REVENGE FOR VERDUN (Alexander Kluge, short story, A+30)
Alexander Kluge is not only one of my most favorite directors, he
also wrote REVENGE FOR VERDUN, which is one of my most favorite short stories
of all time.
เรื่องสั้นเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Willi Eisler ทหารเยอรมันที่สู้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่เมือง
Verdun เขาพบว่าฝ่ายศัตรูยิงระเบิดถล่มฝ่ายพวกเขาหนักมาก
เขากับพรรคพวกก็เลยหนีออกมาจากสมรภูมิตรงนั้น แต่ขณะที่หลบหนีออกมา พวกเขาก็เจอกับเจ้าหน้าที่ทหารชื่อ
Dr von Fredersdorff ที่สั่งพวกเขาให้กลับไปยังสมรภูมิจุดเดิม
ไอส์เลอร์ ก็เลยแค้น Fredersdorff มากที่ออกคำสั่งโดยไม่คำนึงถึงอันตรายที่พวกเขาต้องเผชิญ
อีก 18 ปีต่อมา (ประมาณปี 1934) ไอส์เลอร์เจอเฟรเดอร์สดอร์ฟมาตรวจสะพานแห่งหนึ่ง
ไอส์เลอร์ก็เลยพยายามแก้แค้นด้วยการทำให้สะพานแห่งนั้นถล่มลงมา
ปรากฏว่าเฟรเดอร์สดอร์ฟไม่ตาย เขาได้รับบาดเจ็บที่หลังจนเป็นอัมพาตต้องนั่งรถเข็น
แต่มีคนงานตายไป 12 คน
ไอส์เลอร์ติดคุกเพราะเหตุการณ์ครั้งนั้น
แต่เขาถูกปล่อยตัวออกจากคุกในปี 1942
เพื่อมาทำงานให้กระทรวงอาวุธของเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังปี 1945 ไอส์เลอร์สืบหาเฟรเดอร์สดอร์ฟจนเจอที่เทือกเขาสวาเบียน
ไอส์เลอร์ก็เลยลากเฟรเดอร์สดอร์ฟลงจากรถเข็นเพื่อไปฆ่าที่บึงน้ำแห่งนึง
แต่มีคนมาช่วยชีวิตเฟรเดอร์สดอร์ฟได้ทัน ส่วนไอส์เลอร์ก็ติดคุก 3 ปี
ในปี 1959 ไอส์เลอร์สืบหาเฟรเดอร์สดอร์ฟจนเจออีกครั้ง
เขาก็เลยเผาเฟรเดอร์สดอร์ฟจนตาย
เราชอบเรื่องสั้นเรื่องนี้มาก ตอนแรกเรานึกว่ามันเป็นเรื่องจริง
ไม่ใช่เรื่องแต่ง เราก็เลยไป google ดู แต่ไม่เจอข้อมูลของ Willi
Eisler เลย เราก็เลยเดาว่า Kluge คงแต่งเรื่องนี้ขึ้นมา
แต่มันดูจริงมากๆจนเรานึกว่าเป็นเรื่องจริง
เราไม่เห็นด้วยกับการกระทำของไอส์เลอร์นะ
เพราะเขาฆ่าคนบริสุทธิ์ตายไปตั้ง 12 คน แต่เราชอบเรื่องสั้นเรื่องนี้อย่างสุดๆ
เพราะเราว่า Kluge เข้าใจ human nature มากๆ
เขาเข้าใจดีว่าสำหรับคนบางคนนั้น ความเคียดแค้นชิงชังมันไม่สามารถถูกลบเลือนไปได้ด้วยเวลาแต่อย่างใด
ต่อให้เวลาผ่านไป 30 ปี หรือ 40 กว่าปีอย่างในเรื่องสั้นเรื่องนี้
ความเคียดแค้นชิงชังก็ไม่ลดน้อยถอยลงไปเลยแม้แต่น้อย
ในเรื่องสั้นเรื่องนี้มีรายละเอียดอื่นๆ
และมีส่วนที่เป็นบทกวีแทรกมาด้วย เราอ่านแล้วแทบร้องไห้ เราไม่แน่ใจว่าเราเข้าใจบทกวีที่แทรกอยู่ในเรื่องสั้นเรื่องนี้หรือเปล่า
แต่พอเราอ่านแล้ว มันทำให้เราจินตนาการว่า
ตัวไอส์เลอร์เองก็รู้ดีว่าความแค้นมันทำให้เขาเป็นทุกข์
มันทำให้เขาไม่สามารถมีความสุขกับความงดงามตามธรรมชาติของโลกได้อีกต่อไป ถึงเขาจะมองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ดารดาษไปด้วยหมู่ดาว
ความงดงามนั้นก็ไม่สามารถชโลมจิตใจของเขาได้
เพราะน้ำตามันบดบังดวงตาของเขาจนทำให้เขามองไม่เห็นความงามของหมู่ดาวอีกต่อไป
เราชอบตรงจุดนี้มากๆ เราเข้าใจดีว่าสำหรับบางคนนั้น
เขารู้ดีว่าความเคียดแค้นชิงชังเป็นสิ่งไม่ดี และมันจะเผาผลาญตัวเขาไปนานหลายสิบปี
แต่ถึงเขารู้ว่ามันไม่ดี เขาก็ไม่สามารถดับมันได้แต่อย่างใด
ตัวละครในเรื่องสั้นเรื่องนี้ทำให้นึกถึงนางเอกของ THE PAGE TURNER (2006, Denis
Dercourt) ด้วย
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Alexander Kluge ได้ในหนังสือฟิล์มไวรัส
2
No comments:
Post a Comment