สรุปว่า พอดู คุณชายน์ THE CLICHÉ (2024,
Chutchawal Wisawabumrungchai, A+30) ผ่านไปได้ระยะหนึ่ง
ความชอบของเราที่มีต่อหนังเรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะหนังเรื่องนี้เหมือนไปกระตุ้นความคิด+ความทรงจำของเราที่มีต่อละครโทรทัศน์ของไทย,
ละครน้ำเน่าของต่างประเทศ, สื่อบันเทิงของไทย, etc. ในแบบที่หนังเรื่องอื่น
ๆ ไม่ได้กระตุ้นให้เราคิดถึง
หนึ่งในสิ่งที่หนังเรื่องนี้กระตุ้นให้เราคิดถึงก็คือว่า
ถึงแม้ละครน้ำเน่าอย่าง “บ้านทรายทอง” อาจจะไม่ใช่ทางเราเสียทีเดียว
แต่ถ้าหากมันพลิกนิดเดียว มันก็จะเข้าทางเราไปเลย เพราะเราเองก็ชอบหนังเรื่อง AFTER
SUNDOWN ดับแสงรวี (2023, Bhandit Thongdee, A+25) มาก ๆ 55555 ซึ่งเราว่า “ดับแสงรวี” มันมีความเป็นละครน้ำเน่าอยู่ในตัวอย่างรุนแรง
เพียงแต่ว่ามันแค่พลิกเพศสภาพของตัวละครจากผู้หญิงมาเป็นเกย์ และการพลิกเพียงแค่นิดเดียว
มันก็ตอบสนอง fantasy ของเราได้เลย
ก็เลยรู้สึกว่า ในแง่หนึ่ง “ดับแสงรวี” กับ “ละครโทรทัศน์แบบ
เพลิงพ่าย และคุณหญิงบ่าวตั้ง” คือตัวอย่างของสิ่งที่สามารถสร้าง pleasure ให้กับเราได้อย่างรุนแรง โดยไม่ต้องอาศัยคุณค่าทางศิลปะใด ๆ 55555 และมันคือ
safe zone ของเราอย่างแท้จริง และมันคือตัวอย่างที่ดีของประโยคที่ว่า
“safe zone ของใครก็ของมัน safe zone ของเราย่อมไม่ใช่
safe zone สำหรับคนอื่น ๆ”
ส่วนตัวอย่างของ “ละครน้ำเน่า” หรือ “หนัง melodrama”
หรือ “หนังประโลมโลกย์” ที่มีคุณค่าทางศิลปะอยู่ด้วยนั้น ตัวอย่างล่าสุดก็อาจจะเป็น
“วิมานหนาม” THE PARADISE OF THORNS นี่แหละ และในอดีตก็คงจะเห็นตัวอย่างได้มากมายจากภาพยนตร์ของ
Douglas Sirk, Frank Borzage, etc. ซึ่งเราก็ชอบ “วิมานหนาม”
และหนังของ Douglas Sirk อย่างรุนแรงสุดขีดเช่นกัน
แต่ก็ยอมรับว่า เราอินกับตัวละครผู้ร้ายใน “คุณชายน์
THE CLICHÉ” มากในระดับนึงนะ เพราะหนึ่งในหนังที่เราชอบที่สุดตลอดกาล
ก็คือ LA CEREMONIE (1995, Claude Chabrol) และเราก็คิดมาโดยตลอดว่า
ละคร/หนัง “บ้านทรายทอง” มันจะเข้าทางเราได้ก็ต่อเมื่อ มันจบแบบ LA
CEREMONIE เพราะฉะนั้นละครในแบบที่ตัวละครผู้ร้ายใน THE CLICHÉ
อยากจะเห็น มันก็ใกล้เคียงกับ “ละครในแบบที่เราอยากจะเห็น”
ในระดับนึง 55555
แต่เราก็ไม่ได้อินกับตัวละครผู้ร้ายใน THE
CLICHÉ ไปซะทั้งหมด เพราะเราถือคติว่า มันควรจะมีทั้งสิ่งที่สร้างความบันเทิงให้กับคนอื่น
ๆ (บ้านทรายทอง) และมันควรจะมีสิ่งที่สร้างความบันเทิงให้กับเรา (LA CEREMONIE,
ดับแสงรวี, เพลิงพ่าย) มันไม่ควรจะมีเพียงแค่สิ่งใดสิ่งเดียว
มันควรจะมีทั้งสองอย่าง ทั้งสิ่งที่ให้ความสุขกับคนอื่น ๆ
และสิ่งที่ให้ความสุขกับเรา เพราะฉะนั้นเราก็เลยเหมือนอินกับตัวละครผู้ร้ายใน THE
CLICHÉ เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จบ
No comments:
Post a Comment