Monday, December 01, 2025

SUMMER AND MY TEDDY BEAR

 

SUMMER AND MY TEDDY BEAR (2025, Jattarin Meedach, queer film, 27min, A+30)

ฤดูร้อนปีนี้ผมพาตุ๊กตาหมีกลับบ้าน (2025, เจตริน มีเดช)

 

1. หนังเกย์รัก 3 เส้าระหว่างหนุ่มหล่อ 3 คน และ “ตุ๊กตาหมี” ชื่อ “เต้าหู้” คือพอตัวละครพูดชื่อตุ๊กตาหมีขึ้นมา เรากับลูกหมีก็อดหัวเราะพร้อมกันไม่ได้ เพราะ reference มันชัดมากว่า หนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากใคร 55555

 

2. เข้าใจว่าหนังน่าจะถ่ายที่จังหวัด สุพรรณบุรี จริง ๆ และหนังก็ดูเหมือนจะใช้ประโยชน์จาก location ของตัวเองได้ดีพอสมควร

 

SPOILERS ALERT

--

--

--

--

--

--

--

--

--

--

 

3. ถือเป็นหนัง guilty pleasure อีกเรื่องนึงของปีนี้ เพราะในทางเนื้อเรื่องแล้ว เรารู้สึกว่าพล็อตเรื่องมันดูมีช่องโหว่ยังไงไม่รู้ เพราะเราไม่รู้ว่าตัวละครสำคัญตัวนึงเสียชีวิตยังไง แล้วพอเราไม่รู้ว่าเขาฆ่าตัวตาย หรือประสบอุบัติเหตุตายในสภาพยังไง เราก็เลยจะไม่ค่อยแน่ใจว่า ความรู้สึก guilty ของตัวละครอีกตัวนึงมันสมเหตุสมผลหรือมีความหนักแน่นมากพอหรือเปล่า

 

มันก็เลยดูเหมือนกับว่า ความระหองระแหงระหว่างตัวละครเอกสองตัว และการตายของหนึ่งในตัวละคร มันดูเป็นเหมือน “เครื่องมือ” อะไรบางอย่างเพื่อให้หนังก้าวไปสู่ “การสร้างอารมณ์เศร้า+ซาบซึ้ง” แต่มันยังขาดความหนักแน่นมากพอที่จะทำให้คนดูมีอารมณ์คล้อยตามไปด้วยได้น่ะ คือคนดูรับรู้ถึงความระหองระแหงระหว่างตัวละคร และรับรู้ว่าตัวละครตัวนึงตาย แต่พอหนังไม่ได้นำเสนออารมณ์และเนื้อเรื่องในส่วนนี้อย่างละเอียดพอ และหนังกลับใช้วิธีบอกเล่าแบบข้ามๆ ในส่วนนี้ คนดูอย่างเราก็เลยไม่มีอารมณ์ร่วมในส่วนนี้ และก็เลยรู้สึกมีระยะห่างจากความเศร้าของตัวละครในหนังตามไปด้วย

 

4. แต่นักแสดงเล่นดีใช้ได้นะ ทั้งแม่ของผู้ตายและตัวละครหมิง คือเรารู้สึกว่าตัวละครเศร้าจริง เศร้ามาก เพราะการแสดงที่น่าเชื่อถือมาก ๆ ของทั้งคู่น่ะ แต่เราอาจจะไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปกับความเศร้าของตัวละครด้วย เพราะเหตุผลในข้อสาม

 

5. ถึงแม้หนังจะมีจุดที่เราไม่ชอบในข้อสาม แต่เราชอบหนังเกย์, ชอบหนุ่มหล่อ ๆ และชอบตุ๊กตาหมีอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นยังไง ๆ เราก็ถือว่าเราชอบหนังเรื่องนี้มาก ๆ อยู่ดี 55555 (ลูกหมีก็บอกว่าเธอชอบหนังเรื่องนี้มาก ๆ)

+++

 

เห็นเพื่อน ๆ หลายคนซึ่งรวมถึงตัวเราเองที่มีอายุ 52 ปี กำลังจะย่างเข้าสู่วัยชรา และเพื่อน ๆ หลายคนก็กำลังดูแลพ่อแม่ที่อยู่ในวัยชรา เราก็เลยสงสัยว่า ตอนนี้ในไทยมีการเปิดธุรกิจ BODYBUILDER CAREGIVER แล้วยัง เพราะเราเห็นธุรกิจแบบนี้มีแล้วในญี่ปุ่น เพราะว่าญี่ปุ่นมีคนชราจำนวนมาก เขาเลยเอา “นักกล้าม” มาทำหน้าที่ดูแลคนชรา เพราะว่านักกล้าม “มีแรงมากพอที่จะอุ้มตัวผู้ป่วย” ได้

 

เราขอสนับสนุนให้มีการเปิดธุรกิจแบบนี้ในไทยด้วยนะ อยากให้มีธุรกิจแบบนี้ในไทยมาก ๆ เพราะเราเองก็มีอายุย่างเข้าสู่วัยชราแล้ว ต้องการการดูแลแบบนี้มาก ๆ และเราเองก็มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะด้วย เพราะฉะนั้นเราก็เลยคิดว่าถ้าหากจะจ้างคนมาดูแลเรา เราก็ต้องอาศัยคนดูแลที่เป็นนักกล้ามแบบนี้นี่แหละ เขาจะได้มีแรงพยุงตัวเราไหว

 

รีบ ๆ เปิดธุรกิจแบบนี้ในไทยกันนะคะ

 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่

https://essential-japan.com/news/japans-muscle-carers-inspire-new-generation-of-caregivers-as-job-applications-rise/

 

ดูคลิปเพิ่มเติมได้ที่

https://x.com/asahicom/status/1536632031634812928?t=aA_3yET91qPYC0bjW0iVAg&s=07&fbclid=IwY2xjawOZ75dleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFPdGg1Nm9hN2o4U1NsRHJPc3J0YwZhcHBfaWQQMjIyMDM5MTc4ODIwMDg5MgABHkjDQAyoj8-l2Ik7Q1dCSKX1qma1UgcHvAacT8vBLdH_LyQPC_HejuM8SCym_aem_bPB22hP97ELadCk1ojmXgw

No comments: