FROM THE LAND OF THE MOON (2016, Nicole Garcia, France, A+15)
spoilers alert
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
1.เราอยู่ในกลุ่มที่ชอบ twist ช่วงท้ายเรื่องนะ
แต่ไม่ได้ชอบแบบสุดๆนะ เพียงแต่ว่ามันทำให้เราชอบหนังมากขึ้นกว่าเดิมหน่อยนึง
คือว่าตอนช่วงแรกๆเราจะชอบหนังแค่ในระดับ A+ น่ะ
คือรู้สึกว่าหนังมันดี แต่เราไม่ได้อินกับมันมากเท่าที่ควร แต่พอมันมา twist
ช่วงท้ายเรื่อง เราก็รู้สึกว่ามันซึ้งดี แต่ก็ไม่ได้ซึ้งสุดๆจนถึงขั้นที่จะทำให้เราชอบในระดับ
A+30
2.เหมือนเราไม่อินกับตัวละครนางเอกมากเท่าที่ควรน่ะ
ทั้งๆที่โดยปกติแล้วเราจะอินกับตัวละครผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูง หรือมี passion
ที่รุนแรง แต่มันก็ไม่ใช่ในทุกๆกรณี อย่างตัวละครนางเอกหนังเรื่องนี้
คือเธอแสดงออกถึงความต้องการทางเพศมากกว่านางเอกในหนังทั่วๆไป
แต่เธอก็ไม่ได้บ้าผู้ชายในแบบเดียวกับเรา เหมือนกับว่าสเปคผู้ชายที่นางเอกชอบกับที่เราชอบ
มันคนละกลุ่มกัน เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่อินกับเธอ
และเราก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักทั้งในช่วงต้นเรื่องและกลางเรื่อง ที่นางเอกพยายามจะจับครูและทหารผ่านศึกมาเป็นผัว
คือความรักระหว่างนางเอกกับทหารผ่านศึกมันดู passionate ดี
แต่เราดูมันด้วยความรู้สึกห่างเหินมากพอสมควร
แต่พอช่วงท้ายเรื่อง หนังก็พลิกจากการสะท้อน “ความรักที่นางเอกมีต่อทหารผ่านศึกยุคปลายจักรวรรดินิยม”
มาเป็น “ความรักที่คนงานฝ่ายซ้ายมีต่อนางเอก” แทน และเราก็รู้สึกว่ามันซึ้งดี
คือพอหนังมันเปลี่ยนมาสะท้อนหัวจิตหัวใจของตัวละครคนงานที่เฝ้าอดทนคอยดูแลนางเอกที่ละเมอเพ้อพกมาโดยตลอด
มันก็เลยซึ้งมากสำหรับเรา อาจจะเพราะตัวเราก็เหมาะที่จะมีสามีแบบนี้ก็ได้มั้ง เขาเป็นผู้ชายที่ดู
solid มากๆ
เป็นที่พึ่งพาได้จริงๆ ฮิฮิ
3.ไม่รู้หนังตั้งใจจะสะท้อนการเมืองอะไรด้วยหรือเปล่า
แต่เราว่ามันน่าสนใจดี ที่ setting ของหนังคือฝรั่งเศสยุคทศวรรษ
1950-1960 ซึ่งเป็นช่วงที่จักรวรรดินิยมฝรั่งเศสล่มสลาย
ฝรั่งเศสสูญเสียทั้งอินโดจีนและแอลจีเรีย และสิ่งนี้ก็ดูเหมือนจะสะท้อนผ่านทางตัวละครนางเอกที่ยังคงหลงละเมอเพ้อพกกับทหารผ่านศึกที่ป่วยหนัก
ในขณะที่ตัวละครคนงานน่าจะเป็นฝ่ายซ้ายที่เคยต่อสู้กับนายพลฟรังโกในสเปนมาก่อน เขาเป็นคนที่ติดดินมาก
แข็งแกร่งมากๆ และคนแบบนี้นี่แหละที่น่าจะเป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับฝรั่งเศสได้ต่อไป
เขามองดูนางเอกหลงละเมอกับโลกจักรวรรดินิยมอยู่หลายปี
จนในที่สุดนางเอกก็ต้องยอมรับความจริงว่าโลกนั้นมันจบสิ้นไปนานหลายปีแล้ว
และเดินหน้ามีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกแห่งความเป็นจริง
4.ชอบประเด็นเรื่องโรคนิ่ว เราชอบที่ตัวละครมีโรคประจำตัว
และเจ็บปวดรวดร้าวจริงๆจากโรคนั้น เพราะเราก็มีโรคประจำตัวเหมือนกัน 555
ชอบประเด็นเรื่องการรักษาโรคนิ่วในสมัยโบราณด้วย
เพราะเหมือนเราไม่เคยดูอะไรแบบนี้ในหนังมาก่อน
ถ้าจำไม่ผิด
หนังอีกเรื่องที่ประเด็นเรื่องโรคนิ่วมีความสำคัญต่อพล็อตหนัง คือเรื่อง CRAZY STONE (2006, Ning Hao)
5.ชอบรายละเอียดเล็กๆน้อยๆบางอย่างในหนังด้วย
อย่างเช่นตัวละครน้องสาวนางเอก
คือเธอเป็นสาวสวยที่ดูเผินๆแล้วน่าจะมีชีวิตสมบูรณ์แบบ
แต่ปรากฏว่าชีวิตสมรสเธอก็ล้มเหลวเหมือนกัน มันก็เลยดูเหมือนชีวิตมนุษย์จริงๆดี
ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นคนบ้าหรือคนดี สวยหรือไม่สวย ชีวิตมันก็มีข้อบกพร่องเหมือนกันหมด
6.ฉากที่ติดตามากที่สุดคือฉากที่เหมือนเป็นการตัดจากโลกแห่งความเป็นจริงเข้าสู่โลกแห่งความฝันน่ะ
นั่นคือฉากที่นางเอกวิ่งไล่ตามรถของทหารผ่านศึก แล้วล้มลงกับพื้นหญ้า
แล้วก็เหมือนเข้าสู่หน้าหนาว
7.FROM THE LAND OF THE MOON เป็นหนังเรื่องที่ 3
ที่กำกับโดย Nicole Garcia ที่เราได้ดู ส่วนอีกสองเรื่องคือ THE
FAVORITE SON (1994) กับ PLACE VENDOME (1998) ปรากฏว่าเราชอบ THE FAVORITE SON มากที่สุดในสามเรื่องนี้
ทั้งๆที่มันเป็นหนังที่เน้นตัวละครผู้ชาย
อย่าง PLACE VENDOME นี่มันก็มีตัวละครหญิงที่น่าจะเข้าทางเราในทางทฤษฎี
แต่เรากลับไม่อินกับมันเช่นกัน คือ PLACE VENDOME เล่าเรื่องผ่านทางตัวละครหญิงแกร่งที่ต้องเผชิญมรสุมชีวิต
แต่เรากลับดูแล้วรู้สึกคล้ายๆ FROM THE LAND OF THE MOON ในแง่ที่ว่า
มันเป็นหนังที่เล่าเรื่องได้ดี ดูมีคลาส แต่เรารู้สึกมีระยะห่างจากมันในทางอารมณ์มากพอสมควร
ส่วน THE FAVORITE SON นี่มีตัวละครที่ไม่น่าจะเข้าทางเราเลย
เพราะมันดูเป็นผู้ชาย macho แต่ไปๆมาๆเรากลับโอเคกับหนังเรื่องนี้มากที่สุด
สรุปได้ว่า Nicole Garcia เป็นผู้กำกับหญิงที่ประหลาดดีสำหรับเรา
เพราะเราไม่ค่อยอินกับตัวละครหญิงในหนังของเธอ แต่เรามักจะผูกพันกับตัวละครผู้ชาย macho
ในหนังของเธอ
No comments:
Post a Comment