DUMB AND DUMBER TO (2014, Bobby Farrelly + Peter Farrelly, A+20)
ตอนดูจบให้ A+15 แต่ตอนนี้ขอขยับขึ้นมาเป็น A+20 เพราะคิดไปคิดมาแล้ว เราชอบ “บทภาพยนตร์” ของหนังเรื่องนี้มากๆ
ในแง่ที่ว่า มันคิดบทยังไงให้เกิดสถานการณ์จัญไรได้เกือบทุกซีนแบบนี้ 555
คือเราไม่ได้รู้สึกว่าหนังมัน “ตลก” สุดขีดนะ เพราะฉะนั้นตอนดูจบเราก็เลยให้แค่ A+15
แต่พอเราเอามันไปเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ แล้วเรารู้สึกว่า
เราชอบบทภาพยนตร์แบบนี้มากน่ะ มันถูกโฉลกกับเรามากๆ มันมีแต่ความชิบหายที่มาได้ในหลายรูปแบบจริงๆ
คือจริงๆแล้วหนังเรื่องนี้มันก็มี 3 องก์เหมือนหนังทั่วไปหรือเปล่า
และมันก็มีเส้นเรื่องหลักของมัน แต่เรารู้สึกว่ามันมีความเป็นอิสระบางอย่างในระหว่างที่เนื้อเรื่องดำเนินไปตามเส้นเรื่องหลักน่ะ
บอกไม่ถูกเหมือนกัน คือหนังทั่วไปเวลาที่เนื้อเรื่องมันดำเนินไปตามเส้นเรื่องหลัก
เราจะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันถูกบีบให้อยู่ในกรอบที่มองไม่เห็นบางอย่าง
แต่ในหนังเรื่องนี้ ขณะที่เนื้อเรื่องมันดำเนินไปตามเส้นเรื่องหลัก กรอบของ “เหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในหนัง”
มันเหมือนถูกขยายกว้างออกไปกว่าหนังปกติ
คือถ้าหนังปกติเป็น A แล้วหนังที่มีความเป็นอิสระมากๆอย่าง
THE DISCREET CHARM OF THE BOURGEOISIE เป็น Z หรืออยู่ที่อีกปลายด้านนึงของเส้นนี้
เราก็รู้สึกว่าหนังอย่าง DUMB AND DUMBER TO มันอยู่ประมาณ G
หรืออะไรทำนองนี้
เดาว่าถ้าเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เกรดที่เราให้กับ DUMB AND DUMBER TO อาจจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
555
หนังตลกอีกเรื่องที่เราว่าไปได้สุดทางในแง่ “เหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในหนัง”
คือ THE
RENDEZ-VOUS OF DÉJÀ-VU (2013, Antonin Peretjatko, A+30)
No comments:
Post a Comment