Films I saw in the project SHOUD THIS FILM BE BANNED?
1.180 DEGREES (Prachya Wantharasin, documentary, A+30)
180 DEGREES ด้านเดียวจำกัดองศา (ปรัชญา วรรณธราสิน, 20, A+30)
2.UNCONSCIOUSNESS IN THE TIME OF CRISIS (Jutha Saovabha, A+30)
ปฏิรัก (จุฑา เสาวภา, 19.10, A+30)
3.THE DOCTOR WHO CHANGES HEADS INVADES HUASAI (Paritas Hutanggoon, A+30)
หมอเปลี่ยนหัว บุกหัวไทร (ปริทรรศ หุตางกูร, 13.53, A+30)
4.YOU, ME AND THE WINDSHIELD MAN (Jirawat Navachak, 20, A+20)
5.DELETE (Thanayos Sonsoi, A+15)
DELETE (ธนยศ สนสร้อย, 200.37, A+15)
6.LUST (Thanit Boonyarat, 20.22, A+10)
7.TOILET (Flamingo, A)
ห้องน้ำ (Flamingo, 11.22, A)
8.DEMOCRACY (DOESN’T EXIST) (Punfun Studio, A)
ประชาธิปไตย (ไม่มีจริง) (ปันฝันสตูดิโอ, 19.21, A)
9.TRADITIONS (FAKE DOING) (Adisorn Kongpunpin, A)
ธรรมเนียมปฏิบัติ (ทำ-เทียม-ปฏิบัติ) (อดิศร คงพุนพิน,
9.36, A)
10.THESIS (Thatchai Watanapornpongsuk, A-)
THESIS (ธัชชัย วัฒนะพรพงษ์สุข, 7.42, A-)
11.FULL-CIRCLE AGRICULTURE, COMPLETELY POOR FARMER (Kemchart Tonboon +
Tossapol Tassanakulpun, documentary, A-)
เกษตรกรรมครบวงจร เกษตรกรครบวงจน (เขมชาติ ตนบุญ + ทศพล
ทรรศนกุลพันธ์, 19.08, A-)
12.COINMIC (Surasit Bunpala, A-)
COINMIC (สุรศิษฏ์ บรรพลา, 2.09, A-)
13.BLOOD MONEY (Pattaradis Pamornmontree + Kittitouch Mingkwan, A-)
BLOOD MONEY (ภัทรดิษ ภมรมนตรี + กิตติธัช มิ่งขวัญ, 7.30,
A-)
14. BOURGEOISIE (Samun Sungmusiganont, A-)
กุฎุมพี (สามัญ สังข์มุสิกานนท์, 22.46, A-)
15.RICE (Some-how, A-/B+)
ข้าว (สามหาว, 6.39, A-/B+)
16.FIRST CAR (Thai Pradithkesorn, B+)
รถคันแรก (ไท ประดิษฐ์เกษร, 4.44, B+)
17. KNOWING THIS IS A BAD THING, BUT KEEPING ON DOING IT (Nattapat
Graitruadpol, B+)
รู้ว่าเลว (แต่) ก็ทำต่อไป (ณัฐภัทร ไกรตรวจพล, 9.48, B+)
18.HEY!, THESE ARE ALIENS (Moolumfilm, B)
เฮ้ย นี่มันพวกต่างดาวนี่ครัส (หมูหลุมฟิล์ม, 0.44, B)
19.MIRROR (Sasiras Meemongkol + Mutita Nuengsomsri, B)
MIRROR (ศศิรัศม์ มีมงคล + มุทิตา เนื่องสมศรี, 8.16, B)
20.THE LAST TRY (Thapana Satitwut, B)
ความพยายามครั้งสุดท้าย (ฐาปนา สาธิตวุฒิ, 9.55, B)
21.WHAT? (Moving Image, B-
อะไรเอ่ย? (Moving Image, 7.35, B-)
22.BANGKOK PARADISE (Pawaris Chartnampetch, 3.01, C+)
สวรรค์บางกอก (ปวริศ ชาติน้ำเพชร)
23.HIRE (Pittaya Glomglao, C+)
HIRE (พิทยา กลมเกลา, 19.59, C+)
24.THE ANTI-CENSORSHIP ARE BANNING IT THEMSELVES (Thai
Pradithkesorn, documentary, C+)
ห้ามแบน แต่แบนเอง (ไท ประดิษฐ์เกษร, 12.30, C+)
สำหรับเรา เราว่าปฏิรักมีปัญหาแค่เรื่องการบันทึกเสียงนะ
เพราะเราไม่ค่อยได้ยินเสียงตัวละครคุยกันในบางช่วง
แต่ถ้าหากหนังเรื่องนี้มีโอกาสได้ฉายที่ไหนอีก ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการใส่ subtitle ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเข้าไปเลยจ้ะ
คนดูจะได้รู้ว่าตัวละครคุยอะไรกัน
สิ่งที่ชอบมากในปฏิรัก
1.สิ่งที่ตัวละครคุยกันน่าสนใจดี
เราว่าผู้กำกับหลายคนที่ไม่ได้เรียนหนังมา แต่มีความรู้ทางการเมือง+สังคมสูง
ควรทำหนังแบบนี้แหละ คือให้ตัวละครมาถกกันถึงแนวคิดทางการเมืองตรงๆไปเลย
ซึ่งวิธีนี้ผู้ชมคนอื่นๆหรือผู้ทรงคุณวุฒิทางภาพยนตร์บางท่านอาจจะไม่ชอบนะ
แต่เราชอบวิธีแบบนี้มาก หนังหลายๆเรื่องที่เราชอบก็ใช้วิธีการแบบนี้ อย่างเช่น LA CHINOISE (1967, Jean-Luc
Godard) กับ “ทวิภพในเอกภพ” (2004, ปราปต์
บุนปาน) สิ่งสำคัญก็คือตัวคนสร้างภาพยนตร์ต้องรู้จริงในประเด็นที่ตัวเองพูด
คือถ้าตัวคนสร้างภาพยนตร์ยังคิด form หรือ style ที่น่าสนใจมากๆไม่ได้ เราขอให้ content ของเขาแน่นจริงๆก่อนก็พอ
2.การนำประเด็นทางการเมืองมาโยงกับประเด็นชู้สาวของตัวละคร
ก็น่าสนใจดี มันทำให้เรานึกถึงกลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก
ที่มีการเปรียบเทียบระบอบการปกครองกับความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเหมือนกัน
และมันทำให้เรานึกถึงหนังเรื่อง WE DON’T CARE FOR DEMOCRACY (2010, John Torres,
Philippines) ด้วย
3.การใช้ดนตรีประกอบในปฏิรักสุดยอดมากๆ เราว่าคนทำมี sense ด้านนี้สูงมาก
และเหนือชั้นกว่าหนังสั้นเรื่องอื่นๆ เพราะเราว่าหนังสั้นหลายๆเรื่องใส่ใส่ดนตรีประกอบเข้ามาโดยไม่จำเป็น
หลายเรื่องใส่ดนตรีประกอบที่ช่วยเร้าอารมณ์คนดูเข้ามาในฉากที่ตัวเนื้อเรื่องมันเร้าอารมณ์มากๆอยู่แล้ว
ผลที่ได้ก็คืออารมณ์ที่ล้นเกิน และการ force อารมณ์ของคนดูโดยไม่จำเป็น
แต่ในปฏิรัก
เราว่าดนตรีประกอบมันช่วยสร้างความหมายหรืออารมณ์ใหม่ๆให้กับภาพที่เห็นน่ะ
คือภาพที่เห็น ถ้ามันไม่มีดนตรีประกอบแบบนี้ เราอาจจะรู้สึกกับภาพในอีกแบบนึงไปเลย
เพราะฉะนั้นดนตรีประกอบในเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเกือบพอๆกับภาพ
ไม่ใช่ส่วนเกินที่ไม่จำเป็นของภาพ
4.เราว่าคนทำมี sense ด้านภาพยนตร์ในแบบที่เราชอบนะ
เสียดายที่เราจำรายละเอียดไม่ได้แล้ว แต่ถ้าจำไม่ผิด มันเหมือนมีภาพท้องฟ้า
หรือวิวทิวทัศน์ ภาพเงาของตัวละคร หรือภาพที่ไม่ได้เล่าเรื่องโดยตรง
แทรกเข้ามาในบางช่วงของเรื่องน่ะ และเราว่าช็อตพวกนี้มันแสดงให้เห็นว่าคนทำมี sense
ด้านภาพยนตร์ในแบบที่เราชอบ มันเหมือนมีความเป็นกวีอยู่ด้วย และถ้าจำไม่ผิด
มันเหมือนมีบางช่วงที่ทำให้เรานึกถึง Terrence Malick ด้วย
No comments:
Post a Comment