THAI SHORT FILMS SEEN ON APRIL 20, 2018
Monday, December 15, 2025
THAI SHORT FILMS SEEN ON APRIL 20, 2018
Saturday, December 13, 2025
ETERNITY VS. ALWAYS VS. INNOCENCE
ดีใจสุดขีดที่มีนักวิจารณ์ 23 คน เลือก HAPPYEND
(2024, Neo Sora, Japan, A+30) ให้ติดอันดับหนังประจำปี 2025 ใน individual
lists ของ FILM COMMENT โดยหนึ่งในผู้ที่เลือก
HAPPYEND ให้ติดอันดับประจำปี ก็คือ Matias Pineiro ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังจาก Argentina
ดีใจมาก ๆ ด้วยที่ Matias Pineiro เลือก DRACULA (2025, Radu Jude, Romania, A+30) ให้ติดอันดับหนังประจำปีของเขา
โดยมีนักวิจารณ์ 15 รายด้วยกันที่เลือก DRACULA ให้ติดอันดับประจำปี
เราชอบลิสท์ของ Chris Shields มากเป็นพิเศษ เพราะเขาให้ M3GAN 2.0 (2025, Gerard Johnstone,
A+25) และ TO A LAND UNKNOWN (2024, Mahdi Fleifel,
Palestine/Greece, A+30) ติดอันดับประจำปีด้วย
นักวิจารณ์ภาพยนตร์จากทั่วโลก เลือกให้ TO
A LAND UNKNOWN ติดอันดับ 46 ใน 100 BEST ARAB FILMS OF ALL
TIME ด้วยนะ ดีใจสุดขีด
+++
TRIPLE BILL FILM WISH LIST
ETERNITY (2025, David Freyne, A+30)
+ ALWAYS (1989, Steven Spielberg, A+30)
+ INNOCENCE (2000, Paul Cox, Australia, A+30)
พอเราดู ETERNITY แล้วก็เลยนึกถึง
ALWAYS กับ INNOCENCE เพราะว่าหนังทั้ง
3 เรื่องนี้มีเนื้อเรื่องคล้ายกันในบางจุด
ALWAYS พูดถึงวิญญาณชายหนุ่ม (Richard
Dreyfuss) ที่ได้แต่เฝ้ามองหญิงสาวที่ตนเองรัก (Holly
Hunter) ไปพบรักกับชายหนุ่มคนใหม่ (Brad Johnson)
ส่วน INNOCENCE เล่าเรื่องของชายหนุ่มหญิงสาวที่เคยรักกันมาก
ๆ แต่ชะตาชีวิตที่โหดร้ายส่งผลให้ทั้งสองต้องพลัดพรากจากกัน ไม่ได้ติดต่อกันอีก
หญิงสาวคนนั้นแต่งงานกับชายคนใหม่ และมีชีวิตสมรสที่ดีกับชายคนใหม่
แต่ในที่สุดเธอก็ได้พบกับชายคนแรกอีกครั้ง หลังจากเวลาผ่านไป 40 ปี และเขาก็ยังรักเธอเหมือนเดิมตลอด
40 ปีที่พลัดพรากจากกัน เธอจะทำอย่างไร เธอจะเลือกใครระหว่างผู้ชายสองคนนี้ คนที่ใช้ชีวิตคู่อยู่กับเธอตลอด
40 ปีที่ผ่านมา หรือคนที่พลัดพรากจากเธอเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ไม่มีใครทำอะไรผิดเลยในชะตาชีวิตที่น่าเศร้านี้
เราชอบ ETERNITY มากนะ
แต่ในบรรดา 3 เรื่องนี้ เราชอบ ALWAYS มากที่สุด และ
INNOCENCE เป็นอันดับสอง โดยทั้ง ALWAYS กับ INNOCENCE
นี่ถือเป็น ONES OF MY MOST FAVORITE ROMANTIC FILMS OF ALL
TIME
GARDEN IN A POT (2025, Marisa Srijunpleang, video installation, 15min, A+30)
ต่อไปนี้เราจะถูกจำกัดให้แชร์ลิงค์ใน FACEBOOK
ได้แค่ 4 ลิงค์ต่อเดือนเท่านั้น มีใครเจอแบบเราบ้างไหมคะ
+++
FILM COMMENT ประกาศลิสท์หนังยอดเยี่ยมประจำปี
2025 ออกมาแล้ว กรี๊ดดดด
BEST UNDISTRIBUTED FILMS 2025
1. WITH HASAN IN GAZA (Kamal Aljafari, Palestine)
Kamal Aljafari เคยกำกับ A FIDAI FILM
(2024) ที่เคยเข้ามาฉายที่หอภาพยนตร์ ศาลายา
2. LANDMARKS (Lucrecia Martel, Argentina, documentary, A+30)
3. REMAKE (Ross McElwee, USA)
Ross McElwee เคยกำกับ SHERMAN’S MARCH
(1985, A+30) ที่เราเคยดูที่ห้องสมุด มหาลัยธรรมศาสตร์
4. LEVERS (Rhayne Vermette, Canada)
5. I ONLY REST IN THE STORM (Pedro Pinho, Portugal, A+30)
6. ESCAPE (Masao Adachi, Japan)
Masao Adachi เคยกำกับ A.K.A. SERIAL
KILLER (1975, A+30) ที่เราเคยดูที่ Jam Sathorn
7. PIN DE FARTIE (Alejo Moguillansky, Argentina)
Alejo Moguillansky เคยกำกับหนังเรื่อง CASTRO
ที่เคยเข้ามาฉายที่โรงภาพยนตร์สยาม พารากอน หนังเรื่อง CASTRO
ติดอันดับ 3 ในลิสท์หนังสุดโปรดของเราประจำปี 2009
8. BOUCHRA (Orian Barki, Meriem Bennani, Italy/Morocco)
9. SEEDS (Brittany Shyne, USA)
10. LAST NIGHT I CONQUERED THE CITY OF THEBES (Gabriel
Azorin, Spain/Portugal)
BEST DISTRIBUTED FILMS 2025
1. ONE BATTLE AFTER ANOTHER (Paul Thomas Anderson, A+30)
2. THE MASTERMIND (Kelly Reichardt, A+30)
3. THE SECRET AGENT (Kleber Mendonça Filho, Brazil)
4. IT WAS JUST AN ACCIDENT (Jafar Panahi, Iran)
5. CAUGHT BY THE TIDES (Jia Zhangke, China)
6. AFTERNOONS OF SOLITUDE (Albert Serra, Spain, documentary,
A+30)
7. MISERICORDIA (Alain Guiraudie, France, A+30)
8. SIRAT (Oliver Laxe, Spain, A+30)
9. THE SHROUDS (David Cronenberg, France/Canada)
10. IF I HAD LEGS, I’D KICK YOU (Mary Bronstein, USA)
11. SINNERS (Ryan Coogler, USA, A+30)
12. GRAND TOUR (Miguel Gomes, Portugal, A+30)
13. PETER HUJAR’S DAY (Ira Sachs, USA, A+30)
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ดีใจที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
14. FAMILIAR TOUCH (Sarah Friedland,
USA)
15. BY THE STREAM (Hong Sang-soo, South Korea, A+30)
16. HENRY FONDA FOR PRESIDENT (Alexander Horwath, Austria)
17. BLUE MOON (Richard Linklater)
18. DIRECT ACTION (Ben Russell, Guillaume Cailleau,
France/Germany)
Ben Russell เคยร่วมกำกับ THE WET SEASON (2008) ที่เคยเข้ามาฉายที่โรงภาพยนตร์สยาม พารากอน
THE WET SEASON ติดอันดับ 14 ในลิสท์หนังสุดโปรดของเราประจำปี 2009
19. SOUND OF FALLING (Mascha Schilinsky, Germany, A+30)
20. ON BECOMING A GUINEA FOWL (Rungano Nyoni, Zambia)
Rungano Nyoni เคยกำกับ I AM NOT A WITCH
(2017, A+30) ที่เคยเข้ามาฉายที่ Bangkok Screening Room และเคยร่วมกำกับ LISTEN (2014, A+30) ที่เคยเข้ามาฉายที่ลิโด
I AM NOT A WITCH ติดอันดับ 82 ในลิสท์หนังสุดโปรดของเราประจำปี
2019 ส่วน LISTEN ติดอันดับ 9
ในลิสท์หนังสุดโปรดของเราประจำปี 2015
สรุปว่าในลิสท์ BEST FILMS 30 เรื่องนี้ เราได้ดูไปเพียงแค่ 12 เรื่องเท่านั้นค่ะ ยังมีอีก 18
เรื่องที่เรายังไม่ได้ดู
++++
GARDEN IN A POT (2025, Marisa Srijunpleang, video
installation, 15min, A+30)
กราบตีนมาก ๆ
เป็นวิดีโอที่สร้างความรู้สึกงดงามจนสุดจะบรรยายให้แก่เรา
คือจริงๆ แล้วตัวภาพมันไม่ได้ “งดงาม” ในตัวมันเอง
เพราะมันเป็นภาพต้นไม้ใบหญ้าข้างทางหรือริมรั้วบ้านหลังเล็ก ๆ แบบที่เราพบได้โดยทั่วไปตามตรอกซอกซอยในกรุงเทพ
แต่พอ gaze ของหนังมันไปจับจ้อง “สิ่งธรรมดาสามัญ” เหล่านี้
แล้วภาพสิ่งธรรมดาสามัญเหล่านี้มันถูกนำมาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน เรากลับรู้สึกว่าผลลัพธ์ที่ได้มันงดงามจนสุดจะบรรยายมาก
ๆ
แอบนึกในใจเล่น ๆ ว่า คุณ Marisa คือ “เจ้าแม่พฤกษศาสตร์แห่งวงการ Thai video artists” 55555
การทำให้ “ภาพของสิ่งธรรมดาสามัญ” กลายเป็น “ภาพยนตร์/ภาพเคลื่อนไหวที่งดงามจนสุดจะบรรยาย” แบบนี้ ทำให้เรานีกถึงภาพยนตร์ของคุณ
Teeranit Siangsanoh และภาพยนตร์บางเรื่องของ Chantal
Akerman อย่างเช่น HOTEL MONTEREY (1973) และ NEWS
FROM HOME (1976) ด้วยเหมือนกัน
และหนังของทั้ง 3 คนนี้ก็ทำให้เรานึกถึง quote
ของ Gregory Markopoulos และNathaniel
Dorsky ด้วย
Gregory
Markopoulos: It is in the insignificant moment that significance becomes
disturbed and the power of filmmaking is established.
Nathaniel Dorsky in Devotional Cinema: "If you have
ever looked at your hand and seen it freshly without concept, realized the
simultaneity of its beauty, its efficiency, its detail, you are awed into
appreciation. The total genius of your hand is more profound than anything you
could have calculated with your intellect. One's hand is a devotional object.
"If a film fails to take advantage of the self-existing magic of things,
if it uses objects merely to mean something, it has thrown away one of its
great possibilities. When we take an object and make it mean something, what we
are doing, in a subtle or not so subtle way, is confirming ourselves. We are
confirming our own concepts of who we are and what the world is. But allowing
things to be seen for what they are offers a more open, more fertile ground
than the realm of predetermined symbolic meaning. After all, the unknown is
pure adventure."
ซึ่งจริง ๆ แล้วเรารู้สึกว่าภาพหรือฉากต่าง ๆ ใน
GARDEN IN A POT มันก็ถูกนำมารองรับ concept และ meaning บางอย่างอยู่นะ มันยังไม่ได้ถึงขั้น “เกือบไร้ซึ่ง
concept และ meaning” แบบภาพยนตร์ของ Teeranit
Siangsanoh และภาพยนตร์บางเรื่องของ Chantal Akerman แต่เราก็รู้สึกอยู่ดีว่า หลาย ๆ ฉากใน GARDEN IN A POT มันไม่ได้ถูก concept และ meaning ไปครอบงำไว้แบบ 100% เต็มเหมือนในหนังทั่วไป
มันเหมือนหลาย ๆ ฉากในวิดีโอนี้มัน “เปิดให้ภาพได้มีโอกาสหายใจ” ไปด้วยในขณะเดียวกัน
มันเหมือนกับว่าภาพต่าง ๆ ในวิดีโอนี้อาจจะถูก concept และ meaning
ครอบไว้เพียงแค่ 30% เท่านั้น และเปิดให้ภาพมันเป็นอิสระในตัวมันเองได้ถึง
70% และสิ่งนี้ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าวิดีโอชิ้นนี้มันงดงามจนสุดจะบรรยายมาก
ๆ
เราดูวิดีโอนี้ในนิทรรศการ MELTING MAP ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์
FINDING A CAT IN PRAWET (2025, Krittanun Tantraporn, photogrammetry)
ชอบงานชิ้นนี้มาก ๆ ศิลปินสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ของพื้นที่หนึ่งในเขตประเวศขึ้นมา
และใส่ภาพถ่ายแมวจำนวนมากจากเขตประเวศเข้าไปในแบบจำลองนั้น ผู้ชมงานนี้สามารถคลิกเลื่อนหาภาพแมวต่าง
ๆ ในแบบจำลองคอมพิวเตอร์นี้ได้ เราก็เลยรู้สึกว่ามันคล้าย ๆ กับการเล่นวิดีโอเกมที่สนุกดี
เราดูงานชิ้นนี้ในนิทรรศการ MELTING MAP ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์
Tuesday, December 09, 2025
DHURANDHAR
เรายังไม่ได้ไปดูวิดีโอของ Araya
Rasdjarmrearnsook ในงาน THE SAME OLD KARMA เลย
แต่ก่อนไปดู เราก็ขอตรวจสอบก่อนว่า เราเคยดูเรื่องไหนไปแล้วบ้างใน 23 เรื่องนี้
เราจะได้รู้ว่าเราสามารถหลบไปเข้าห้องน้ำหรือหลบไปหาผัวได้ตอนที่วิดีโอเรื่องไหนฉาย
เรื่องที่เคยดูแล้ว
1.READING FOR ONE FEMALE CORPSE (1997,
Araya Rasdjarmrearnsook)
ติดอันดับ 23 ในลิสท์หนังสุดโปรดของเราประจำปี
2019
2.READING INAOW TO FEMALE CORPSE (2001,
Araya Rasdjarmrearnsook)
3. A WALK (2002, Araya
Rasdjarmrearnsook)
ติดอันดับ 37 ในลิสท์หนังสุดโปรดของเราประจำปี
2019
4.GLOME PEE: THE CRYING OF THE EARTH
(2005-2006, ARAYA RASDJARMREARNSOOK
5.“FECES, LIFE, LOVE, LUST”
6.THE NINE-DAY PREGNANCY OF A SINGLE,
MIDDLE-AGED ASSOCIATE PROFESSOR
7. IN THIS CIRCUMSTANCE, THE SOLE OBJECT OF ATTENTION SHOULD
BE THE TREACHERY OF THE MOON (2009, Araya Rasdjarmrearnsook, Thailand)
8. SOME UNEXPECTED EVENTS SOMETIMES BRING MOMENTARY
HAPPINESS (2009, Araya Rasdjarmrearnsook)
+
AFTERWARDS, REGRET RISES IN OUR MEMORY EVEN FOR BYGONE HARDSHIPS (2009, Araya
Rasdjarmrearnsook)
9.THE TREACHERY OF THE MOON (2012, Araya Rasdjarmrearnsook,
video installation, 13min)
10.NECESSITY'S RHYTHM (2020, Araya Rasdjarmrearnsook, video
installation A+30)
11.DOG'S PALATIAL HOUSE (2022, Araya Rasdjarmrearnsook,
video installation, A+30)
สรุปว่าเราเคยดูไปแค่ 11 จาก 23 เรื่องนี้
ยังไม่ได้ดูอยู่อีก 12 เรื่อง กรี๊ดดดดด
++++
พอดู KEEPER เจ้าที่ปีศาจ
(2025, Osgood Perkins, A+30) แล้วก็ดีใจมาก ๆ ที่ Osgood
Perkins ยังคงหนักแน่นในการทำหนังในแนวทางของตัวเองต่อไป
ซึ่งก็คือหนังแนวที่นำเสนอ “THE WORLD WITHOUT GOD” “THE WORLD IN WHICH
GOD IS ABSENT” “THE WORLD IN WHICH GOD DOESN’T EXIST, BUT SATAN/EVIL EXISTS.”
++++
เติม SOUND OF FALLING (2025, Mascha
Schilinski, Germany, A+30) เข้าไปเป็นเรื่องที่ 4 ในลิสท์
“หนังที่เราได้ดูในปีนี้ ที่กำกับโดยผู้หญิง และมีฉากพลิกบนลงล่าง พลิกล่างขึ้นบน”
โดยใน SOUND OF FALLING นั้นมีบอกไว้อย่างชัดเจนถึงสาเหตุของฉากดังกล่าวด้วย
เพราะตัวละครบอกว่า ดวงตาของมนุษย์เราเห็นภาพกลับหัว
แต่หัวสมองของมนุษย์แปลงสัญญาณดังกล่าวให้กลับทิศทางอีกรอบนึง
เพราะฉะนั้นตัวละครก็เลยสงสัยว่า จริง ๆ
แล้วหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตมนุษย์เรามันเป็นตรงกันข้ามกับสิ่งที่มันเป็นหรือเปล่า
สิ่งที่ถูกจริง ๆ แล้วอาจจะเป็นสิ่งที่ผิดก็ได้ อะไรทำนองนี้
แต่ถ้าหากนับหนังที่กำกับโดยผู้ชายด้วย
ก็ต้องรวม KEEPER (2025, Osgood Perkins, A+30) ที่ให้คนดูได้เห็น
“ภาพกลับหัว” ด้วยเหมือนกัน
+++
ภาพยนตร์เรื่อง “หน่วยรบผู้เชี่ยวชาญ” หรือ DHURANDHAR
(2025, Aditya Dhar, India, 3hrs 32mins, A+30) รอบ 20.30 น.คืนนี้
ตั๋วขายไปเกินครึ่งโรงแล้วนะคะ ใครจะดูก็ซื้อตั๋วไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ดีกว่านะคะ
ดิฉันดูหนังเรื่องนี้แล้ว ชอบในระดับ A+30
ค่ะ แต่หนังเรื่องนี้อาจจะติดอันดับประจำปีในอันดับที่ไม่สูงมากนัก
เพราะว่ามันเป็น “หนังขวาจัดคลั่งชาติอินเดีย
ที่อาจจะมีการใส่ร้ายปากีสถานอย่างรุนแรง” ค่ะ คือถ้าหากวัดจาก
“ทัศนคติทางการเมือง” ของหนังเรื่องนี้ ก็คงต้องให้ F กันเลยทีเดียว
เพราะทัศนคติทางการเมืองของมันเลวร้ายสุดขีด
แต่ถ้าหากเทียบกับ “หนังขวาจัดคลั่งชาติอินเดีย”
อีกหลายสิบเรื่องที่ดิฉันเคยดูมา DHURANDHAR ก็ถือเป็นหนึ่งในหนังที่ดิฉันชอบมากที่สุดในกลุ่มนี้
เพราะว่าหนังในกลุ่มนี้เรื่องอื่น ๆ มักจะพูดถึงตัวละครแค่ 2 กลุ่ม ซึ่งก็คือ
“กลุ่มผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงชาวปากีสถาน” กับกลุ่ม “ทหารอินเดียผู้รักชาติยิ่งชีพ”
แต่ DHURANDHAR มันแตกต่างจากหนังเรื่องอื่น ๆ ในกลุ่มนี้
เพราะว่าหนังเรื่องนี้มันเน้นพูดถึง “กลุ่มต่าง ๆ ในปากีสถาน” อย่างละเอียด
ทั้งกลุ่มนักธุรกิจ, สายลับปากีสถาน, พรรคการเมืองในปากีสถานที่ตบตีกันเอง, กลุ่มตำรวจ,
แขกปาทาน และที่สำคัญที่สุดก็คือกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน Balochistan
การที่หนังเรื่อง DHURANDHAR เน้นพูดถึงปัญหาระหว่างรัฐบาลปากีสถาน กับกลุ่มกบฏ Balochistan ก็เลยเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดิฉันชอบหนังเรื่องนี้ในระดับ A+30
ค่ะ
เพราะหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องแรกที่ดิฉันได้ดูที่พูดถึงปัญหา Balochistan
หลังจากที่ดิฉันเคยได้แต่อ่านข่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้
แต่ไม่เคยดูหนังที่พูดถึงประเด็นนี้มาก่อน
แต่ DHURANDHAR ไม่ใช่
“หนังบู๊สะบั้นหั่นแหลก” แบบ RRR (2022, S.S. Rajamouli, A+30) นะคะ หนังมีฉากบู๊น้อยมาก หนังเรื่องนี้มันเน้นแสดงให้เห็นถึง
“โครงสร้างทางการเมืองในปากีสถาน” มากกว่า ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะนึกถึงหนังอย่าง
RAAJNEETI (2010, Prakash Jha, India, A+30) อะไรแบบนั้นมากกว่า
ซึ่งการที่หนังเรื่องนี้ไม่เน้นฉากบู๊
แต่เน้นแสดงให้เห็นถึง “โครงสร้างทางการเมืองอันซับซ้อน” ระหว่าง นักการเมือง,
นักธุรกิจ, แก๊งนักเลง, ตำรวจ, สายลับ, กลุ่มอิทธิพลเชื้อชาติ (แก๊งแขกปาทาน), ศัตรูต่างชาติ,
และ “ศัตรูภายในชาติ” (กบฏ Balochistan) ที่แต่ละกลุ่มต่างก็ช่วยเหลือกันเอง
และต่างก็ห้ำหั่นกันเอง ฆ่าฟันกันเอง แล้วแต่สถานการณ์ ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร
อะไรแบบนี้ก็เลยทำให้นึกถึง การเมืองไทย อยู่เหมือนกัน 55555
ในแง่นึง DHURANDHAR กับ WARFARE
(2025, Alex Garland, Ray Mendoza, A+25) ก็เป็นหนังที่ทำให้ดิฉันรู้สึก
“เสียดายอย่างสุดขีด” เหมือน ๆ กัน เพราะดิฉันชอบความ cinematic ของหนังสองเรื่องนี้อย่างสุดขีดคลั่งมาก ๆ
แต่ทัศนคติทางการเมืองของหนังสองเรื่องนี้มันเลวร้ายจริง ๆ
ดิฉันก็เลยไม่สามารถชอบหนังสองเรื่องนี้ได้มากเท่าที่ควร
Sunday, December 07, 2025
DUKE 2006
เพิ่งสังเกตว่าผู้กำกับที่เคยเข้าชิงรางวัลดุ๊ก
หรือรางวัล “หนังสารคดียอดเยี่ยม” ในเทศกาลหนังสั้นปี 2006
หลายคนนี่เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่หรือเป็นผู้กำกับที่น่าสนใจมาก ๆ
ผู้กำกับที่เคยเข้าชิงรางวัลหนังสารคดียอดเยี่ยมในปี
2006 รวมถึง
1. Pimsiri Petchnamrob from the film
SPACE ระหว่างเรา
ถ่ายภาพโดย ปุณณวิชญ์ เทศนา
2. Tanatchai Bandasak from the film
NOON พักเที่ยง
3. Nawapol Thamrongrattanarit from the
film SEE
4. Chulayarnnon Siriphol from the film
SLEEPING BEAUTY
5. Panu Aree from the film IN BETWEEN แขก
6. Nontawat Numbenchapol from the film WEIRDROSOPHER WORLD โลกปะราชญ์
7. Vichart Somkaew from the film
SONGKRAN
8. Wanweaw Hongwiwat from the film
SATURDAY NIGHT คืนวันเสาร์
ในบรรดาหนัง 8 เรื่องนี้ เราได้ดูไปแค่ 6 เรื่อง
ยังไม่ได้ดูอยู่ 2 เรื่อง ซึ่งก็คือ SPACE ของคุณ Pimsiri
กับ NOON ของคุณ Tanatchai
+++++++++
ข่าวที่ออกมาในช่วงนี้ทำให้นึกถึงหนัง 4
เรื่องนี้อย่างรุนแรงมาก
1. A USEFUL GHOST (2025, Ratchapoom
Boonbunchachoke)
2. HARA FACTORY WORKERS STRUGGLE การต่อสู้ของกรรมกรหญิงโรงงานฮาร่า
(1975, Jon Ungpakorn, documentary)
3. COUP POUR COUP (1972, Marin Karmitz, France)
4. PROFIT MOTIVE AND THE WHISPERING WIND (2007, John
Gianvito, documentary)
++++
ซื้อปากกาด้ามใหม่ให้ลูกหมีใช้ เป็นปากกาที่มี
10 สีในแท่งเดียวกัน ลูกหมีก็เลยทดลองใช้ปากกานี้เขียนประโยคต่าง ๆ ค่ะ
https://web.facebook.com/photo?fbid=10241510359559232&set=a.10200270702673584
Saturday, December 06, 2025
SIGHT AND SOUND LIST 2025
SIGHT AND SOUND ประกาศ TOP 50 FILMS OF
2025 ออกมาแล้ว งดงามที่สุดดดดดดด ในบรรดาหนัง 50 เรื่องนี้
เราเคยดูแค่ 20 เรื่อง ซึ่งได้แก่
1. April
Dea Kulumbegashvili, Georgia, Italy, France
2. Dry Leaf
Alexandre Koberidze, Germany, Georgia
3. Resurrection
Bi Gan, China, France
4.Misericordia
Alain Guiraudie, France, Spain, Portugal
5.Sorry, Baby
Eva Victor, USA, Spain, France
6. Miroirs No. 3
Christian Petzold, Germany
7. The Love That Remains
Hlynur Pálmason, Iceland, Denmark, Sweden, France
8.One Battle After Another
Paul Thomas Anderson, USA
9.Afternoons of Solitude
Albert Serra, Spain, France, Portugal
10. What Does That Nature Say
to You (Hong Sang-soo, South Korea)
11. Landmarks
Lucrecia Martel, Argentina, USA, Mexico,
France, Netherlands
12. My Father’s Shadow
Akinola Davies Jr., UK, Nigeria
13. Kontinental ’25
Radu Jude, Romania, Brazil, Switzerland, UK, Luxembourg
14. Sirât
Oliver Laxe, Spain, France
15. The Mastermind
Kelly Reichardt, USA, UK
16. Sinners
Ryan Coogler, USA
17. No Other Choice
Park Chan-wook, South Korea
18. Weapons
Zach Cregger, USA
19. The Phoenician Scheme
Wes Anderson, USA
20. 28 Years Later
Danny Boyle, USA, UK
ดูอันดับของ SIGHT AND SOUND ได้ที่
AT THE TOP OF THE MOUNTAIN
DHURANDHAR (2025, Aditya Dhar, India, 3hrs 32mins) เข้าฉายแล้ววันนี้ที่มาบุญครอง หนังเรื่องนี้มีความยาวเพียงแค่ 212
นาทีเท่านั้นเอง
เห็นว่ามีคนจองตั๋วที่นั่งแถวหน้าสุด 2 คนแล้วด้วย อยากรู้ว่าเป็นใคร 55555
+++
แม่หมีจับได้ว่า ลูกหมีแอบซื้อหนังสือ
“ประวัติศาสตร์ที่เพศสร้าง” ของ ชานันท์ ยอดหงษ์ กับ “เดนดาว NEVER DIE” ของจิตจงกล มาอ่าน
++++
Matthew Wilder แห่งนิตยสาร ARTFORUM ได้เผยอันดับ TOP TEN FILM 2025 ของเขาออกมาแล้ว
ซึ่งประกอบด้วย
1. www.RachelOrmont.com (2025, Peter Vack, 83min)
2. Afternoons of Solitude (Albert Serra, Spain)
3. Love (Dag Johan Haugerud, Norway)
4. Eden (Ron Howard)
5. Parthenope (Paolo Sorrentino, Italy)
6. L’empire (Bruno Dumont, France)
7. F1 (Joseph Kosinski)
8. The Shrouds (David Cronenberg)
9. Baby Invasion (Harmony Korine, 80min)
10. Mission: Impossible—The Final Reckoning (Christopher
Mcquarrie)
ใน 10 เรื่องนี้เราได้ดูไปแค่ 6 จาก 10 เรื่อง
ดีใจสุดขีดกับ EDEN และ PARTHENOPE เพราะเราไม่ได้เห็นหนัง
2 เรื่องนี้ติดอันดับประจำปีของคนอื่น ๆ มาก่อน
https://www.artforum.com/lists/matthew-wilder-best-of-film-2025/www-rachelormont-com-peter-vack/
+++
จานประทับใจ (ธีรภัทร์ คำสีสุข,
สุชาวดี สะราคำ, 5.36 นาที,
A+)
ดูหนังเรื่องนี้แล้วทำให้อยากกิน “แกงส้มไข่เจียวใส่กระเจี๊ยบ
สูตรชาวมอญ” แบบในหนัง 55555
IN THE DEEP OF FLAVOR จิตรู้รส (ธนพนธ์
เพ็ญพิมาย / 25.58 นาที, sci-fi, A+30)
ดูหนังเรื่องนี้แล้วทำให้อยากกิน “ผัดหมี่พิมาย”
มาก ๆ
เหมือนหนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลอย่างชัดเจนจากหนังเรื่อง
RIVULET OF UNIVERSE (2024, Possathorn Watcharapanit) ด้วย
JIN LI AI จิน ลี่ ไอ (อัจจิมา ภูเก้าล้วน / 26.33
นาที, queer film, lesbian film, A+25)
AT THE TOP OF THE MOUNTAIN จุดสุดยอด (ศุภณัฐ อัครกรโยธิน / 7.11 นาที, A+30)
หนังเล่าเรื่องของเด็กชายที่แข่งขันเป่าขลุ่ยเพียงออ
ในขณะที่ครูตีฉิ่งฉับไม่หยุด จนนักเรียนบางคนทนไม่ได้ และผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนก็หายตัวไปเรื่อย
ๆ
ชอบความเซอร์เรียลของหนังมาก ๆ คิดว่าจริง ๆ
แล้วหนังเรื่องนี้ฉายควบกับ BATTLE ROYALE (2000, Kinji
Fukasaku, Japan) และ THE LONG WALK (2025, Francis
Lawrence) ได้เลย
GARAGE GANGSTER โจ๋ปล้นโจร (ศิษฏ ศรียาภัย / 27.36 นาที, A+)
ดูแล้วนึกถึงกลุ่มหนังของ Guy Ritchie + พระนครฟิล์ม ซึ่งเป็นกลุ่มหนังที่ไม่เข้าทางเราเท่าไหร่ 55555
แต่ก็ประทับใจที่หนังเรื่องนี้ใช้ “ผู้กำกับภาพยนตร์ที่เก่งกาจ” 3
คนมาเป็นนักแสดงในหนัง ซึ่งได้แก่ Wachara Kanha, Kantapon Duangdee และ Natthaworn Suriyasarn
Friday, December 05, 2025
NATIONAL BOARD OF REVIEW AND INDIEWIRE
ดีใจสุดขีดกับหนังหลาย ๆ เรื่องที่ชนะรางวัลของ National
Board of Review นะคะ โดยเฉพาะ
THE LOVE THAT REMAINS (2025, Hlynur Pálmason, Iceland)
SORRY, BABY (2025, Eva Victor)
SIRAT (2025, Oliver Laxe, Spain)
THE MASTERMIND (2025, Kelly Reichardt)
URCHIN (2025, Harris Dickinson)
SINNERS (2025, Ryan Coogler)
ARCO (2025, Ugo Bienvenu, France, animation)
BRING HER BACK (2025, Danny Philippou, Michael Philippou,
Australia)
F1: THE MOVIE (2025, Joseph Kosinski)
ORWELL: 2+2=5 (2025, Raoul Peck, France/USA)
GOOD BOY (2025, Ben Leonberg)
กราบขอบพระคุณผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ในไทยและ
programmer ของ Bangkok International Film Festival 2025 ที่นำหนังเหล่านี้มาฉายในโรงภาพยนตร์ในไทยในปีนี้ค่ะ ดีใจสุดขีดที่ได้ดู THE
LOVE THAT REMAINS, URCHIN, ARCO, THE MASTERMIND และ ORWELL:
2+2=5 ในโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพใน BKKIFF 2025
+++
INDIEWIRE ประกาศ TOP 25 FILMS OF 2025 ออกมาแล้ว ปรากฏว่าเราได้ดูไปเพียงแค่ 11 จาก 25 เรื่อง ซึ่งในบรรดา 11
เรื่องนี้ ถ้าหากจัดอันดับตามความชอบของเราเองในตอนนี้อาจจะได้ดังนี้
1. APRIL (2024, Dea
Kulumbegashvili, Georgia)
2. RESURRECTION (2025, Bi Gan, China)
3. MISERICORDIA (2024, Alain Guiraudie, France)
4. SORRY, BABY (2025, Eva Victor)
5. ONE BATTLE AFTER ANOTHER (2025, Paul Thomas Anderson)
6. MY FATHER’S SHADOW
(2024, Akinola Davies Jr.)
7. SIRAT (2025, Oliver Laxe, Spain)
8. URCHIN (2025, Harris Dickinson, UK)
9. SINNERS (2025, Ryan Coogler, A+30)
10. 28 YEARS LATER (2025, Danny Boyle, UK, A+25)
11.THE NAKED GUN (2025, Akiva Schaffer, A+)
https://www.indiewire.com/gallery/best-movies-2025/
Thursday, December 04, 2025
A USEFUL GHOST AND M.C. ESCHER
RIND (1955, M.C. Escher)
BOND OF UNION (1956, M.C. Escher)
A USEFUL GHOST (2025) promotional poster in USA
เราชอบ M.C. Escher มาก ๆ
และเราก็เลยเดาว่าโปสเตอร์นี้น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปินสุดโปรดของเรา
พอเมื่อวานเราเขียนเปรียบเทียบโปสเตอร์ในสหรัฐของ
A USEFUL GHOST (2025, Ratchapoom Boonbunchachoke) กับงานศิลปะของ
M.C. Escher วันนี้เราก็เลยมาแปะเล่น ๆ ว่า เราชอบ “ใบหน้า” ในงานศิลปะของศิลปินเหล่านี้มาก
ๆ ตัดสินไม่ได้ว่าใครแรงกว่าใคร
M.C. Escher
Rene Magritte
Salvador Dali
H.R. Giger
Junji Ito
อยากให้มีหนังที่นำเสนอตัวละครแบบในรูปทั้ง 5
รูปนี้มาปะทะกัน
รูปนี้คือ BOND OF UNION (1956, M.C.
Escher)
RAPE (1934, Rene Magritte)
GALATEA OF THE SPHERES (1952, Salvador Dali)
KOOKOO (1981), an album of Debbie Harry, the cover is
designed by H.R. Giger
+++
ตอนช่วงสัปดาห์ที่แล้วเรากะว่าจะซื้อโลชั่นทาแก้ผิวแห้งคัน
เพราะโลชั่นขวดที่มีอยู่กำลังจะหมด แต่วันนี้อากาศร้อน เราก็เลยล้มเลิกแผนนี้
แล้ววันนี้เราก็เลยเปิดแอร์ทั้งวันแทน เดี๋ยวรอดูว่ากลางเดือนนี้มึงจะหนาวจริงไหม
แล้วค่อยตัดสินใจเรื่องซื้อโลชั่น
+++
กรี๊ดดดดดดดดดดดด ดีใจอย่างสุดขีดคลั่งที่ PETER
HUJAR’S DAY (2025, Ira Sachs, A+30) ได้เข้าชิงรางวัล Independent
Spirit Awards ถึง 5 สาขา ซี่งได้แก่สาขา Best
Film, Best Director, Best Lead Performance (Ben Whishaw), Best Supporting
Performance (Rebecca Hall) และ Best Cinematography (Alex
Ashe) ดิฉันขอเชียร์หนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงค่ะ
ชอบหนังเรื่องนี้มาก ๆ เราได้ดูหนังเรื่องนี้ตอนมันมาฉายที่ห้าง ICON SIAM ในวันที่ 4 ก.ย. ในเทศกาลหนัง QUEER กราบขอบพระคุณ
programmer ของเทศกาลที่เลือกหนังเรื่องนี้มาฉายในกรุงเทพมาก ๆ ค่ะ โอ๊ย
ดีใจที่สุดของที่สุด
และก็ดีใจกับหนังเรื่องอื่น ๆ
ที่เราเคยดูที่ได้เข้าชิงรางวัล INDEPENDENT SPIRIT ประจำปีนี้ด้วย
ทั้ง “SORRY, BABY” (2025, Eva Victor), TWINLESS (2025, James Sweeney),
BLUE SUN PALACE (2024, Constance Tsang), WARFARE (2025, Alex Garland, Ray
Mendoza), THE LONG WALK (2025, Francis Lawrence), SIRAT (2025, Oliver Laxe,
Spain), HAPPYEND (2024, Neo Sora, Japan)
SORRY, BABY ได้เข้าชิง 4 สาขา และ BLUE
SUN PALACE ได้เข้าชิง 4 สาขาเหมือนกัน BLUE SUN PALACE เคยเข้ามาฉายในเทศกาล World Film Festival of Bangkok ที่ Central World ในเดือนพ.ย.ปี 2024
++++
TV-SERIES WISH LIST
CALL ME A BAD GIRL (1984, Japanese TV series, 24 episodes) เป็นละครทีวีที่เคยมาฉายทางช่อง 5 ตอนที่เราเด็ก ๆ
แต่ตอนนั้นเราไม่ได้ตามดูเพราะเราไม่มีเวลา อย่างไรก็ดี เราอยากดูละครทีวีเรื่องนี้อย่างรุนแรงมาก
เพราะมันเป็นละครทีวีเกี่ยวกับกลุ่มสาว ๆ ที่ตบกันแหลกในโรงเรียนดัดสันดาน
และนางเอกต้องตบกับ “เจ้าแม่แห่งโรงเรียนดัดสันดาน” ที่มีสมญานามว่า “โมนา ลิซ่า” ถ้าหากเราจำไม่ผิด ละครทีวีเรื่องนี้นำแสดงโดย
ไมโกะ อีโต้ ที่โด่งดังมาก ๆ ในยุคนั้น
อยากดู CALL ME A BAD GIRL อย่างรุนแรงที่สุด ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้จะหาละครทีวีเรื่องนี้ดูได้อีกที่ไหน
คือเห็น “การทำหน้าทำตา”
ของตัวละครหญิงแต่ละตัวในคลิปละครทีวีนี้ในยูทูบก็รู้ว่า ถ้าหากเราได้ดูละครเรื่องนี้กับเพื่อน
ๆ มันต้องมีการ role play กันไม่หยุดอย่างแน่นอน 55555
(ลิงค์อยู่ในคอมเมนท์)
https://youtu.be/YnGkNb7jpvA?si=xQVhib40hYLTP_wq