่เป็นรอยัลลิสต์)อีกข้อหนึ่งก็เพราะว่าถ้าจะขุดคุ้ยถึงสิ่งที่ราชวงศ์ชาห์ทำไว้กับประชาชนอิหร่านก่อนโดนปฏิวัติ บางทีการขุดคุ้ยเรียกเอาจากตัวฟาราห์เองก็ไม่ใช่เรื่องนัก เพราะเจ้าของนโยบายอย่างพระเจ้าชาห์นั้นก็เสียชีวิตไปแล้ว เราเลยชอบที่ตัวหนังเบี่ยงประเด็นไปหาเรื่องอื่นๆมากกว่า

celinejulie said...

อิเมลดาในหนังเรื่อง IMELDA ดูตลกและสติแตกมากๆในบางฉาก เธอไม่มีความสง่าเลยเมื่อเทียบกับฟาร่าห์ เราจำรายละเอียดในหนังเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว แต่เท่าที่จำได้ อิเมลดาไม่ค่อยไว้ตัวและไม่ค่อยมีมาดนางพญานะ เธออาจจะพยายามทำตัวสง่า แต่ทำไม่สำเร็จน่ะ

ตอนที่เราดูหนังเรื่อง IMELDA เรารู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ใช้ได้นะ เราให้ A เลยแหละ แต่ดูเหมือนนักวิจารณ์ที่ชื่อ Brandon Wee จะตั้งคำถามว่าหนังเรื่องนี้มีท่าทีให้อภัยอิเมลดามากเกินไปหรือเปล่า และเขายังแสดงความเห็นอีกด้วยว่า หนังเรื่องนี้ปล่อยให้อิเมลดาพูดเข้าข้างตัวเองไปเรื่อยๆ แทนที่จะนำเสนอ "ความจริง" ซึ่งอาจจะตรงข้ามกับสิ่งที่อิเมลดาพูด

This is what Brandon Wee wrote in Senses of Cinema about IMELDA:
http://archive.sensesofcinema.com/contents/05/34/lav_diaz.html

"Romualdez's denial of her family's criminal activities in politics may be breathtaking to the point of asphyxiation, yet this documentary seems content to babysit her delusions more than it can bring itself to confront the malevolence the Marcos regime has wrought on the Philippines. Then, there is the sorer point of the largely forgiving tone that permeates the picture."

เราคิดว่าความเห็นที่มีต่อหนังเรื่อง IMELDA ในประเด็นนี้ค่อนข้างคล้ายคลึงกับปัญหาที่พบใน THE QUEEN AND I เหมือนกัน แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราไม่ค่อยติดใจกับปัญหานี้มากเท่าไหร่ เพราะเราว่าคนดูส่วนใหญ่คงรู้อยู่แล้วล่ะว่า "อีนี่มันพูดตอแหล" โดยที่ผู้กำกับหนังไม่จำเป็นต้องบอกออกมาตรงๆ

เราว่าผู้กำกับ THE QUEEN AND I ก็เก่งนะ เพราะเขาก็แอบนำเสนอแง่มุมที่ไม่ดีนักของฟาร่าห์ออกมาได้บ้าง อย่างเช่นการโฟกัสภาพไปยังพรมที่หรูหราที่ปูลาดอยู่บนพื้นบันได หรือการแสดงให้เห็นว่าฟาร่าห์ยังคงกังวลกับเรื่องภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อสาธารณชนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันอาจจะเป็นเรื่องปกติในสายตาของคนอื่นๆ แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีนักในสายตาของเรา

celinejulie said...

พูดถึงหนังเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้แล้ว ก็เลยนึกถึง THE QUEEN (2006, Stephen Frears) ขึ้นมาด้วย ซึ่งก็เป็นหนังที่เข้าข้างอลิซาเบธมากพอสมควร แต่เราชอบ THE QUEEN AND I มากกว่าเยอะเลยนะ เพราะ THE QUEEN AND I มันตั้งคำถามต่อฟาร่าห์ค่อนข้างมาก และมันแสดงความสับสนทางความคิดหรือความสับสนทางจุดยืนของผู้กำกับได้อย่างน่าสนใจดี เราว่าทั้ง THE QUEEN AND I และ THE QUEEN ต่างก็ประสบความสำเร็จในการทำให้ฟาร่าห์และอลิซาเบธดูเป็นมนุษย์ในสายตาของคนดู หรือในการทำให้ผู้ชมได้เห็นแง่มุมต่างๆในชีวิตของฟาร่าห์และอลิซาเบธ แต่หลังจากดู THE QUEEN AND I จบแล้ว เรารู้สึกว่าเรา "ไว้วางใจ" ในหนังเรื่อง THE QUEEN AND I และรู้สึกเชื่อใจผู้กำกับหนังเรื่องนี้นะ แต่เรายังคง "ไม่ไว้วางใจ" ในตัวฟาร่าห์เหมือนเดิม ซึ่งสิ่งนี้แตกต่างจากความรู้สึกของเราที่มีต่อ THE QUEEN เพราะพอเราดู THE QUEEN จบแล้ว เรากลับไม่รู้สึกไว้วางใจในตัวหนังเรื่องนี้

สรุปง่ายๆว่า เราชอบ THE QUEEN AND I เพราะตัวหนังนำเสนอ "ความจริง" ที่ว่าฟาร่าห์เป็นคนตอแหล (ในบางครั้ง หรือหลายๆครั้ง)

แต่เรารู้สึกตะขิดตะขวงใจกับ THE QUEEN เพราะเราไม่แน่ใจว่าหนังเรื่องนี้นำเสนอความจริงหรือเปล่า

nanoguy said...

เรากลับชอบ The Queen มากๆ ไม่ใช่แค่ในแง่ความเป็นมนุษย์ของเอลิซาเบธ (มีแค่ตัวละคร โทนี่ แบลร์ ที่เราไม่ชอบนัก) แต่เราอาจคิดไปเองว่าหนังกำลังบอกว่าคนที่เป็น monarchy ในทุกวันนี้ควรจะทำตัวอย่างไร เพื่อที่จะยังคงอยู่ได้อย่างมีเกียรติอย่างที่พวกเขาใฝ่หาและต้องการอยู่ตลอด

nanoguy said...

ลืมบอกไปว่า ตอนดู The Queen and I จบ มีคนดูผู้หญิงคนหนึ่งคุยกับเพื่อนฝรั่ง เธอวิจารณ์ว่าหนังเรื่องนี้เป็น "just another propaganda film"