SUMMER AND MY TEDDY BEAR (2025, Jattarin Meedach, queer
film, 27min, A+30)
ฤดูร้อนปีนี้ผมพาตุ๊กตาหมีกลับบ้าน (2025, เจตริน
มีเดช)
1. หนังเกย์รัก 3 เส้าระหว่างหนุ่มหล่อ 3 คน และ
“ตุ๊กตาหมี” ชื่อ “เต้าหู้” คือพอตัวละครพูดชื่อตุ๊กตาหมีขึ้นมา
เรากับลูกหมีก็อดหัวเราะพร้อมกันไม่ได้ เพราะ reference มันชัดมากว่า
หนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากใคร 55555
2. เข้าใจว่าหนังน่าจะถ่ายที่จังหวัด สุพรรณบุรี
จริง ๆ และหนังก็ดูเหมือนจะใช้ประโยชน์จาก location ของตัวเองได้ดีพอสมควร
SPOILERS ALERT
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
3. ถือเป็นหนัง guilty pleasure อีกเรื่องนึงของปีนี้ เพราะในทางเนื้อเรื่องแล้ว
เรารู้สึกว่าพล็อตเรื่องมันดูมีช่องโหว่ยังไงไม่รู้
เพราะเราไม่รู้ว่าตัวละครสำคัญตัวนึงเสียชีวิตยังไง
แล้วพอเราไม่รู้ว่าเขาฆ่าตัวตาย หรือประสบอุบัติเหตุตายในสภาพยังไง
เราก็เลยจะไม่ค่อยแน่ใจว่า ความรู้สึก guilty ของตัวละครอีกตัวนึงมันสมเหตุสมผลหรือมีความหนักแน่นมากพอหรือเปล่า
มันก็เลยดูเหมือนกับว่า
ความระหองระแหงระหว่างตัวละครเอกสองตัว และการตายของหนึ่งในตัวละคร
มันดูเป็นเหมือน “เครื่องมือ” อะไรบางอย่างเพื่อให้หนังก้าวไปสู่
“การสร้างอารมณ์เศร้า+ซาบซึ้ง”
แต่มันยังขาดความหนักแน่นมากพอที่จะทำให้คนดูมีอารมณ์คล้อยตามไปด้วยได้น่ะ คือคนดูรับรู้ถึงความระหองระแหงระหว่างตัวละคร
และรับรู้ว่าตัวละครตัวนึงตาย
แต่พอหนังไม่ได้นำเสนออารมณ์และเนื้อเรื่องในส่วนนี้อย่างละเอียดพอ และหนังกลับใช้วิธีบอกเล่าแบบข้ามๆ
ในส่วนนี้ คนดูอย่างเราก็เลยไม่มีอารมณ์ร่วมในส่วนนี้
และก็เลยรู้สึกมีระยะห่างจากความเศร้าของตัวละครในหนังตามไปด้วย
4. แต่นักแสดงเล่นดีใช้ได้นะ
ทั้งแม่ของผู้ตายและตัวละครหมิง คือเรารู้สึกว่าตัวละครเศร้าจริง เศร้ามาก
เพราะการแสดงที่น่าเชื่อถือมาก ๆ ของทั้งคู่น่ะ
แต่เราอาจจะไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปกับความเศร้าของตัวละครด้วย เพราะเหตุผลในข้อสาม
5. ถึงแม้หนังจะมีจุดที่เราไม่ชอบในข้อสาม
แต่เราชอบหนังเกย์, ชอบหนุ่มหล่อ ๆ และชอบตุ๊กตาหมีอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นยังไง ๆ
เราก็ถือว่าเราชอบหนังเรื่องนี้มาก ๆ อยู่ดี 55555
(ลูกหมีก็บอกว่าเธอชอบหนังเรื่องนี้มาก ๆ)
+++
เห็นเพื่อน ๆ
หลายคนซึ่งรวมถึงตัวเราเองที่มีอายุ 52 ปี กำลังจะย่างเข้าสู่วัยชรา และเพื่อน ๆ
หลายคนก็กำลังดูแลพ่อแม่ที่อยู่ในวัยชรา เราก็เลยสงสัยว่า
ตอนนี้ในไทยมีการเปิดธุรกิจ BODYBUILDER CAREGIVER แล้วยัง
เพราะเราเห็นธุรกิจแบบนี้มีแล้วในญี่ปุ่น เพราะว่าญี่ปุ่นมีคนชราจำนวนมาก
เขาเลยเอา “นักกล้าม” มาทำหน้าที่ดูแลคนชรา เพราะว่านักกล้าม
“มีแรงมากพอที่จะอุ้มตัวผู้ป่วย” ได้
เราขอสนับสนุนให้มีการเปิดธุรกิจแบบนี้ในไทยด้วยนะ
อยากให้มีธุรกิจแบบนี้ในไทยมาก ๆ เพราะเราเองก็มีอายุย่างเข้าสู่วัยชราแล้ว
ต้องการการดูแลแบบนี้มาก ๆ และเราเองก็มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะด้วย
เพราะฉะนั้นเราก็เลยคิดว่าถ้าหากจะจ้างคนมาดูแลเรา เราก็ต้องอาศัยคนดูแลที่เป็นนักกล้ามแบบนี้นี่แหละ
เขาจะได้มีแรงพยุงตัวเราไหว
รีบ ๆ เปิดธุรกิจแบบนี้ในไทยกันนะคะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ดูคลิปเพิ่มเติมได้ที่
No comments:
Post a Comment