Tuesday, January 08, 2008

MY FAVORITE THINGS IN 2007

This is my comment in www.onopen.com .
http://www.onopen.com/2008/02/2502

สิ่งที่ชื่นชอบที่สุดในปี 2007

เรียงตามลำดับความชอบส่วนตัว

ภาพยนตร์ที่ชื่นชอบที่สุดในปี 2007

1. CRY IN SILENCE (2006, J. G. Biggs)

หนังขาวดำจากฝรั่งเศสเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกพ่อกระทำทารุณกรรมอย่างรุนแรง หนังเรื่องนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกมีอารมณ์ร่วมอย่างมากๆ และเป็นหนึ่งในหนังที่ดิฉันชอบที่สุดในชีวิต เพราะมันเป็นหนึ่งในหนังไม่กี่เรื่องในโลกนี้ที่ทำให้ดิฉันรู้สึกว่ามัน "เข้าใจดิฉัน" จริงๆแล้วสิ่งที่นางเอกของหนังเรื่องนี้ประสบพบเจอไม่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ดิฉันเคยเจอในอดีตแต่อย่างใด แต่หนังเรื่องนี้สะท้อนความรู้สึกเจ็บปวดบางอย่างที่ดิฉันเข้าใจได้ และเมื่อดิฉันได้พบว่ามีบางสิ่งบางอย่างบนโลกนี้ (ซึ่งก็คือหนังเรื่องนี้) ที่สามารถเข้าถึงความรู้สึกส่วนลึกในใจของดิฉันอย่างที่แทบไม่มีหนังเรื่องใดเคยทำได้มาก่อน ดิฉันก็เลยรู้สึกเหมือนกับว่าหนังเรื่องนี้เปรียบประดุจดั่งหยดน้ำทิพย์จากสรวงสวรรค์ที่ช่วยปลอบประโลมให้ดิฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

นอกจาก CRY IN SILENCE แล้ว หนังฝรั่งเศสที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดที่ได้ดูในปี 2007 ยังรวมถึง

1.1 MON FILS A MOI (2006, Martial Fougeron)
1.2 THE MOTHER AND THE WHORE (1973, Jean Eustache)
1.3 LE COEUR FANTOME (1996, Philippe Garrel)
1.4 THE 10TH DISTRICT COURT: MOMENTS OF TRIAL (2004, Raymond Depardon)
1.5 DEMENTED (2006, Laurent Achard)
1.6 LA PURITAINE (1986, Jacques Doillon)
1.7 LA BELLE CAPTIVE (1983, Alain Robbe-Grillet)
1.8 LA CALIFORNIE (2006, Jacques Fieschi)
1.9 MY LIFE AND TIMES WITH ANTONIN ARTAUD (1993, Gerard Mordillat)
1.10 THE PASSENGER (2005, Eric Caravaca)


2. KALYI – AGE OF DARKNESS (1993, Fred Kelemen)

หนังเยอรมันเรื่องนี้นำเสนอภาพอันละลานตระการตาและการจัดแสงเงาที่น่าทึ่งอย่างมากๆ โดยที่ดิฉันไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่าแต่ละวินาทีที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้มันหมายความว่าอะไร อย่างไรก็ดี ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ได้ช่วยอธิบายไว้ว่าหนังเรื่องนี้สื่อถึง "กลียุค"

นอกจาก KALYI – AGE OF DARKNESS แล้ว หนังเยอรมันที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดที่ได้ดูในปี 2007 ยังรวมถึง

2.1 FROST (1997, Fred Kelemen)
2.2 GHOSTS (2005, Christian Petzold)
2.3 FATE (1994, Fred Kelemen)
2.4 THE HUNGER YEARS: IN A LAND OF PLENTY (1980, Jutta Brueckner)
2.5 PINGPONG (2006, Matthias Ludhardt)
2.6 NIGHTFALL (1999, Fred Kelemen)
2.7 THE LIVES OF OTHERS (2006, Florian Henckel von Donnersmarck)
2.8 BORN IN '45 (1965, Juergen Boettcher)
2.9 REQUIEM (2006, Hans-Christian Schmid)
2.10 NO REGRETS (2001, Benjamin Quabeck)


3. PHANTOM LOVE (2007, Nina Menkes)

หนังขาวดำเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะพยายามปรับสมดุลของชีวิตตัวเอง ซึ่งรวมถึงการปรับสภาพจิตใจเพื่อรับมือกับปัญหาในครอบครัว, การทำงาน, ชีวิตรัก, รูปโฉม, ปัญหาสังคมทั้งใกล้ตัวและไกลตัว โดยที่หนังดูเหมือนจะนำเสนอสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอเป็นหลัก หนังเรื่องนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกตื่นตะลึงมากๆ ดิฉันรู้สึกราวกับว่าภาพบางภาพในหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นด้วยการปลุกเสกทางเวทมนตร์ ไม่ใช่ด้วยกล้องถ่ายหนัง

PHANTOM LOVE เป็นผลงานของผู้กำกับหญิงที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกแบบผู้หญิงออกมาได้อย่างน่าหลงใหลมาก ทั้งนี้ นอกจาก PHANTOM LOVE แล้ว ผลงานของผู้กำกับหญิงเรื่องอื่นๆที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดในปี 2007 ยังรวมถึง

3.1 BERLIN (10 NOV. 1974 – 28 JAN. 1975) – EXERCISES IN NINE PARTS: DREAMING UNDER WATER OF THINGS AFAR (1974-1975, Rebecca Horn)
3.2 SEEING SPACE AND HEARING SPACE (1974, Valie Export)
3.3 I'M NOT THE GIRL WHO MISSES MUCH (1986, Pipilotti Rist)
3.4 KUNG-FU MASTER (1987, Agnes Varda)
3.5 THE DEAD GIRL (2006, Karen Moncrieff)
3.6 ONCE UPON A TOMORROW (2006, Sandrine Veysset)
3.7 LIVING A BEAUTIFUL LIFE (2003, Corinna Schnitt)
3.8 KITCHEN (2005, Alice Winocour)
3.9 THE BALL OF WOOL (2006, Fatma Zohra Zamoum)
3.10 สมมุติสถาน (IMAGINED LANDSCAPE) (2007, วรรณนิศา เอี่ยมละออง)


4. VIDEO 50 (1978, Robert Wilson)

หนังเยอรมันเรื่องนี้ติดอันดับหนังที่พิสดาร พาลสะดิ้งที่สุดในใจดิฉันประจำปี 2007 หนังเรื่องนี้มีความยาว 51 นาที 40 วินาที และประกอบด้วยฉากต่างๆประมาณ 100 ฉาก โดยแต่ละฉากกินเวลาประมาณ 30 วินาที และแต่ละฉากแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย อย่างไรก็ดี ถึงแม้ฉาก 100 ฉากที่นำมาเรียงต่อๆกันในหนังเรื่องนี้แทบไม่สามารถเชื่อมโยงเข้าด้วยกันได้ตามหลักเหตุผล แต่ในทางอารมณ์ความรู้สึกแล้ว ดิฉันรู้สึกว่าการได้ดูฉาก 100 ฉากติดต่อกันในหนังเรื่องนี้ก่อให้เกิดเส้นอารมณ์ที่ต่อเนื่อง และเส้นอารมณ์ของดิฉันก็พุ่งขึ้นถึงขีดสุดในฉากที่เป็ดมาร้องก๊าบๆๆ

นอกจาก VIDEO 50 แล้ว หนังพิสดารที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดที่ได้ดูในปี 2007 ยังรวมถึง

4.1 SUBURBS OF EMPTINESS (2003, Thomas Koener)
4.2 STADT IN FLAMMEN (1984, Schmelzdahin)
4.3 JIVAN, UP THERE (2002, Marc Comes)
4.4 NACHRICTEN VON DEN STAUFERN (1977, Alexander Kluge + Maximiliane Mainka)
4.5 TO CRY UNTIL EXHAUSTION (1972, Jochen Gerz)
4.6 ฟ้าผ่า (THUNDER) (2005, จุฬญาณนนท์ ศิริผล)
4.7 MALEREI DECKT ZU, KUNST DECKT AUF! (PAINTING COVERS, ART REVEALS) (1977, Richard Kriesche)
4.8 ที่นั่น, ที่นั่น (THERE, THERE) (2005, นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์)
4.9 PERFORMANCE ART IS NO MORE THE ART OF PERFORMANCE THAN A WINE BOTTLE IS A BOTTLE OF WINE (2007, Thomas J. Berghuis)
4.10 SCAPE_TIME (2006, Telcosystems)


5. LOOK OF LOVE (2006, Yoshiharu Ueoka)

หนังญี่ปุ่นเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการผจญภัยของนักถ้ำมองโรคจิต, โสเภณีสาว และตัวละครอื่นๆท่ามกลางคืนอันชุลมุนวุ่นวาย และมีฉากพิลึกกึกกือมากมายอยู่ในหนัง นี่คือหนังที่ทำให้ดิฉันหัวเราะมากที่สุดในปีนี้

นอกจาก LOOK OF LOVE แล้ว หนังญี่ปุ่นที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดที่ได้ดูในปี 2007 ยังรวมถึง

5.1 NIGHT TIME PICNIC (2006, Masahiko Nagasawa)
5.2 FIRST LOVE (HATSUKOI) (2006, Yukinari Hanawa)
5.3 TO WHOM IT MAY CONCERN (2007, Wakai Makiko)
5.4 FUNERAL PARADE OF ROSES (1969, Toshio Matsumoto)
5.5 WHEN A WOMAN ASCENDS THE STAIRS (1960, Mikio Naruse)
5.6 DOUBLE SUICIDE (1969, Masahiro Shinoda)
5.7 SHINDO (2007, Koji Hagiuda)
5.8 RAINBOW SONG (2006, Naoto Kumazawa)
5.9 MIDNIGHT SUN (2006, Norihiro Koizumi)
5.10 KITARO (2007, Katsuhide Motoki)


6. ความลักลั่นของงานรื่นเริง (THE BANGKOK BOURGEOIS PARTY, ปราปต์ บุนปาน, 2007)

หนังสั้นเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับงานปาร์ตี้ของหนุ่มสาวชนชั้นกลางกลุ่มหนึ่งในกรุงเทพ ที่คนในงานพูดคุยกันเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางการเมืองมากมายหลายประเด็น อย่างไรก็ดี การสนทนาในงานเริ่มทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ และนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงในเวลาต่อมา

นี่คือหนังการเมืองที่ถูกใจดิฉันมากที่สุดในชีวิตเรื่องหนึ่ง สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะว่าดิฉันไม่มีความรู้เรื่องการเมืองเลย ดังนั้นหนังการเมืองที่สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาอย่างหนังเรื่องนี้จึงเป็นหนังที่ทำให้ดิฉันได้รับ "สาร" มากที่สุด และสารหลายอย่างในหนังเรื่องนี้ก็เป็นสารที่ตรงกับชีวิตประจำวันของดิฉันอย่างมากๆ หลายสิ่งหลายอย่างที่ตัวละครในหนังเรื่องนี้พูดคุยกัน ตรงกับสิ่งที่ดิฉันคิดกังวลอยู่ในใจในแต่ละวัน หรือตรงกับสิ่งที่เพื่อนๆดิฉันเคยพูดถึง การได้ดูหนังเรื่องนี้จึงเหมือนกับการได้พิจารณาดูตัวเองกับเพื่อนๆของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญก็คือว่า หนังเรื่องนี้ได้ชี้ให้ดิฉันเห็นว่า ดิฉันอาจจะคิดผิดพลาดไปในจุดใดบ้าง, ดิฉันได้มองข้ามความเป็นจริงในจุดใดบ้าง และดิฉันควรจะใส่ใจกับคนกลุ่มใดในสังคมบ้าง หลังจากที่ดิฉันไม่เคยนึกถึงคนกลุ่มนั้นมาก่อน

นอกจาก "ความลักลั่นของงานรื่นเริง" แล้ว หนังที่นำเสนอประเด็นทางสังคมหรือการเมืองเรื่องอื่นๆที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดในปี 2007 ยังรวมถึง

6.1 LETTER FROM THE SILENCE (2006, ปราปต์ บุนปาน)
6.2 COUP POUR COUP (1972, Marin Karmitz)
6.3 THE OLD GARDEN (2006, Im Sang-soo)
6.4 ADMIT (2007, นัฎฐพล ทิมเมือง)
6.5 ขจีภพ (THE ORGANISATION) (2007, ธนพล เชาวน์วานิชย์)
6.6 THREE DOLLARS (2005, Robert Connolly)
6.7 THE MURMURING COAST (2004, Margarida Cardoso)
6.8 COMEDY OF POWER (2006, Claude Chabrol)
6.9 TWO ACRES OF LAND (1953, Bimal Roy)
6.10 โรงเรียนชาวนา จากข้าวขวัญ...สู่ขวัญของชาวนาไทย (2007,
สุพงศ์ จิตต์เมือง)


7. HEREMIAS (2006, Lav Diaz)

หนังความยาว 9 ชั่วโมงจากฟิลิปปินส์เรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับพ่อค้าที่เร่ขายของตามท้องถนนในชนบท ชีวิตประจำวันของเขาค่อนข้างยากลำบาก แต่ชะตากรรมก็สร้างความยากลำบากให้เขามากยิ่งขึ้นเมื่อเกวียนที่ใช้บรรทุกสินค้าทั้งหมดของเขาถูกขโมยไป, เขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจ และเขายังได้เรียนรู้ถึงความเลวร้ายของสังคมอย่างรุนแรงในช่วงท้ายเรื่อง หนังเรื่องนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกทึ่งกับหลายๆช่วงของหนังที่ "ไม่มีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นเลย" แต่หนังกลับสามารถสร้างอารมณ์ร่วมอย่างรุนแรงระหว่างผู้ชมกับตัวละครในเรื่อง และหนังเรื่องนี้ยังช่วยตอกย้ำความเชื่อของดิฉันที่ว่า "โลกมนุษย์คือนรก" อีกด้วย

นอกจาก HEREMIAS ซึ่งเป็นหนังฟิลิปปินส์แล้ว ดิฉันยังประทับใจกับหนังอีกหลายๆเรื่องในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2007 ซึ่งรวมถึงหนังของประเทศไทย โดยหนังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดในปี 2007 รวมถึง

7.1 AUTOHYSTORIA (2007, Raya Martin, Philippines)
7.2 บ้านผีสิง (THE HOUSE) (2007, มณฑล อารยางกูร, Thailand)
7.3 LOVE CONQUERS ALL (2006, Tan Chui Mui, Malaysia)
7.4 RAIN DOGS (2006, Ho Yuhang, Malaysia)
7.5 VILLAGE PEOPLE RADIO SHOW (2007, Amir Muhammad, Malaysia)
7.6 MANORO (2006, Brillante Mendoza, Philippines)
7.7 หนีนรกโพธิ์พระยา 2526 (ESCAPE FROM POPRAYA 2526) (2007, ไพสิฐ พันธุ์พฤกษชาติ)
7.8 TEACHING A FISH THE ALPHABET (ABRIDGED) (2006, Khairuddin Hori, Singapore)
7.9 THE BET COLLECTOR (2006, Jeffrey Jeturian, Philippines)
7.10 LONDRES-LONDON (2007, Eva Tang, Singapore)


8. PALMS (1993, Artour Aristakisian)

หนังสารคดีจากรัสเซียเรื่องนี้นำเสนอภาพชีวิตของคนจนหลายๆคน ชีวิตของพวกเขาแร้นแค้นอย่างแสนสาหัส และหลายๆคนก็ดูเหมือนจะสติไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ดี หนังเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกับสารคดีทางโทรทัศน์ เพราะ "ภาพ" และ "บรรยากาศ" ของหนังเรื่องนี้ก่อให้เกิดความรู้สึกที่สุดยอดมากๆ ในขณะที่ "เสียงบรรยาย" ของหนังเรื่องนี้ก็ก่อให้เกิดความรู้สึกที่พิสดารสุดๆ

นอกจาก PALMS แล้ว หนังเกี่ยวกับยุโรปตะวันออกที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดที่ได้ดูในปี 2007 ยังรวมถึง

8.1 VIDEOGRAM OF A REVOLUTION (1993, Harun Farocki, Andrei Ujica, Romania)
8.2 FROM THE EAST (1993, Chantal Akerman)
8.3 THE PARTY AND THE GUESTS (1966, Jan Nemec, Czechoslovakia)
8.4 SAVIOUR'S SQUARE (2006, Joanna Kos-Krauze, Krzysztof Krauze, Poland)
8.5 4 MONTHS, 3 WEEKS AND 2 DAYS (2007, Cristian Mungiu, Romania)
8.6 THE THIRD PART OF THE NIGHT (1971, Andrzej Zulawski)
8.7 TAXIDERMIA (2006, Gyorgy Palfi, Hungary)
8.8 FALLEN (2005, Fred Kelemen, Latvia)
8.9 WHITE PALMS (2006, Szabolcs Hajdu, Hungary)
8.10 THE MOSQUITO PROBLEM AND OTHER STORIES (2007, Andrey Paounov, Bulgaria)


9. EGG (2007, Semih Kaplanoglu)

หนังตุรกีเรื่องนี้เล่าเรื่องของกวีชายคนหนึ่งที่กลับไปเยือนบ้านเกิดเพื่อจัดงานศพของแม่ และได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เคยทำงานในบ้านของแม่ของเขา หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีมนต์สะกดอย่างประหลาดต่อดิฉัน ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองถูกดึงดูดอย่างรุนแรงด้วยหนังเรื่องนี้และด้วยตัวละครในหนัง ดิฉันรู้สึกหลงรักและผูกพันกับตัวละครในหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆจนถอนตัวไม่ขึ้น จริงๆแล้วหนังเรื่องนี้แทบไม่มีเนื้อเรื่องอะไรมาก และแทบไม่มีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้น แต่ขณะที่ดิฉันดูหนังเรื่องนี้ ดิฉันกลับรู้สึกหวาดกลัวตลอดเวลาว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์ชั่วๆหรือเลวร้ายอย่างรุนแรง แต่ก็ปรากฏว่าไม่มีเหตุการณ์ชั่วๆแบบที่ดิฉันคาดคิดไว้เกิดขึ้นในหนังแต่อย่างใด ซึ่งนั่นก็ทำให้ดิฉันชอบหนังเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น เพราะมันไม่ได้เป็นไปตามที่ดิฉันคาดไว้ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็กระตุ้นให้ดิฉันเกิดจินตนาการต่างๆนานาอย่างมากมายในขณะที่ได้ดู

อีกจุดที่ชอบมากในหนังเรื่องนี้ก็คือการที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เร้าอารมณ์มากเกินไปและไม่ได้ให้อารมณ์ฟูมฟายมากเกินไป นอกจากนี้ ดิฉันยังชอบการแสดงของ Nejat Isler ในบทพระเอกของเรื่องนี้มาก ดิฉันรู้สึกว่าเขาแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาในระดับพอเหมาะพอควร ไม่มากเกินไปเหมือนพระเอกในหนังหลายๆเรื่อง แต่ในขณะเดียวกัน การแสดงของเขาก็ทำให้ดิฉันรู้สึกว่าตัวละครชายตัวนี้เป็นตัวละครที่มีอะไรน่าค้นหามากๆ

นอกจาก Nejat Isler ใน EGG แล้ว นักแสดงชายคนอื่นๆที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดในปี 2007 รวมถึง

9.1 Pierre Arditi ใน SMOKING/NO SMOKING (1993, Alain Resnais, France)
9.2 Lou Castel ใน INTERVIEW (2003, Jeanne Faust, Germany)
9.3 วสันต์ สิทธิเขตต์ ใน HOW TO MAKE A GOOD ART FOR GET WIN AWARD (วสันต์ สิทธิเขตต์, Thailand)
9.4 Nuno Lopes ใน ALICE (2005, Marco Martins, Portugal)
9.5 Mathieu Amalric ใน AMOUR D'ENFANCE (2001, Yves Caumon, France)
9.6 German Palacios ใน POSSIBLE LIVES (2006, Sandra Gugliotta, Argentina)
9.7 Michael Shannon ใน BUG (2006, William Friedkin, USA)
9.8 Ben Lee ใน THE RAGE IN PLACID LAKE (2003, Tony McNamara, Australia)
9.9 Gao Meng-jie ใน THE BEST OF TIMES (2001, Chang Tso-chi, Taiwan)
9.10 August Diehl ใน THE NINTH DAY (2004, Volker Schlondorff, Germany)


10. CROSS-REFERENCE, 35:27:02N/139:39:36E (2005-2007, Craig Walsh)

งานชิ้นนี้เป็น video installation ที่ชอบที่สุดในปี 2007 โดยจัดแสดงที่หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ที่มาชมงานชิ้นนี้จะได้เห็นจอภาพหลายจอ โดยบางจอเป็นภาพที่บันทึก "ผู้มาชมงานในครั้งก่อนๆ" และบางจอก็เป็นภาพที่บันทึก "ผู้ที่มาชมงาน ณ วินาทีนั้น" และบางจอก็เป็นการซ้อนภาพผู้มาชมงานในแต่ละครั้งเข้าด้วยกัน ดังนั้นผู้ที่มาชมงานชิ้นนี้จะได้เห็นตัวเองปรากฏอยู่ตามจอภาพต่างๆและได้เห็นผู้ที่มาชมงานในครั้งก่อนๆหน้านี้ปรากฏอยู่ร่วมกับตัวเองบนจอด้วย ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่มาชมงานนี้จึงเท่ากับเป็น "ส่วนหนึ่งของงาน" หรือเป็น "นักแสดง" ไปโดยปริยาย และดิฉันก็รู้สึกสนุกสนานเป็นยิ่งนักกับการเป็นทั้งนักแสดง, ผู้ชม "ผู้ชมคนอื่นๆ" และ ผู้ชม "ตัวเองในฐานะนักแสดง" ในขณะที่ชมงานชิ้นนี้มากๆ

นอกจาก CROSS-REFERENCE, 35:27:02N/139:39:36E แล้ว งาน video installation ที่ดิฉันชื่นชอบที่สุดที่ได้ดูในปี 2007 รวมถึง

10.1 I'M SORRY (2007, นรเศรษฐ์ ไวศยกุล)
10.2 SILENCE OF THE OTHER END (2007, Arunkumar HG)
10.3 NEVER CONGREGATE, NEVER DISREGARD (2007, อริญชย์ รุ่งแจ้ง)
10.4 MODE OF MORAL BEING (1996, กมล เผ่าสวัสดิ์)
10.5 IN A BLUR OF DESIRE (2007, อารยา ราษฎร์จำเริญสุข)
10.6 WHO WISHES TO REPRESENT AN ANGEL, MAKES A BEAST (2007, Christine Laquet)
10.7 BEING FOR 15 MINUTES (2007, Edward Squire)
10.8 NAVINS OF BOLLYWOOD (2006, Navin Rawanchaikul, Naren Mojidra)
10.9 YOU ONLY LIVE TWICE (2007, Tintin Cooper)
10.10 THE INSTALLATION SERIES OF UNTITLED 2007 (2007, Sarawut Chutiwongpeti)



การแสดงบนเวทีที่ชื่นชอบที่สุดในปี 2007

1.คนบ้ากับสุดสาคร
ผลงานการกำกับของ สนธยา สุชฎา

2.Ten...10th ตาดู หูฟัง, I'm a flower
ผลงานของ วรรณศักดิ์ ศิริหล้า

3.เมื่อผมหลับในคืนปฏิวัติ (WHEN I SLEPT OVER THE NIGHT OF THE REVOLUTION)
ผลงานของ เครือข่ายหน้ากากเปลือย, กำกับโดย นินาท บุญโพธิ์ทอง

4.DEAD 1+
ผลงานของ Ko & Edge Co.

5.VAGINA MONOLOGUES
กำกับโดย พันพัสสา ธูปเทียน

6.ติดกับ (BLACKBIRD)
ผลงานของ Drama 69, กำกับโดย ศศิธร พานิชนก

7.ยามพลบ 2
ผลงานของ กลุ่มละคร B-Floor Theatre, กำกับโดย จารุนันท์ พันธชาติ

8.HIGH SCHOOL BASEBALL
ผลงานการแสดงของ Honda โดยเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงละครใบ้ชุด PANTOMIME IN BANGKOK 10/2

9.WASTELAND
ผลงานของ Cie Kafig, choreographed by Mourad Merzouki

10.นางแบบ แอบอยาก (THE TRAGEDY OF BELLIES)
ผลงานของ ชมรมละครอักษรจุฬา, กำกับโดย ชวัตถ์วิช เมืองแก้ว


สิ่งอื่นๆที่ชื่นชอบที่สุดในปี 2007

1. ผลงานศิลปะชุด "สิ่งที่ฉันเห็น ความรู้สึกที่เขาเป็น สิ่งที่เขาต้องทำ" ของพรพรรณ เกียรติภาคภูมิ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ ศิลปะจินตทัศน์นิพนธ์ "OPEN MIND" ของนิสิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ซึ่งจัดแสดงที่ HOF ART GALLERY

2. ผลงานภาพถ่ายชุด HORROR IN THE PINK (2001) ของ มานิต ศรีวานิชภูมิ ซึ่งจัดแสดงที่ BANGKOK UNIVERSITY GALLERY

3. MEMBRANES AND MARGINS (2007) ซึ่งเป็นผลงานวอลเปเปอร์ของ Prajakta Potnis Pommany และเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ HERE THERE NOW ที่ GALLERY SOULFLOWER

4. ผลงานสิ่งถักทอที่มีชื่อว่า I BELIEVE IN FAIRIES (2000) ของ Jean-Michel Othoniel ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการศิลปะสิ่งถักทอ "METISSAGES" ที่ศูนย์ศิลปะพิพิธภัณฑ์ บ้านไทย จิม ทอมป์สัน

5.งาน installation ของ Khiew Huey Chien ในนิทรรศการ PRANA: ART LIGHT SPACE ซึ่งจัดที่ หอศิลปวิทยนิทรรศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

6.วิดีโอบันทึกภาพการแสดงผลงานของฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช ซึ่งนำมาจัดแสดงในงาน SILPATHORN AWARDS ที่ THE QUEEN'S GALLERY

7.ผลงานภาพถ่ายชุด FADING MEMORIES ของ Sybille Bergemann ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการ DEUTSCHLANDBILDER ที่สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย

8.ผลงานภาพถ่ายชุด NIRVANA/PARADISE: REALITY/ILLUSION ของมนตรี เติมสมบัติ ซึ่งจัดแสดงที่ KATHMANDU GALLERY

9.ภาพสีน้ำมัน "ชีวิต (ความฝัน)" หรือ "THAT'S LIFE" ของ ศิรัส อุบลแย้ม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการจิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ 29 พ.ศ. 2550 ที่ THE QUEEN'S GALLERY

10. DRIFT ซึ่งเป็นผลงานศิลปะแนวจัดวางเฉพาะที่ ของสถิตย์ ศัสตรศาสตร์ ที่โรงแรมโรส


หมายเหตุ:

1. ชมภาพ MEMBRANES AND MARGINS ได้ที่
http://farm3.static.flickr.com/2145/1776154099_8567c388e5_b.jpg

2.ชมภาพของ CROSS REFERENCE ได้ที่
http://www.craigwalsh.net/plugins/p1803_cw_project_gallery/mmobjects/266.jpg

5 comments:

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับ ที่กรุณาเอาหนังของผมเข้าไปติดอันดับด้วย
จริง ๆ แล้ว ความสำเร็จประการหนึ่งสำหรับคนทำหนัง ก็น่าจะได้แก่ การที่หนังของตัวเองมีโอกาสถูกเผยแพร่ออกไป และยังมีคนดูจำนวนหนึ่งที่คิดถึงหนังเรื่องนั้นอยู่ แม้เวลาจะผ่านไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว



ไม่ทราบว่าคุณ MdS จะไปดูหนังสั้นโครงการ 2008 ด้วยรึเปล่าครับ?

celinejulie said...

เนื่องด้วยเหตุผลขัดข้องบางประการในด้านสุขภาพ ดิฉันคงจะไม่ได้ไปดูงานหนังสั้นโครงการ 2008 ค่ะ รู้สึกเสียดายมากๆเหมือนกัน :-(

sirat said...

สวัสดีครับผมชื่อศิรัสครับขอบคุณมากครับที่ให้เกียรติงานผมเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งที่ชื่นชอบในปีที่ผ่านมา ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าคุณคือใครครับ ถ้าผมมีงานแสดงจะส่งข่าวให้คุณได้ยังไงครับ แต่คงอีกสักพักทีเดียวครับ

sirat said...

ขอโทษครับลืมถามไปว่าอยากดูงานชิ้นอื่นของผมไหมครับ ผมจะได้ส่ง mailไปให้ดู ถ้าอยากดูก็ส่ง mail มาให้ผมที่ sirat_u@hotmail.com นะครับ ขอบคุณมากครับที่ให้เกียรติงานผมเป็นส่วนหนี่งที่ทำให้คุณรู้สีกดีๆของคุณในปีที่ผ่านมา ตกใจเล็กน้อยครับ555 สวัสดีครับ

celinejulie said...

สวัสดีครับคุณศิรัส ผม celinejulie เจ้าของบล็อกนี้ครับ ผมได้ส่ง mail ไปหาคุณแล้วนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ :-)