Tuesday, June 17, 2014

WET13TH (2014, Pittawat Apinyanont, A+10)

WET13TH (2014, Pittawat Apinyanont, A+10)
เปียกสิบสาม (พิทวัส อภิญญานนท์)
 
ชอบมากๆ เพราะเรามักจะชอบหนังที่เก็บเกี่ยวความประทับใจของคนถ่ายที่มีต่อสิ่งที่ถูกถ่ายน่ะ โดยที่คนถ่ายไม่จำเป็นต้องรู้ด้วยซ้ำไปว่าทำไมตัวเองถึงประทับใจต่อสิ่งที่เห็น คือความประทับใจบางทีมันไม่จำเป็นต้องผ่านการกลั่นกรองของสมองก่อนน่ะ คือพอเราเห็นอะไรที่เราประทับใจปุ๊บ เราก็ถ่ายมันเก็บไว้เลย โดยที่เราไม่จำเป็นต้อง “เข้าใจ” ว่าทำไมเราถึงประทับใจมัน เสร็จแล้วพอเวลาผ่านไประยะนึง เราค่อยรวบรวมเอาสิ่งที่เราประทับใจนั้นมาตัดต่อเป็นหนัง ซึ่งจะออกมาเป็นหนังที่ดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ตัดต่อหนังมีความเป็นกวีอยู่ในตัวมากน้อยเพียงใด
 
คือคอนเซปท์ข้างต้นมันมาจากสิ่งที่พี่สนธยาเคยพูดถึงหนังเรื่อง BIRTH OF THE SEANEMA (2004, Sasithorn Ariyavicha, A+30) ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังที่เราชอบมากที่สุดในชีวิตน่ะ คือหนังเรื่อง BIRTH OF THE SEANEMA, หนังบางเรื่องของ Teeranit Siangsanoh, หนังบางเรื่องของ Wachara Kanha และอาจจะรวมไปถึงหนังบางเรื่องของ Jonas Mekas มันมาจากสิ่งที่ “ถ่ายก่อนคิด” ในขณะที่หนังส่วนใหญ่ในโลกนี้มักจะเกิดจากการ “คิดก่อนถ่าย”
 
เราว่าหนังเรื่อง WET13TH ก็ทำให้เรานึกถึงหนังประเภท “ถ่ายก่อนคิด” เหมือนกัน คือมันเป็นการบันทึกภาพงานฉลองสงกรานต์ของคนงานก่อสร้างหรืออะไรทำนองนี้ แล้วก็นำมันมา superimpose กับภาพงานฉลองสงกรานต์ของชนชั้นกลาง โดยที่ไม่มีการตัดสินคุณค่าหรือพยายามยัดเยียดความคิดความเชื่อใดๆให้ผู้ชม มีแต่การนำเสนอความประทับใจของผู้ถือกล้องที่มีต่อสิ่งที่อยู่หน้ากล้องเท่านั้น
 
นอกเหนือจากประเด็นข้างต้นแล้ว อีกปัจจัยที่ทำให้เราชอบหนังเรื่องนี้มากๆก็คือเรามีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกของชนชั้นแรงงานด้วยแหละ หนังเรื่องนี้ก็เลยตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของเราตรงจุดนี้ได้ในระดับนึง
 
ถ้าหากจะให้ฉายหนังเรื่องนี้ควบกับหนังเรื่องอื่นๆ เราก็คงจะฉายควบกับ I DID NOT DREAM LAST NIGHT (2008, Taiki Sakpisit, 10min, A+30) ที่เป็นเหมือนกับการลอบมองหนุ่มๆคนงานก่อสร้างกลุ่มนึง โดยไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรทั้งสิ้น มันเป็นเพียงการนำเสนอห้วงขณะนึงของคนกลุ่มนึงเท่านั้น แต่จังหวะภาพและเสียงของหนังสามารถทำให้หนังออกมางดงามมากๆ
 
สรุปว่าชอบการนำเสนอ “ความรู้สึก” และ “ความประทับใจ” ของผู้ถ่ายหนังใน WET13TH มากๆ และชอบมากๆที่ผู้สร้างหนังไม่พยายามยัดเยียดเนื้อเรื่องหรือคำสอนใดๆให้ผู้ชม
 
 
 

No comments: