Sunday, September 03, 2006

BOYTIFUL COMEDY (SERI LACHONABOT, A)

หนังประจำปี 2005 ของคุณแฟรงเกนสไตน์
http://xq28.net/s/viewtopic.php?t=3437&postdays=0&postorder=asc&start=2850

http://www.aidsaccess.com/07/index.php?option=com_content&task=view&id=186&Itemid=48

ขอบคุณคุณเจ้าของกระทู้มากเลยค่ะ กะว่าถ้าว่างๆจะค่อยๆทะยอยดูไปเรื่อยๆทีละเรื่อง เมื่อกี้ลองเข้าไปดูเรื่อง “นายระบำขำกลิ้ง” (เสรีย์ หล้าชนบท, A) แล้ว ชอบมากๆ และอาจจะชอบมากกว่านี้ถ้าได้ดูในจอใหญ่ รู้สึกว่าพอได้ดูในจอเล็กๆแล้วอาจจะทำให้มองเห็นไม่ชัดในหลายๆส่วน

ชอบ “นายระบำขำกลิ้ง” มากๆในส่วนแรกของเรื่อง ที่ดูมีลักษณะคล้ายหนังสารคดีที่ถ่ายทอดชีวิตประจำวันของคนกลุ่มนึง ดูแล้วนึกถึงชีวิตสมัยมัธยมของตัวเองมากๆ

ส่วนท้ายของเรื่องก็ชอบมากเช่นกัน แต่ชอบน้อยกว่าส่วนแรกนิดนึง เพราะส่วนแรกดูเป็นธรรมชาติดี แต่ส่วนหลังดูเหมือนตั้งใจสร้างความซาบซึ้ง ก็เลยอาจจะดู “ฝืนๆ” ไปบ้างเมื่อเทียบกับส่วนแรก แต่ก็อยู่ในระดับที่พอรับได้ ไม่รู้สึกว่าซึ้งจนเลี่ยน

ดู “นายระบำขำกลิ้ง” แล้วก็นึกถึงหนังสั้นของไทยเรื่องนึงเมื่อหลายปีก่อนที่นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างเกย์กับพ่อได้อย่างน่าประทับใจไม่แพ้ “นายระบำขำกลิ้ง” จำไม่ได้ว่าหนังเรื่องนั้นคือเรื่องอะไร ไม่แน่ใจว่าใช่เรื่อง “วันเกิด” (2001, สุวรรณ ห่วงศิริสกุล) หรือเปล่า ถ้าจำผิดก็ต้องขออภัยด้วย

ได้ดูหนังของคุณเสรีย์ หล้าชนบทอีกเรื่องนึง ซึ่งก็คือเรื่อง “เมืองเอก 1579” (2006, A+) ชอบมากกว่า “นายระบำขำกลิ้ง” ถึงแม้ไม่เข้าใจอะไรเลยใน “เมืองเอก 1579” คิดว่าหนังเรื่องนี้คงมี “เนื้อเรื่อง” แต่ตัวเองดูแล้วไม่เข้าใจเอง ตามเนื้อเรื่องไม่ทัน แต่ดูแล้วเพลินมากๆกับการที่ตัวละครวิ่งกันสุดชีวิตเป็นเวลาราว 30 นาทีโดยที่ดิฉันไม่แน่ใจว่าวิ่งกันทำไม สรุปว่าชอบฉากการเดินไปเรื่อยๆของตัวละครใน “นายระบำขำกลิ้ง” และฉากการวิ่งไปเรื่อยๆของตัวละครใน “เมืองเอก 1579” อย่างมากๆ และทำให้อยากดูหนังเรื่องอื่นๆของคุณเสรีย์ หล้าชนบทว่าจะมีลักษณะเป็นอย่างไร

รู้สึกว่าคุณเสรีย์ หล้าชนบทจะกำกับภาพยนตร์อีกเรื่องนึง ซึ่งก็คือเรื่อง THADA ที่อยู่ในโครงการหนังสมานฉันท์
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=3782&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai

อ่านความเห็นของคุณแฟรงเกนสไตน์ที่มีต่อ THADA ได้ที่
http://xq28.net/s/viewtopic.php?p=132968


ได้ดูหนังพม่าไป 3 เรื่องในวันพฤหัสบดีค่ะ ซึ่งก็คือเรื่อง HEXAGON (2006, A+), NEVER SHALL WE BE ENSLAVED (1997, KYI SOE TUN, A) และ SACRIFICIAL HEART (2004, A) ชอบหนัง 3 เรื่องนี้มากๆ

สิ่งที่พบในเทศกาลหนังพม่า

1.ดิฉันซื้อตั๋วหนังทีเดียวพร้อมทั้ง 3 เรื่องในตอนเที่ยง แต่ “กระจายความเสี่ยง” ด้วยการเลือกที่นั่งไม่ซ้ำกันเลยในการดูแต่ละรอบ เผื่อรอบไหนได้ที่นั่งซวยๆ ก็จะได้ซวยเพียงแค่รอบเดียว ผลปรากฏว่าคาดเดาถูกต้อง เพราะรอบแรกพอเข้าไปนั่งแล้วปรากฏว่าเก้าอี้มันเจ๊ง ก็เลยต้องเปลี่ยนที่นั่งใหม่ โชคดีที่คนน้อย ก็เลยย้ายที่นั่งได้สบาย ส่วนรอบสองกับรอบสามไม่มีปัญหากับเก้าอี้แต่อย่างใด

2.ถ้าไม่นับปัญหาเรื่องเก้าอี้เจ๊งแล้วก็ประทับใจกับเก้าอี้ที่นี่มาก เพราะมันนั่งสบายสไตล์มยุราจริงๆอย่างที่คุณตี๋หล่อมีเสน่ห์ว่าเอาไว้ มันทั้งกว้าง และมีที่ให้เหยียดขาได้สบาย ตรงข้ามกับโรงภาพยนตร์ “3” ที่ SF MAHBOONKRONG โรงนั้นที่เหยียดขาจะแคบมาก และคนข้างหลังก็ชอบเอาเท้าเอาขามากระแทกพนักพิงบ่อยๆ แต่ก็ไม่ค่อยว่าอะไรถ้าเป็นโรงนั้น เพราะเข้าใจว่าที่เหยียดขามันแคบจริงๆ

3.เจอคนพม่าคุยกันในโรงหนังเหมือนกัน แต่ไม่รบกวนสมาธิมากนักเพราะฟังไม่ออกว่าเขาคุยกันว่าอะไร ก็เลยไม่เบี่ยงเบนความสนใจไปจากตัวหนังมากนัก แต่ก็รู้สึกแย่ๆอยู่บ้าง

4.ดิฉันเลือกที่นั่งใกล้ๆทางเดิน ประมาณตัวที่ 3 ถัดจากทางเดิน และก็เจอผู้ชายคนนึงที่นั่งอยู่ตรงกลางแถวเดินเข้าเดินออกจากแถวที่นั่งตลอดเวลาระหว่างดูหนัง เขาต้องเดินผ่านดิฉันกับเพื่อนหลายครั้งหลายหน และเขาก็ไม่ได้เดินไปฉี่ด้วย เขาจะเดินไปตรงใกล้ๆประตูทางออกที่มีแสงไฟอยู่ตรงข้างล่างประตูทางออก เขาเดินประมาณไม่ต่ำกว่า 5 รอบ ไม่รู้เขาไปทำอะไรที่ประตูทางออก อยู่ดีๆก็เดินกลับไปกลับมา พอเขาเดินไปที่ประตู เขาก็ก้มตัวลงเอาอะไรจ่อไปที่ไฟที่สว่างตรงข้างล่างประตู เหมือนกับจะอ่านอะไรสักอย่าง มันเป็นการสร้างความรำคาญให้กับดิฉันเป็นอย่างมากที่ต้องคอยขยับขาหลีกทางให้เขา หรือว่าโทรศัพท์มือถือของเขามันเป็นรุ่นพิสดารที่ไม่มีแสงที่หน้าจออย่างนั้นหรือ เขาถึงต้องเอาโทรศัพท์ไปจ่อตรงแสงไฟตรงประตูเพื่ออ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน เดาเอา แต่ก็ยังดีที่เขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เพราะตอนแรกดิฉันนึกว่าเขาจะไปล็อกประตูทางออกแล้วจับคนในโรงหนังเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองกับรัฐบาลพม่า (ล้อเล่นค่ะ)

4.ฮากับ ซับไตเติลหนังเรื่อง SACRIFICIAL HEART มาก เพราะมันพิมพ์ผิดพิมพ์ถูก มีประโยคนึงดิฉันเดาว่าตัวละครน่าจะพูดว่า ARE YOU INSULTING ME? (แกกำลังด่าฉันใช่มั้ย) แต่ซับไตเติลกลับขึ้นมาว่า ARE YOU INSULATING ME? (แกกำลังจะหุ้มฉนวนตัวฉันใช่มั้ย)

5.เพื่อนฝรั่งที่ไปดูไม่ชอบ SACRIFICIAL HEART อย่างมากๆ แต่ดิฉันชอบมากเพราะมันทำให้นึกถึงหนังจักรๆวงศ์ๆหรือละครทีวีแนวขุนแผนที่ได้ดูตอนเด็กๆ เดาว่าภูมิหลังทางวัฒนธรรมอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ชมบางคนชอบหรือไม่ชอบหนังพม่าในเทศกาลนี้

6.ไม่แน่ใจว่าเนื้อหาใน NEVER SHALL WE BE ENSLAVED คาบเกี่ยวกับเนื้อหาในละครทีวีเรื่อง “เพลิงพระนาง” (A+) ที่นำแสดงโดยชไมพร จตุรภุชหรือเปล่า เพราะมันเป็นช่วงที่อังกฤษหาเรื่องเข้ามายึดพม่าเหมือนๆกัน

7.ประทับใจกับการใส่ตุ้มหูของผู้ชายพม่าอย่างมากๆ

8.ชอบฉากบู๊ในหนังพม่ามากๆเช่นกัน ฉากบู๊มันเหนือจริงเหมือนหนังจีนกำลังภายใน แต่ความเอื่อยๆในบางฉากชีวิตของหนังกลับทำให้นึกถึงหนังอินเดียยุคเก่าๆ

9.ชอบตอนจบของ HEXAGON อย่างมากๆ ที่ไม่ได้ HAPPY ENDING ไปซะทั้งหมด และก็ชอบมากๆที่ตัวละครผู้ชายหน้าตาไม่ดี แต่นิสัยดีในหนังเรื่องนี้ ไม่สมหวังกับหญิงสาวที่เขาหมายปอง เพราะหญิงสาวคนนั้นหันไปรักสามีรูปหล่อแทน ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งทิ่ผิดคาดมากๆ เพราะหนังหลายเรื่องโดยเฉพาะหนังเกาหลีมักจะให้สาวสวยลงเอยกับชายหนุ่มหน้าตาธรรมดา แต่ใน HEXAGON นี้ ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาลงเอยด้วยการมี “มุทิตาจิต” ที่ได้เห็นสาวสวยครองรักกับสามีหนุ่มหล่อในตอนจบ

--ได้พิมพ์เนื้อหาในหน้านี้ของคุณตี๋หล่อมีเสน่ห์เก็บเอาไว้ด้วย เพราะข้อมูลเกี่ยวกับหนังพม่าหายากมากๆ ไม่ว่าจะในรูปแบบภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย รู้สึกดีที่คุณตี๋หล่อมีเสน่ห์ได้บันทีกข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับหนังในเทศกาลนี้เอาไว้

--ขอบคุณคุณ SHORT MESSENGER มากๆค่ะสำหรับข้อมูลของผู้กำกับภาพยนตร์สั้นบางคน ข้อมูลพวกนี้มีประโยชน์สำหรับดิฉันมากค่ะ และก็รู้สึกว่าข้อมูลเกี่ยวกับประวัติผู้กำกับภาพยนตร์สั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากๆไม่ว่าจะทางนิตยสารหรือทางอินเทอร์เน็ต

ได้ดูเรื่อง HOME ของคุณวรรณนิศา เอี่ยมละอองแล้วชอบมากในระดับ A+ แต่ก็ไม่คิดว่าคุ้นกับชื่อของเธอมาก่อน จนกระทั่งได้มาอ่านข้อความของคุณ SHORT MESSENGER เห็นบอกว่าคุณวรรณนิศาเคยกำกับภาพยนตร์เรื่อง “ณ จุดสีหนึ่ง” รู้สึกคุ้นกับชื่อหนังเรื่องนี้มากๆ ก็เลยไปค้นใน blog ของตัวเองดู ปรากฏว่าดิฉันเคยดูหนังเรื่อง “ณ จุดสีหนึ่ง” มาแล้วจริงๆด้วย
http://celinejulie.blogspot.com/2005_07_01_celinejulie_archive.html

รู้สึกดีมากค่ะที่มีบางคนช่วยเป็นฐานข้อมูลเกี่ยวกับผู้กำกับภาพยนตร์สั้น เพราะดิฉันเองก็จำไม่ค่อยจะได้ว่าผู้กำกับคนนี้เคยกำกับเรื่องอะไรมาบ้าง ทั้งๆที่อาจจะเคยดูหนังของเขาไปแล้ว 5 เรื่อง แต่อาจจะเผลอนึกไปว่านี่เป็นหนังเรื่องแรกของเขาที่ได้ดู เพราะจำชื่อเขาไม่ได้

--“ลูกสาวกำนัน” (1981, สมบัติ เมทะนี) ฉายที่ TK PARK วันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น. อ่านรายละเอียดได้ที่
http://www.tkpark.or.th/TH/knwldZn/mnt/mntprg.aspx


ตอบคุณ HOMOGENIC

ได้ลองเข้าไปฟัง WALK ON BY (2004) เวอร์ชันของ SEAL แล้วที่ลิงค์นี้
http://www.youtube.com/watch?v=zyYR7qDa50A

รู้สึกชอบมากๆเหมือนกันค่ะ นอกจากนี้ ยังชอบ WALK ON BY เวอร์ชันที่ร้องโดย SYBIL กับ DINA CARROLL ด้วย

ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกในเวอร์ชันที่ SYBIL ร้องในปี 1989 รู้สึกว่าเพราะมากๆ หลังจากนั้นอีก 2-3 ปีต่อมาก็ได้ฟังเวอร์ชันที่ DINA CARROLL ร้อง และมาได้ฟังเวอร์ชันที่ DIONNE WARWICK ร้องเป็นครั้งแรกก็เมื่อได้ดูภาพยนตร์เรื่อง ROUGH NIGHT ในปี 2001 นี่แหละค่ะ ตอนนี้ชอบเวอร์ชันของ DIONNE WARWICK มากที่สุดในบรรดา 4 เวอร์ชันนี้ เพราะมันทำให้นึกถึงความสุขที่ได้รับจากภาพยนตร์เรื่อง ROUGH NIGHT แต่เสียดายที่ตอนนี้ดิฉันยังไม่ได้ซื้อซีดีของ DIONNE WARWICK เก็บไว้เลย

ในคืนวันเสาร์มีการฉาย ROUGH NIGHT ดิฉันกลับถึงอพาร์ทเมนท์ประมาณก่อนตีสอง แต่กว่าจะได้นอนก็ตีสาม เพราะสิ่งที่ทำเมื่อถึงอพาร์ทเมนท์ก็คือการค้นห้องตัวเองอย่างกระจุยกระจายเพื่อหาเทปรวมฮิตที่มีเพลง WALK ON BY ของ DINA CARROLL และพอหาเทปเจอแล้วก็ฟังเพลง WALK ON BY กลับไปกลับมาประมาณ 5 รอบกว่าจะทำจิตใจให้สงบและหลับลงได้ (เคยซื้อเทปของ SYBIL เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าทำเทปหายไปแล้ว)


ตอบคุณเจ้าชายน้อย

รู้สึกเฉยๆกับ JAMES STEWART นะ เขาอาจจะเล่นหนังเก่งมาก แต่เขาไม่ใช่สเปคของดิฉัน

ดาราหนังรุ่นเก่าที่ดิฉันอยากได้เป็นสามีในชาติก่อน
(ดิฉันเกิดปี 1973 เพราะฉะนั้นดิฉันก็เลยจินตนาการเล่นๆว่าตัวเองอาจจะเคยมีชีวิตอยู่ในช่วงทศวรรษ 1940-1950 ในชาติก่อน)

1.ROCK HUDSON (เขาเป็นเกย์)
http://images.amazon.com/images/P/B000092T4R.01.LZZZZZZZ.jpg

2.MONTGOMERY CLIFT (เขาเป็นเกย์)
http://www.thestandingroom.com/blog/images/monty.jpg

3.GERARD PHILIPE (1922-1959)
http://www.imdb.com/name/nm0679959/

รูปของ GERARD PHILIPE จากหนังเรื่อง THE CHARTERHOUSE OF PARME (1948, CHRISTIAN-JACQUE)
http://www.amazon.com/Charterhouse-Parme-Christian-Jaque/dp/B000087F0O/ref=sr_11_1/104-2295792-7335955?ie=UTF8

http://ec1.images-amazon.com/images/P/B000087F0O.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056772463_.jpg

4.RUSSELL WADE (1917) พระเอกหนังเรื่อง THE GHOST SHIP (1943, MARK ROBSON, A+)
http://www.imdb.com/name/nm0905505/

5.RICHARD FRASER (1913-1972) พระเอกหนังเรื่อง BEDLAM (1946, MARK ROBSON)
191 CM.

6.FARLEY GRANGER พระเอกหนังเรื่อง STRANGERS ON A TRAIN (1951, ALFRED HITCHCOCK)
http://images.amazon.com/images/P/B0002HOERG.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1087862506_.jpg
http://www.simsajoyeros.com.ar/Postales/11237%20-%20Farley%20Granger.jpg

7.GEORGES MARCHAL (1920-1997) พระเอก LUMIER D’ETE (1943, JEAN GREMILLON, A)
http://www.imdb.com/name/nm0545352/
http://www.cyranos.ch/sbmarcha.jpg

8.RAF VALLONE พระเอกภาพยนตร์เรื่อง THERESE RAQUIN (1953, MARCEL CARNE, A)
http://images.amazon.com/images/P/B000BO0LB8.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1129650202_.jpg
http://www.toroclub.it/immagini/vallone.jpg


--เมื่อวานนี้ได้คุยกับคุณ “เก้าอี้มีพนัก” เห็นเขาบอกว่ามีวีซีดีลิขสิทธิ์หนังเยอรมันเรื่อง FANDANGO (2000, MATTHIAS GLASNER) วางขายในไทยด้วย น่าดูมากๆ ถ้าหากคุณเจ้าชายน้อยคุ้ยกระบะแผงวีซีดีดีๆ ก็อาจจะเจอหนังเรื่องนี้ด้วยก็ได้
http://www.imdb.com/title/tt0118911/
http://images.amazon.com/images/P/B0001K9M30.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V57262209_.jpg

หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับดีเจ ซันนี่ ซันไชน์ (MORITZ BLEIBTREU) ที่ต้องการจะอำลาจากวงการไนท์คลับ แต่เขาได้พบกับเชอร์ลีย์ เมาส์ (NICOLETTE KREBITZ) หญิงสาวที่ใฝ่ฝันจะเป็นนางแบบ เธอมีความสัมพันธ์กับลูโป (RICHY MUELLER) ซึ่งเป็นเจ้าของไนท์คลับที่ร้อนแรงที่สุดในเมือง นอกจากนี้ เชอร์ลีย์กับลูโปยังมีภารกิจที่ไม่ได้สะสางกับเดอะ ดุ๊ค (CORINNA HARFOUCH) ด้วย และคนเหล่านี้ก็จะทำให้ชีวิตของดีเจ ซันนี่ต้องเปลี่ยนแปลงไป

FANDANGO นำแสดงโดยสุดหล่อ MORITZ BLEIBTREU และกำกับโดย MATTHIAS GLASNER ซึ่งโด่งดังมากจากการกำกับภาพยนตร์เรื่อง THE FREE WILL (2005) ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับนักข่มขืน

อันนี้เป็นปกดีวีดีภาพยนตร์เรื่อง HIGH SCORE (2001, MATTHIAS GLASNER) ที่นำแสดงโดยสุดหล่อ BENNO FURMANN
http://images.amazon.com/images/P/B0000ADXRY.03._SS500_SCLZZZZZZZ_V1059050856_.jpg


ส่วนอันนี้เป็นรายชื่อดีวีดีภาพยนตร์ที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับคุณเจ้าชายน้อย

1.LIFESPAN (1975, SANDY WHITELAW)
นำแสดงโดย KLAUS KINSKI และ HIRAM KELLER (FELLINI’S SATYRICON) โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการทดลองเกี่ยวกับยาอายุวัฒนะ หนังเรื่องนี้ได้รับการเปรียบเทียบกับภาพยนตร์ของ MARGUERITE DURAS + ALAIN ROBBE-GRILLET + ALAIN RESNAIS + สองพี่น้อง KUCHAR และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ ROMAN POLANSKI กำกับ THE TENANT
http://www.amazon.com/Lifespan-Sandy-Whitelaw/dp/B000F48DDC/sr=8-1/qid=1157282174/ref=pd_bbs_1/104-2295792-7335955?ie=UTF8&s=dvd
http://images.amazon.com/images/P/B000F48DDC.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V56352613_.jpg
http://filmfreakcentral.net/dvdreviews/lifespan.htm

there's Dr. Land's constant, insistent, omnipresent narration, which provides missing plot details in an austerely flowery fashion, like some combination of Marguerite Duras and the Kuchar Brothers.

Linden's elderly patients play a game that mirrors the one in Last Year at Marienbad.


ดีวีดี LIFESPAN มีวางขายตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. 2006


2.THE BEAST MUST DIE (1974, PAUL ANNETT)

หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับคน 8 คนที่ต้องมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน และมีคนหนึ่งในจำนวนนี้ที่เป็นมนุษย์หมาป่า โดยในช่วงท้ายหนังของเรื่องนี้ หนังจะมีการ “หยุดพัก” เป็นเวลาระยะหนึ่งเพื่อให้ผู้ชมทบทวนเงื่อนงำเบาะแสต่างๆที่ได้รับรู้มาตลอดทั้งเรื่องและตัดสินใจให้ได้ว่าตัวละครคนใดกันแน่ที่เป็นมนุษย์หมาป่า ก่อนที่หนังจะเข้าสู่ฉากจบ
The film has a clip at the beginning asking people in the audience to try to identify the werewolf and near the end there is a 30-second "Werewolf Break" for the audience to think over the evidence...
http://ec3.images-amazon.com/images/P/B0007VY558.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V65778650_.jpg

ดีวีดีภาพยนตร์เรื่องนี้มีวางขายตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. 2006

3.AND NOW THE SCREAMING STARTS (1973, ROY WARD BAKER)
http://www.amazon.com/Amicus-Collection-Now-Screaming-Starts/dp/B000FC2GEQ/sr=1-3/qid=1157284076/ref=pd_bbs_3/104-2295792-7335955?ie=UTF8&s=dvd

หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้หญิงที่ถูกผีข่มขืน และมีวางขายตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.เหมือนกัน
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B000FC2GEQ.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V65778316_.jpg


4.THE ASYLUM (1972, ROY WARD BAKER)
http://www.amazon.com/Asylum-Roy-Ward-Baker/dp/B000FC2GFK/ref=pd_bxgy_d_text_b/104-2295792-7335955?ie=UTF8
http://ec3.images-amazon.com/images/P/B000FC2GFK.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V65778378_.jpg

ดีวีดีหนังเรื่องนี้ออกวางขายพร้อมสองเรื่องข้างบน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับดร.มาร์ติน (โรเบิร์ต พาวเวล) ที่เดินทางมาทำงานที่โรงพยาบาลบ้าดันส์มอร์ แต่เมื่อเขามาถึงโรงพยาบาล เขากลับได้รับคำบอกเล่าว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งนี้ได้กลายเป็นบ้าไปแล้ว และถ้าหากดร.มาร์ตินสามารถเดาได้ว่าคนไข้คนใดในโรงพยาบาลแห่งนี้ที่เคยเป็นผอ.โรงพยาบาลมาก่อน ดร.มาร์ตินก็จะได้รับตำแหน่งผอ,แทนในทันที โดยผู้ป่วยที่น่าสงสัยในนี้รวมถึงบอนนี (บาร์บารา พาร์กินส์) ที่เคยมีชู้กับชายที่แต่งงานแล้ว, บรูโน (แบร์รี มอร์ส) ช่างตัดเสื้อที่มีคนแปลกหน้า (ปีเตอร์ คุชชิง กรี๊ดดดดด) มาเยี่ยม เพื่อให้เขาตัดชุดที่แปลกประหลาด, บาร์บารา (ชาร์ลอทท์ แรมพลิง กรี๊ดดดดด) ที่ต้องข้อหาฆาตกรรมน้องชายและนางพยาบาล แต่เธอบอกว่าเพื่อนของเธอที่ชื่อลูซี (บริทท์ เอคลันด์) ต่างหากที่เป็นฆาตกร หรืออาจจะเป็นผู้ชายที่เก็บสะสมตุ๊กตาที่มีหัวคล้ายมนุษย์

No comments: