Monday, November 14, 2016

FROM THE LAND OF THE MOON (2016, Nicole Garcia, France, A+15)

FROM THE LAND OF THE MOON (2016, Nicole Garcia, France, A+15)
spoilers alert
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
1.เราอยู่ในกลุ่มที่ชอบ twist ช่วงท้ายเรื่องนะ แต่ไม่ได้ชอบแบบสุดๆนะ เพียงแต่ว่ามันทำให้เราชอบหนังมากขึ้นกว่าเดิมหน่อยนึง คือว่าตอนช่วงแรกๆเราจะชอบหนังแค่ในระดับ A+ น่ะ คือรู้สึกว่าหนังมันดี แต่เราไม่ได้อินกับมันมากเท่าที่ควร แต่พอมันมา twist ช่วงท้ายเรื่อง เราก็รู้สึกว่ามันซึ้งดี แต่ก็ไม่ได้ซึ้งสุดๆจนถึงขั้นที่จะทำให้เราชอบในระดับ A+30

2.เหมือนเราไม่อินกับตัวละครนางเอกมากเท่าที่ควรน่ะ ทั้งๆที่โดยปกติแล้วเราจะอินกับตัวละครผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูง หรือมี passion ที่รุนแรง แต่มันก็ไม่ใช่ในทุกๆกรณี อย่างตัวละครนางเอกหนังเรื่องนี้ คือเธอแสดงออกถึงความต้องการทางเพศมากกว่านางเอกในหนังทั่วๆไป แต่เธอก็ไม่ได้บ้าผู้ชายในแบบเดียวกับเรา เหมือนกับว่าสเปคผู้ชายที่นางเอกชอบกับที่เราชอบ มันคนละกลุ่มกัน เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่อินกับเธอ และเราก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักทั้งในช่วงต้นเรื่องและกลางเรื่อง ที่นางเอกพยายามจะจับครูและทหารผ่านศึกมาเป็นผัว คือความรักระหว่างนางเอกกับทหารผ่านศึกมันดู passionate ดี แต่เราดูมันด้วยความรู้สึกห่างเหินมากพอสมควร

แต่พอช่วงท้ายเรื่อง หนังก็พลิกจากการสะท้อน “ความรักที่นางเอกมีต่อทหารผ่านศึกยุคปลายจักรวรรดินิยม” มาเป็น “ความรักที่คนงานฝ่ายซ้ายมีต่อนางเอก” แทน และเราก็รู้สึกว่ามันซึ้งดี คือพอหนังมันเปลี่ยนมาสะท้อนหัวจิตหัวใจของตัวละครคนงานที่เฝ้าอดทนคอยดูแลนางเอกที่ละเมอเพ้อพกมาโดยตลอด มันก็เลยซึ้งมากสำหรับเรา อาจจะเพราะตัวเราก็เหมาะที่จะมีสามีแบบนี้ก็ได้มั้ง เขาเป็นผู้ชายที่ดู solid มากๆ เป็นที่พึ่งพาได้จริงๆ ฮิฮิ

3.ไม่รู้หนังตั้งใจจะสะท้อนการเมืองอะไรด้วยหรือเปล่า แต่เราว่ามันน่าสนใจดี ที่ setting ของหนังคือฝรั่งเศสยุคทศวรรษ 1950-1960 ซึ่งเป็นช่วงที่จักรวรรดินิยมฝรั่งเศสล่มสลาย ฝรั่งเศสสูญเสียทั้งอินโดจีนและแอลจีเรีย และสิ่งนี้ก็ดูเหมือนจะสะท้อนผ่านทางตัวละครนางเอกที่ยังคงหลงละเมอเพ้อพกกับทหารผ่านศึกที่ป่วยหนัก ในขณะที่ตัวละครคนงานน่าจะเป็นฝ่ายซ้ายที่เคยต่อสู้กับนายพลฟรังโกในสเปนมาก่อน เขาเป็นคนที่ติดดินมาก แข็งแกร่งมากๆ และคนแบบนี้นี่แหละที่น่าจะเป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับฝรั่งเศสได้ต่อไป เขามองดูนางเอกหลงละเมอกับโลกจักรวรรดินิยมอยู่หลายปี จนในที่สุดนางเอกก็ต้องยอมรับความจริงว่าโลกนั้นมันจบสิ้นไปนานหลายปีแล้ว และเดินหน้ามีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกแห่งความเป็นจริง

4.ชอบประเด็นเรื่องโรคนิ่ว เราชอบที่ตัวละครมีโรคประจำตัว และเจ็บปวดรวดร้าวจริงๆจากโรคนั้น เพราะเราก็มีโรคประจำตัวเหมือนกัน 555 ชอบประเด็นเรื่องการรักษาโรคนิ่วในสมัยโบราณด้วย เพราะเหมือนเราไม่เคยดูอะไรแบบนี้ในหนังมาก่อน

ถ้าจำไม่ผิด หนังอีกเรื่องที่ประเด็นเรื่องโรคนิ่วมีความสำคัญต่อพล็อตหนัง คือเรื่อง CRAZY STONE (2006, Ning Hao)

5.ชอบรายละเอียดเล็กๆน้อยๆบางอย่างในหนังด้วย อย่างเช่นตัวละครน้องสาวนางเอก คือเธอเป็นสาวสวยที่ดูเผินๆแล้วน่าจะมีชีวิตสมบูรณ์แบบ แต่ปรากฏว่าชีวิตสมรสเธอก็ล้มเหลวเหมือนกัน มันก็เลยดูเหมือนชีวิตมนุษย์จริงๆดี ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นคนบ้าหรือคนดี สวยหรือไม่สวย ชีวิตมันก็มีข้อบกพร่องเหมือนกันหมด

6.ฉากที่ติดตามากที่สุดคือฉากที่เหมือนเป็นการตัดจากโลกแห่งความเป็นจริงเข้าสู่โลกแห่งความฝันน่ะ นั่นคือฉากที่นางเอกวิ่งไล่ตามรถของทหารผ่านศึก แล้วล้มลงกับพื้นหญ้า แล้วก็เหมือนเข้าสู่หน้าหนาว

7.FROM THE LAND OF THE MOON เป็นหนังเรื่องที่ 3 ที่กำกับโดย Nicole Garcia ที่เราได้ดู ส่วนอีกสองเรื่องคือ THE FAVORITE SON (1994) กับ PLACE VENDOME (1998) ปรากฏว่าเราชอบ THE FAVORITE SON มากที่สุดในสามเรื่องนี้ ทั้งๆที่มันเป็นหนังที่เน้นตัวละครผู้ชาย

อย่าง PLACE VENDOME นี่มันก็มีตัวละครหญิงที่น่าจะเข้าทางเราในทางทฤษฎี แต่เรากลับไม่อินกับมันเช่นกัน คือ PLACE VENDOME เล่าเรื่องผ่านทางตัวละครหญิงแกร่งที่ต้องเผชิญมรสุมชีวิต แต่เรากลับดูแล้วรู้สึกคล้ายๆ FROM THE LAND OF THE MOON ในแง่ที่ว่า มันเป็นหนังที่เล่าเรื่องได้ดี ดูมีคลาส แต่เรารู้สึกมีระยะห่างจากมันในทางอารมณ์มากพอสมควร ส่วน THE FAVORITE SON นี่มีตัวละครที่ไม่น่าจะเข้าทางเราเลย เพราะมันดูเป็นผู้ชาย macho แต่ไปๆมาๆเรากลับโอเคกับหนังเรื่องนี้มากที่สุด


สรุปได้ว่า Nicole Garcia เป็นผู้กำกับหญิงที่ประหลาดดีสำหรับเรา เพราะเราไม่ค่อยอินกับตัวละครหญิงในหนังของเธอ แต่เรามักจะผูกพันกับตัวละครผู้ชาย macho ในหนังของเธอ

No comments: