Thursday, July 05, 2012

I WORSHIP VIRIYAPORN BOONPRASERT

There are so many filmmakers I would like to worship in the Marathon Film Festival, including Viriyaporn Boonprasert, Amornsak Chatratin, Banyong Poolsup, Chompoonut Metha, Eakarach Gaewmahink, Eakarach Monwat, Fari Tesprateep, Manasak Khlongchainan, Napat Treepalawisetkun, Nattida Tohchoodee, Nasree Labaideemun, Prasit Suebjaksa, Setthasiri Chanjaradpong, Somjet Meeyen, Teera Prachumkong, Teeranit Siangsanoh, Theeraphat Ngathong, Teerapong Panyakam, Wachara Kanha, Waris Deepisut, etc.

DEVELOP BLESSING GIANT DHAMMA IN 3 WORLDS: GHOST OF CENTRALWORLD (Viriyaporn Boonprasert, 8 min, A++++++++++++++++++++++++++++++) and DEVELOP BLESSING GIANT DHAMMA IN 3 WORLDS: I'M GONNA BE A NAIVE  (Viriyaporn Boonprasert, 24 min, A++++++++++++++++++++++++++++++) reminds me of the power of Harun Farocki's films.




1 comment:

celinejulie said...

The story in DEVELOP BLESSING GIANT DHAMMA IN 3 WORLDS (GHOST OF CENTRALWORLD) comes from the story of Kitipong Somsook.

http://www.prachatai3.info/journal/2011/10/37348

“วันที่ยี่สิบ เจ้าหน้าที่เข้าไปค้นในตึก ไม่เจอ พี่ก็บอกให้ไปค้นให้ใหม่ เขาก็เข้าไปอีก ระหว่างนั้นพี่ก็ตามหาทุกที่ แต่ก็ตามไปอย่างนั้นแหละ เพราะพี่เชื่อว่าลูกพี่อยู่ในนั้น ยังไม่มีใครเจอ น้องอาร์ตอยู่ในนั้น ไปหาให้หน่อย ไปเอาเขาออกมาหน่อย พอวันที่ยีบเอ็ดก็ไปเจอจริงๆ นักข่าวโทรมาหาพี่ บอกว่าเจอแล้ว มีศพวัยรุ่นอยู่ในตึก ตอนนั้นพี่ก็เข้าใจแล้วว่า เออ ลูกกู ยังไงก็ลูกกู ไม่ใช่ใครเลย คือพี่ไม่ต้องดูดอกว่าเป็นใคร รู้แล้วว่าเป็นน้องอาร์ต เพราะว่าอยู่ในตึกนั้นมีแต่เขานั่นแหละ ไม่มีใครหรอก อยู่ชั้นสี่โซนสี่ คนที่ไปเจอศพเขาบอกว่า อยู่คนเดียวด้วย น้องอาร์ตแน่นอน ตอนนั้นพี่ก็ทำใจแล้วล่ะ พี่ก็ไม่อยากพูดแล้วเนาะ (ร้องไห้) พูดแล้วมันเจ็บใจน่ะ ไม่คิดว่าเขาจะไปแบบนั้นไง ทุกวันนี้ใครถามอะไรพี่ไม่ค่อยพูดนะ เรื่องเกี่ยวกับลูกพี่จะไม่ค่อยพูด แต่คนในหมู่บ้านเขาก็เข้าใจนะ เข้าใจทุกคน มีแต่เขายกย่อง มีแต่คนรัก”

นางไน้เช็ดน้ำตา และพยายามปรับอารมณ์ ครู่หนึ่งจึงพูดต่อ

“ลูกพี่ตายใช่มั้ย ข่าวโทรทัศน์ยังบอกว่า มีเด็กวัยรุ่นขึ้นไปแล้วไปเสียชีวิต คาดว่าจะไปขโมยของ เขาบอกว่าน้องอาร์ตเนี่ยจะไปขโมยของ พูดอกมาได้ยังไง เด็กมันหนีตายใช่มั้ย เขารู้ได้ยังไง ตอนที่เขาไปเจอศพ เขาไปค้นหาบัตรประชาชน เอกสารทุกอย่างในกระเป๋าเสื้อน้อง ไม่มีอะไรเลย มีแต่บัตรเขา เงินก็ยังอยู่ คือก่อนหน้านี้เขาเคยโทรมาบอก แม่...ตอนนี้ผมมีตังค์อยู่สามพันบาท ให้แม่ไปจ่ายงวดให้ก่อนนะ เดี๋ยวผมไปเคลียร์ให้ พี่ก็บอก เออ ไม่เป็นไร เดี๋ยวแม่ไปจ่ายแทน ตอนเขาตาย ตังค์ที่ว่านี่ก็มีอยู่ แล้วมาบอกว่าน้องอาร์ตจะเข้าไปขโมยของได้ยังไง น้องอาร์ตนี่จุดเป้าหมายของเขาคือจะขึ้นไปโทรศัพท์บอกว่าเขาติดอยู่ในนั้น กับเพื่อน ให้หาคนออกมาช่วยหน่อย แต่พอตัวขึ้นไปโทรแล้วจะลงมามันลงไม่ได้ ไฟมันดับมืดไม่รู้ทาง ไม่เห็นทิศเห็นทาง ควันก็เยอะ เรื่องของเรื่องมันเป็นอย่างนี้ เพราะน้องอาร์ตนี้เป็นคนที่รักเพื่อนมาก เขาเป็นคนที่รักใครก็ได้ที่อยู่ใกล้ชิดเขา รักหมด รักจนนาทีสุดท้ายเลย”