FILMS SEEN IN CINEMORE 2018
1.โตโต้คนมหากาฬตามล่าฆ่าเสี่ยที่เลียหือน้องกู (พิชชากร มกุลพานิช, A+30)
ตอนดูจบใหม่ๆชอบแค่ระดับ A+15 แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆก็พบว่าคงต้องให้หนังเรื่องนี้ติดอันดับประจำปีอย่างแน่นอน
เพราะทุกครั้งที่คิดถึงหนังเรื่องนี้ เราต้องหัวเราะออกมา 555 ชอบวัฒนธรรมการพากย์เสียงทับ,
ชอบการล้อเลียนหนังบู๊, ชอบที่พระเอกหล่อ,
ชอบที่ตัวละครพระเอกเคยเป็นผู้ชายขายตัวมาก่อน แต่ก็มีความสามารถทางการบู๊ต่อยตีกับผู้ร้าย
และที่สำคัญก็คือว่า เรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกหนังเรื่องนี้ 555
2.ดอนหอ (ศักดิ์ดา ประมูลทอง, documentary, A+20)
ชอบประเด็นเรื่องผีๆสางๆมากๆ อยากให้หนังยาวกว่านี้หรือเจาะลึกกว่านี้
3.SAME (อังคณา เมืองมูล, A+20)
รู้สึกว่าหนังสามารถดึงเสน่ห์ของตัวพระเอกออกมาได้ คือหนังโรแมนติกนี่
เราจะอินหรือไม่อินก็ขึ้นอยู่กับความน่ารักของพระเอกเป็นปัจจัยสำคัญ
และจริงๆแล้วความหล่อของนักแสดงอาจจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเท่ากับว่า ผู้กำกับสามารถดึงเสน่ห์ของนักแสดงออกมาได้หรือเปล่า
และเราว่าผู้กำกับหนังเรื่องนี้ดึงเสน่ห์ของตัวนักแสดงชายออกมาได้ เราก็เลยชอบหนังมากๆ
แต่จริงๆแล้วอยากให้หนังสะท้อน “สังคมเพื่อนๆ” ที่อยู่ล้อมรอบตัวพระเอกนางเอกออกมาด้วยนะ คือเรารู้สึกว่าพระเอกนางเอกหนังเรื่องนี้ดูลอยๆหน่อยน่ะ
เพราะเราไม่เห็นเพื่อนๆคนอื่นๆรอบตัวพระเอกนางเอกเลย
มันก็เลยดูเหมือนหนังขาดอะไรบางอย่างไป
4.THE LAWS OF LOVE รักบังคับจับแต่ง (ศิวพันธ์ บุณยรัตพันธุ์,
A+15)
ชอบไอเดียตั้งต้นของหนังเรื่องนี้มากๆ
คือการตั้งต้นเป็นหนังไซไฟโลกอนาคต มันช่วยให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นขึ้นมาจากหนังนักศึกษาโดยทั่วไปน่ะ
แต่พอเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเชยมาก คือความสัมพันธ์ของพระเอก-นางเอกหนังเรื่องนี้นึกว่ามาจากนิตยสารสกุลไทยเมื่อ
40 ปีก่อน 555 แต่ปรากฏว่าหนังจบได้ดีเกินคาด
สรุปว่าชอบตอนต้นกับตอนจบ แต่เฉยๆกับช่วงกลางเรื่อง
5.WHATEVER (ชญานิน เกิดมี, A+15)
หนังน่ารักดี ชอบการเปิดตัวตัวละครแต่ละคน
6.คนหวยรวย (เจนจิรา กิจเจริญ, A+15)
เป็นหนังที่ตอบสนองความปรารถนาส่วนลึกของเรามากๆ นั่นก็คือการถูกหวย ดูแล้วมีความสุข
คือมีความสุขไปกับจินตนาการชั่วครู่ชั่วยามที่ว่า ถ้าหากเราถูกหวยเลขท้ายสองตัวสามตัวไปเรื่อยๆแบบนางเอกหนังเรื่องนี้
ชีวิตเราจะดีสักแค่ไหน 555
เราว่าไอเดียเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้มันดีน่ะ
คือเนื้อเรื่องโดยรวมมันอาจจะไม่ได้ดีมากนัก
แต่พล็อตหลักของมันที่พูดถึงการเล่นหวย
มันช่วยให้หนังเรื่องนี้มีพล็อตเรื่องที่แตกต่างหรือโดดเด่นออกมาจากหนังนักศึกษาเรื่องอื่นๆ
7.คน ธรรม ดี (ธรณ์ธันย์ ฟักฟูมทน, A+10)
ชอบ setting ของหนังเรื่องนี้
แต่เหมือนหนังมีแค่องก์หนึ่งกับองก์สอง แต่ขาดองก์สาม
8.โตมะโต (ธีรดนย์ กุวะสาร, documentary, A+10)
ชอบมากที่หนังไปสัมภาษณ์คนที่มีความเห็นทางการเมืองตรงข้ามกับเรา
โดยที่ตัวหนังเองก็คงไม่ได้ตั้งใจ คือหนังคงกะแค่สัมภาษณ์คนปลูกมะเขือเทศ แต่ปรากฏว่าคนปลูกมะเขือเทศรายนี้ดันมีความเห็นทางการเมืองที่ตรงข้ามกับเราด้วย
แต่อยากให้หนังสัมภาษณ์คนปลูกมะเขือเทศหรือพืชไร่หลายๆคนนะ คือการได้ดูบทสัมภาษณ์แค่คนเดียวแบบนี้มันเหมือนกับเราได้อ่านหนังสือแค่
“หนึ่งย่อหน้า” น่ะ แทนที่จะได้อ่านทั้งบทความ
9.กระดานดำ REPEATED (วัชรพงศ์ เพชรา, A+10)
เราว่าหนังสอบผ่านด้านการสร้างบรรยากาศ คือดูแล้วนึกถึงหนังอย่าง SIAM SQUARE (2017) ในแง่บรรยากาศน่ากลัว หลอนๆ
แต่เนื้อเรื่องตรงส่วนเฉลยทำให้หนังดูแย่ลง
10.THE MOLEST (ธีรดนย์ กุวะสาร, A+10)
ระหว่างดูจะรู้สึกว่าสนุกดี แต่พอดูจนจบแล้วรู้สึกว่ามันจบไม่ค่อยสนุก
11.SATURDAY (ชาญวิช จันทรมี, A+5)
12.บ้าน (ธราธิป ผลสุขขา, A+)
13.มโนคม (จักรพงษ์ วิวัฒน์ศิลป์, A+)
14.BAD LOVE (กิตติพงษ์ แซ่ซือ, A+)
15.CHOICE (เมธัศ คอมเพ็ชร, A+)
16.THE STORM (ศิวพันธ์ บุณยรัตพันธุ์, รัฐพล วิไล,
documentary, A)
17.#MEMORYME (ธีรดนย์ มีสวย, A)
18.SNAPPISH (อัครพล ฤทธิจันทร์, A-)
19.ห้องน้ำ (กฤษฎิพัศย์ เศวษจินดา, A-)
20.ระหว่างทาง (อรรณพ รวยสิริสมบัติ, A-)
21.ถ่อยLET (ศุภโชค พลับทอง, B )
No comments:
Post a Comment