Saturday, April 21, 2018

FILMS SEEN IN CINEMORE 2018


FILMS SEEN IN CINEMORE 2018

1.โตโต้คนมหากาฬตามล่าฆ่าเสี่ยที่เลียหือน้องกู (พิชชากร มกุลพานิช, A+30)
ตอนดูจบใหม่ๆชอบแค่ระดับ A+15 แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆก็พบว่าคงต้องให้หนังเรื่องนี้ติดอันดับประจำปีอย่างแน่นอน เพราะทุกครั้งที่คิดถึงหนังเรื่องนี้ เราต้องหัวเราะออกมา 555 ชอบวัฒนธรรมการพากย์เสียงทับ, ชอบการล้อเลียนหนังบู๊, ชอบที่พระเอกหล่อ, ชอบที่ตัวละครพระเอกเคยเป็นผู้ชายขายตัวมาก่อน แต่ก็มีความสามารถทางการบู๊ต่อยตีกับผู้ร้าย และที่สำคัญก็คือว่า เรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกหนังเรื่องนี้ 555

2.ดอนหอ (ศักดิ์ดา ประมูลทอง, documentary, A+20)

ชอบประเด็นเรื่องผีๆสางๆมากๆ อยากให้หนังยาวกว่านี้หรือเจาะลึกกว่านี้

3.SAME (อังคณา เมืองมูล, A+20)

รู้สึกว่าหนังสามารถดึงเสน่ห์ของตัวพระเอกออกมาได้ คือหนังโรแมนติกนี่ เราจะอินหรือไม่อินก็ขึ้นอยู่กับความน่ารักของพระเอกเป็นปัจจัยสำคัญ และจริงๆแล้วความหล่อของนักแสดงอาจจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเท่ากับว่า ผู้กำกับสามารถดึงเสน่ห์ของนักแสดงออกมาได้หรือเปล่า และเราว่าผู้กำกับหนังเรื่องนี้ดึงเสน่ห์ของตัวนักแสดงชายออกมาได้ เราก็เลยชอบหนังมากๆ

แต่จริงๆแล้วอยากให้หนังสะท้อน “สังคมเพื่อนๆ”  ที่อยู่ล้อมรอบตัวพระเอกนางเอกออกมาด้วยนะ คือเรารู้สึกว่าพระเอกนางเอกหนังเรื่องนี้ดูลอยๆหน่อยน่ะ เพราะเราไม่เห็นเพื่อนๆคนอื่นๆรอบตัวพระเอกนางเอกเลย มันก็เลยดูเหมือนหนังขาดอะไรบางอย่างไป

4.THE LAWS OF LOVE รักบังคับจับแต่ง (ศิวพันธ์ บุณยรัตพันธุ์, A+15)

ชอบไอเดียตั้งต้นของหนังเรื่องนี้มากๆ คือการตั้งต้นเป็นหนังไซไฟโลกอนาคต มันช่วยให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นขึ้นมาจากหนังนักศึกษาโดยทั่วไปน่ะ แต่พอเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเชยมาก คือความสัมพันธ์ของพระเอก-นางเอกหนังเรื่องนี้นึกว่ามาจากนิตยสารสกุลไทยเมื่อ 40 ปีก่อน 555 แต่ปรากฏว่าหนังจบได้ดีเกินคาด สรุปว่าชอบตอนต้นกับตอนจบ แต่เฉยๆกับช่วงกลางเรื่อง

5.WHATEVER (ชญานิน เกิดมี, A+15)

หนังน่ารักดี ชอบการเปิดตัวตัวละครแต่ละคน

6.คนหวยรวย (เจนจิรา กิจเจริญ, A+15)

เป็นหนังที่ตอบสนองความปรารถนาส่วนลึกของเรามากๆ นั่นก็คือการถูกหวย ดูแล้วมีความสุข คือมีความสุขไปกับจินตนาการชั่วครู่ชั่วยามที่ว่า ถ้าหากเราถูกหวยเลขท้ายสองตัวสามตัวไปเรื่อยๆแบบนางเอกหนังเรื่องนี้ ชีวิตเราจะดีสักแค่ไหน 555

เราว่าไอเดียเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้มันดีน่ะ คือเนื้อเรื่องโดยรวมมันอาจจะไม่ได้ดีมากนัก แต่พล็อตหลักของมันที่พูดถึงการเล่นหวย มันช่วยให้หนังเรื่องนี้มีพล็อตเรื่องที่แตกต่างหรือโดดเด่นออกมาจากหนังนักศึกษาเรื่องอื่นๆ

7.คน ธรรม ดี (ธรณ์ธันย์ ฟักฟูมทน, A+10)

ชอบ setting ของหนังเรื่องนี้ แต่เหมือนหนังมีแค่องก์หนึ่งกับองก์สอง แต่ขาดองก์สาม

8.โตมะโต (ธีรดนย์ กุวะสาร, documentary, A+10)

ชอบมากที่หนังไปสัมภาษณ์คนที่มีความเห็นทางการเมืองตรงข้ามกับเรา โดยที่ตัวหนังเองก็คงไม่ได้ตั้งใจ คือหนังคงกะแค่สัมภาษณ์คนปลูกมะเขือเทศ แต่ปรากฏว่าคนปลูกมะเขือเทศรายนี้ดันมีความเห็นทางการเมืองที่ตรงข้ามกับเราด้วย

แต่อยากให้หนังสัมภาษณ์คนปลูกมะเขือเทศหรือพืชไร่หลายๆคนนะ คือการได้ดูบทสัมภาษณ์แค่คนเดียวแบบนี้มันเหมือนกับเราได้อ่านหนังสือแค่ “หนึ่งย่อหน้า” น่ะ แทนที่จะได้อ่านทั้งบทความ

9.กระดานดำ REPEATED (วัชรพงศ์ เพชรา, A+10)

เราว่าหนังสอบผ่านด้านการสร้างบรรยากาศ คือดูแล้วนึกถึงหนังอย่าง SIAM SQUARE (2017)  ในแง่บรรยากาศน่ากลัว หลอนๆ แต่เนื้อเรื่องตรงส่วนเฉลยทำให้หนังดูแย่ลง

10.THE MOLEST (ธีรดนย์ กุวะสาร, A+10)

ระหว่างดูจะรู้สึกว่าสนุกดี แต่พอดูจนจบแล้วรู้สึกว่ามันจบไม่ค่อยสนุก

11.SATURDAY (ชาญวิช จันทรมี, A+5)

12.บ้าน (ธราธิป ผลสุขขา, A+)

13.มโนคม (จักรพงษ์ วิวัฒน์ศิลป์, A+)

14.BAD LOVE (กิตติพงษ์ แซ่ซือ, A+)

15.CHOICE (เมธัศ คอมเพ็ชร, A+)

16.THE STORM (ศิวพันธ์ บุณยรัตพันธุ์, รัฐพล วิไล, documentary, A)

17.#MEMORYME (ธีรดนย์ มีสวย, A)

18.SNAPPISH (อัครพล ฤทธิจันทร์, A-)

19.ห้องน้ำ (กฤษฎิพัศย์ เศวษจินดา, A-)

20.ระหว่างทาง (อรรณพ รวยสิริสมบัติ, A-)

21.ถ่อยLET (ศุภโชค พลับทอง, B )

No comments: