Friday, June 29, 2018

THE DIRECTOR'S FAMILY


แนะนำหนังในกลุ่ม ORDINARY LIVES, ORDINARY PEOPLE หรือหนังเกี่ยวกับชีวิตคนธรรมดาที่เราชอบสุดๆ

17.HOMEMADE SAKE (2001, Ono Satoshi, Japan, documentary, 49min)
18.IMAGES OF THE ABSENCE (1998, German Kral, Argentina)
19.OUR FILM (2005, Atthasit Somchob, 22min)
20.UMMA (MOTHER) (2005, Hohyun Joung, South Korea)
21.SLEEPING BEAUTY (2006, Chulayarnnon Siriphol)
22.THE LOVE (2007,  Supakit Seksuwan)
23.A CENTURY OF LOVE (2008, Chaloemrat Gaweewattana)
24.HOME VIDEO (2008, Yanin Pongsuwan)
25.MY GRANDFATHER (2008, Pichet Smerchua)
26.MY MOTHER AND HER DARKNESS (2008, Wiwat Lertwiwatwongsa)
27.A PLACE OF DIFFERENT AIR (2008, Chaloemkiat Saeyong, 24min)
28.บ้านในสายตาของแม่ พ่อ และโอรีโอ้ในบางครั้ง (2009, Thakoon Khempunya, 10min)
29. EMPIRE OF MIND (2009, Nontawat Numbenchapol, 90min)
30.GRANDMOTHER (2009, Yuji Kawamura, Japan),
31.ME AND MY VIDEO DIARY (2010, Tani Thitiprawat)
32.THE MOTHER WANNA GO TO CARREFOUR (2010, Nawapol Thamrongrattanarit)
33.SUNDAY (2010, Siwapond Cheejedreiw)
34.HOMEMADE (2013, Sivaroj Kongsakul)
35. AMA SAW SNAKE (2014, Napat Vattanakuljalas)
36.HOME (2014, Patiparn Amornthipparat
37.MY GRANDFATHER’S PHOTOBOOK (2015, Nutthapon Rakkatham, Phattana Paiboon)
38. ALONG THE ONE WAY (2016, Bani Nasution, Indonesia)
39.ARKONG (2016, Anuwat Amnajkasem)
40. EVERYTHING IS FAMILY (2016, Wisaruta Rakwongwan)
41.CREMATION DAY (2017, Napasin Samkaewcham)
42.HOW FAR A BETTER LIFE (2017, Chantana Tiprachart)
43. TALADNOI STORY (2017, Jiraporn Saelee, 39min)

หนึ่งในหนัง 5 เรื่องที่เราจะนำมาฉายที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค.นี้ ก็คือหนังเรื่อง “บรรยากาศยามเช้าที่บ้านตอน 6 โมง” (2011, Wachara Kanha)  ซึ่งเป็นการบันทึกบรรยากาศยามเช้าที่บ้านตอน 6 โมงจริงๆ ช่วงที่ผู้กำกับเพิ่งงัวเงียแหกขี้ตาตื่นนอนขึ้นมา มองอะไรไม่ชัด และยังไม่อยากลุกจากที่นอน ขณะที่แม่เรียกให้ลูกๆตื่นนอนขึ้นมา

เราชอบหนังแบบนี้มากๆ หนังที่สามารถถ่ายทอดกิจวัตรประจำวันของคนธรรมดาออกมาได้อย่างงดงามและมีมนต์เสน่ห์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย คือการบันทึกภาพกิจวัตรประจำวันอาจจะเป็นเรื่องง่าย แต่การร้อยเรียงมันออกมาให้ดูงดงามไม่ใช่เรื่องง่าย

จริงๆแล้วนอกจาก “บรรยากาศยามเช้าที่บ้านตอน 6 โมง” ก็มีหนังอีกหลายเรื่องที่ใกล้เคียงกัน แต่ไม่ได้นำมาฉายในงานนี้ คือ “บรรยากาศยามเช้าที่บ้านตอน 6 โมง” อาจจะจัดได้ว่าอยู่ในกลุ่มหนัง “สารคดีเกี่ยวกับครอบครัวผู้กำกับ” ซึ่งมีมากมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะในไทย โดยในกลุ่มหนัง “สารคดีเกี่ยวกับครอบครัวผู้กำกับ” นี้ อาจจะแยกออกได้เป็นหนังที่ “แทบไม่มีเหตุการณ์ดราม่า” อย่างเช่น “บรรยากาศยามเช้าที่บ้านตอน 6 โมง” และ “หนังที่มีเหตุการณ์ดราม่า” อย่างเช่น TARNATION (2003, Jonathan Caouette), MOTHER (2012, Vorakorn Ruetaivanichkul) และ “เรื่องราวในรถ” (2011, Wachara Kanha, 4min) ที่บันทึกภาพการทะเลาะกันในครอบครัว เมื่อพี่ชายไม่พอใจที่พ่อแม่ดูเหมือนจะรักน้องชายมากกว่า (ถ้าจำไม่ผิด)

จริงๆแล้วถ้าพูดอย่างกว้างๆ หนังในกลุ่มนี้ก็อาจจะถือเป็นหนังที่ถ่ายทอด ordinary lives, ordinary people ได้เกือบหมดเลยก็ได้นะ เพราะถึงแม้หนังส่วนหนึ่งในกลุ่มนี้จะบันทึกเหตุการณ์ดราม่า ชีวิตของคนในหนังก็เป็น “คนธรรมดา” น่ะ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้กำกับยังไม่มีชื่อเสียงโด่งดังขณะทำหนังเรื่องนั้น และเหตุการณ์ดราม่า อย่างเช่น “คุณแม่ป่วย” หรือ “สมาชิกครอบครัวทะเลาะกัน” ก็อาจจะถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันในครอบครัวของผู้กำกับหนังเรื่องนั้นไปแล้ว

พอเขียนถึงหนังกลุ่มนี้แล้ว เราก็เลยพยายามนึกว่า หนังเรื่องไหนเป็นหนังเรื่องแรกๆในกลุ่มนี้ที่เราได้ดู และเราก็คิดว่าอาจจะเป็นหนังเรื่อง 0016643225059 (1994, Apichatpong Weerasethakul) ที่บันทึกการโทรศัพท์คุยกันระหว่างแม่กับลูกชาย แต่ผู้กำกับถ่ายทอดมันออกมาเป็นหนังทดลองที่หลอนแบบแปลกๆ

หนังเรื่องต่อมาที่เราได้ดูที่เกี่ยวกับ “ครอบครัวของผู้กำกับ” น่าจะเป็นหนังสารคดีเรื่อง POP & ME (1999, Chris Roe) ที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของผู้กำกับกับพ่อ และพูดถึงพี่ชายสองคนของผู้กำกับ นอกจากนี้ หนังยังตระเวนไปสัมภาษณ์ผู้คนทั่วโลกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนเหล่านั้นกับพ่อของตัวเองด้วย

จำได้ว่าเราชอบ POP & ME มากๆ เพราะผู้กำกับกับพี่ชายสองคนนี่หล่อสุดๆ คือตอนดูนี่น้ำเดินมากๆ อยากได้พี่ชายน้องชายทั้งสามคนนี้มากๆ

แต่หนังที่มีอิทธิพลต่อ “วิธีการดูหนัง” ของเราจริงๆน่าจะเป็นหนังเรื่อง HOMEMADE SAKE (2001, Ono Satoshi) ที่ทางมูลนิธิหนังไทยเคยนำมาฉายในปี 2003 เพราะ HOMEMADE SAKE เป็นหนังที่ไม่มี drama อะไรเลย และไม่มีความพยายามที่จะ please ผู้ชมใดๆเลยด้วย ซึ่งแตกต่างจากหนังเรื่อง 0016643225059 ที่ดู “สนุก” มากสำหรับเรา โดยผ่านทางการเล่นกับภาพและเสียงแบบหนังทดลอง และแตกต่างจาก POP & ME ที่เล่าเรื่องได้อย่างสนุกสนานผ่านการเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก

คือตอนดู HOMEMADE SAKE นี่เรางงมากว่า ทำหนังแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ 555 คือหนังเรื่องนี้เป็นผู้กำกับคุยกับพ่อ และผู้กำกับก็คุยกับแม่ ซึ่งต่างก็เป็นคนธรรมดาทั้งคู่ และพ่อของผู้กำกับก็ทำเหล้าสาเก และหนังก็บันทึกวิธีการทำเหล้าสาเกของพ่ออย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มีการเร้าอารมณ์อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

การดูหนังเรื่อง HOMEMADE SAKE ในปี 2003 ก็เลยเหมือนเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่เราว่าหนังแบบนี้ก็มีอยู่ด้วย หนังที่เป็นการคุยกับคนธรรมดาจริงๆ และบันทึกกิจวัตรประจำวันของคนธรรมดาจริงๆ โดยไม่มีการเร้าอารมณ์อะไรใดๆเลย

หลังจาก HOMEMADE SAKE เราก็ได้ดูหนังอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะหนังไทย ที่เป็นการบันทึกเรื่องราวครอบครัวของตัวผู้กำกับเหมือนกัน โดยหนังหลายเรื่องในกลุ่มนี้ก็แทบไม่มี drama อะไรในหนังเลย แต่หนังบางเรื่องในกลุ่มนี้ก็มี drama อยู่บ้าง แต่ drama เหล่านี้ อย่างเช่นการทะเลาะกัน หรือการแก่ตาย บางทีมันก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “ชีวิตคนธรรมดา” เหมือนกัน

หนังเกี่ยวกับ “ครอบครัวธรรมดาของตัวผู้กำกับ” ที่เราชอบสุดๆ ก็มีอย่างเช่นเรื่อง IMAGES OF THE ABSENCE (1998, German Kral, Argentina), OUR FILM (2005, Atthasit Somchob, 22min), UMMA (MOTHER) (2005, Hohyun Joung, South Korea), SLEEPING BEAUTY (2006, Chulayarnnon Siriphol), THE LOVE (2007,  Supakit Seksuwan) A CENTURY OF LOVE (2008, Chaloemrat Gaweewattana), HOME VIDEO (2008, Yanin Pongsuwan), MY GRANDFATHER (2008, Pichet Smerchua), MY MOTHER AND HER DARKNESS (2008, Wiwat Lertwiwatwongsa), A PLACE OF DIFFERENT AIR (2008, Chaloemkiat Saeyong, 24min), บ้านในสายตาของแม่ พ่อ และโอรีโอ้ในบางครั้ง (2009, Thakoon Khempunya, 10min), EMPIRE OF MIND (2009, Nontawat Numbenchapol, 90min) GRANDMOTHER (2009, Yuji Kawamura, Japan),  ME AND MY VIDEO DIARY (2010, Tani Thitiprawat), THE MOTHER WANNA GO TO CARREFOUR (2010, Nawapol Thamrongrattanarit), SUNDAY (2010, Siwapond Cheejedreiw), HOMEMADE (2013, Sivaroj Kongsakul), HOME (2014, Patiparn Amornthipparat), AMA SAW SNAKE (2014, Napat Vattanakuljalas), MY GRANDFATHER’S PHOTOBOOK (2015, Nutthapon Rakkatham, Phattana Paiboon), ALONG THE ONE WAY (2016, Bani Nasution, Indonesia), ARKONG (2016, Anuwat Amnajkasem), EVERYTHING IS FAMILY (2016, Wisaruta Rakwongwan),  CREMATION DAY (2017, Napasin Samkaewcham), HOW FAR A BETTER LIFE (2017, Chantana Tiprachart), TALADNOI STORY (2017, Jiraporn Saelee, 39min)

No comments: