อ่านกระทู้เดิมที่น้อง merveillesxx เป็นคนตั้งไว้ได้ที่
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=19170
จริงๆแล้วดิฉันก็อยากเขียนถึงอะไรอีกมากในเทศกาลหนังยุโรปกับเทศกาลหนังฝรั่งเศสเหมือนกันค่ะ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้มีโอกาสเขียน เพราะไม่มีเวลาว่างสักเท่าไหร่ และตอนนี้ความทรงจำที่มีต่อหนังเรื่องต่างๆก็เริ่มเลือนๆไปแล้วด้วย น่าเสียดายจังเลย
อยากจะมีเวลาว่างเยอะๆ จะได้มีเวลาดูวิดีโอที่ดองไว้นานแล้ว และจะได้มีเวลาเขียนบันทึกถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อหนังและวิดีโอต่างๆที่ได้ดู
ตั้งแต่หมดเวลาไปกับเทศกาลหนังยุโรปในช่วงปลายเดือนพ.ค.เป็นต้นมา ตารางเวลาในชีวิตของดิฉันก็รวนไปหมด ดิฉันไม่ได้กวาดห้องมาประมาณเดือนนึงแล้ว เพิ่งจะได้ฤกษ์กวาดห้องไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
เคยดูหนังฮ่องกงเรื่องนึงชื่อ CROSS HARBOUR TUNNEL (1999, LAWRENCE WONG, A+) เป็นหนังที่อยากดูอีกรอบอย่างมากๆเช่นกัน หนังเรื่องนี้ประกอบด้วยหนังสั้นประมาณ 3-4 เรื่อง และจะชอบสองเรื่องหลังมาก
http://www.imdb.com/title/tt0249458/
ถ้าจำไม่ผิด หนังสั้นเรื่องนึงใน CROSS HARBOUR TUNNEL เล่าเรื่องของชายหนุ่มคนนึงที่เกิดได้กุญแจเข้าไปในห้องหญิงสาวคนนึงโดยบังเอิญ เขาได้แอบอ่านไดอารี่ของหญิงสาวคนนี้และตกหลุมรักหญิงสาวคนนี้ แต่ต่อมา เขากลับรู้ความจริงว่า เจ้าของห้องและเจ้าของไดอารี่ที่เขาตกหลุมรักนั้น ที่จริงแล้ว “เป็นผู้ชาย” แต่เขาก็ยังคงรักเจ้าของห้องคนนี้ต่อไป (ไม่แน่ใจว่าเข้าใจหนังเรื่องนี้ถูกหรือเปล่า เพราะได้ดูเพียงรอบเดียวเท่านั้น”
ส่วนหนังสั้นอีกเรื่องใน CROSS HARBOUR TUNNEL เล่าเรื่องของสองสาวฟิลิปปินส์ที่มาแย่งผัวกันในฮ่องกง ตัวละครสองสาว (จริงๆแล้วคนนึงเป็นคุณป้าวัยกลางคน) ด่ากันหูดับตับไหม้เป็นภาษาฟิลิปปินส์โดยไม่มีซับไตเติลใดๆทั้งสิ้น แต่ดูแล้วหัวเราะจนสุดชีวิต เพราะถึงแม้ไม่มีซับไตเติล ดูลีลาชี้หน้าด่าทอ ดูการรัวลิ้น ฟัง intonation การออกเสียงด่ากันของพวกเธอก็พอจะเข้าใจอารมณ์ได้แล้ว
ช่วงที่ดิฉันหัวเราะมากที่สุดคือช่วง ม. 4 ค่ะ จำได้ว่ามีวันนึงหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลังในช่วงเที่ยง แต่พอช่วงเย็นกลับมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อน หลังจากนั้นพอตัวเองจะหัวเราะทีไร ก็จะพลอยนึกไปถึงเรื่องที่ทะเลาะกับเพื่อนในวันนั้น ก็เลยทำให้ไม่สามารถหัวเราะอย่างเป็นบ้าเป็นหลังได้อีกต่อไป คิดว่าเหตุการณ์ในวันนั้นคงเข้าข่าย “หลังจากวันนั้นแล้ว ชีวิตของดิฉันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” และคงถือเป็นวันที่ตัวเองมีการ COMING OF AGE หรือเติบโตเรียนรู้ชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกระดับนึง
อ้อ แต่จริงๆแล้วตอนช่วงปี 1992-1993 ก็เคยมีเหตุการณ์หัวเราะที่จำได้ดีอีกครั้งนึง เพราะในวันนั้นดิฉันกับเพื่อนๆดูรูปผู้ชายหล่อๆคนนึงที่เรียนสถาปัตย์จุฬา คุยกับเพื่อนอย่างสนุกมากและหัวเราะอย่างรุนแรง หัวเราะจนกระทั่งโรคไส้เลื่อนกำเริบ (คงเพราะการหัวเราะก่อให้เกิดแรงกดดันบริเวณช่องท้อง) ก็เลยจำได้ดีว่าการหัวเราะก็สร้างความเจ็บปวดต่อร่างกายอย่างรุนแรงได้เช่นกัน
ชอบเพลง WIND BENEATH MY WINGS เวอร์ชันของเบทท์ มิดเลอร์อย่างสุดๆเลยค่ะ อีกเพลงนึงของเธอที่ชอบมากๆคือเพลง FROM A DISTANCE
ตอนนี้อยากดูดีวีดีหนังเรื่อง ADVISE AND CONSENT (1962) ที่ OTTO PREMINGER กำกับมากค่ะ เพราะหนังการเมืองเรื่องนี้พูดถึงวุฒิสมาชิกที่เป็นเกย์ด้วย หนังเรื่องนี้อาจจะนำเสนอตัวละครเกย์ในแง่ไม่สวยงามเท่าใดนัก แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในหนังฮอลลีวู้ดไม่กี่เรื่องในยุคนั้นที่มีฉากบาร์เกย์และมีตัวละครเป็นวุฒิสมาชิกเกย์
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0007TKNGK/qid=1120840566/sr=1-1/ref=sr_1_1/103-6125393-6503813?v=glance&s=dvd
ดูรูปของ DON MURRAY ที่รับบทเป็นวุฒิสมาชิกเกย์ใน ADVISE AND CONSENT ได้ที่
http://www.autogrammpool.de/Autogramme/don%20murray.JPG
http://www.imdb.com/gallery/mptv/1307/Mptv/1307/2577_0013.jpg?path=pgallery&path_key=Murray,%20Don%20(I)
http://www.imdb.com/gallery/mptv/1307/Mptv/1307/2577_0017.jpg?path=pgallery&path_key=Murray,%20Don%20(I)
เนื่องจากพล็อตเรื่องของ ADVISE AND CONSENT ค่อนข้างซับซ้อน ตัวละครนักการเมืองแต่ละตัวใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบายตบกันไปตบกันมา (คิดว่า “การเมือง” ในประเทศไหนๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็คงจะมีอะไรซับซ้อนยอกย้อนซ่อนเงื่อนทำนองนี้เหมือนกัน) ดิฉันก็เลยรู้สึกขี้เกียจสรุปพล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้ ถ้าหากใครสนใจพล็อตของหนังเรื่องนี้ก็เข้าไปอ่านที่ imdb.com แล้วกันนะคะ
http://www.imdb.com/title/tt0055728/
ADVISE AND CONSENT เพิ่งได้รับการผลิตออกขายเป็นดีวีดีในสหรัฐในวันที่ 10 พ.ค.ในแพคเกจ CONTROVERSIAL CLASSICS ค่ะ โดยขายพร้อมกับดีวีดีหนังน่าดูอีก 6 เรื่อง ซึ่งก็คือ
1.BAD DAY AT BLACK ROCK (1954, JOHN STURGES)
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0007TKNH4/ref=pd_bxgy_text_1/103-6125393-6503813?v=glance&s=dvd&st=*
หนังทริลเลอร์เรื่องนี้นำแสดงโดยสเปนเซอร์ เทรซีในบทของทหารผ่านศึกแขนเดียวที่ลงจากรถไฟและพบกับเมืองกลางทะเลทรายเมืองหนึ่งที่เต็มไปด้วยชาวเมืองนิสัยก้าวร้าวที่ปกปิดความลับบางอย่างเอาไว้ จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือฝีมือการถ่ายภาพของ WILLIAM C MELLOR
ในขณะที่ ADVISE AND CONSENT นำเสนอประเด็นทางการเมืองที่ CONTROVERSIAL ดิฉันเดาว่าการที่ BAD DAY AT BLACK ROCK จัดอยู่ในกลุ่ม controversial classics ด้วยนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังฮอลลีวู้ดเรื่องแรกที่พูดถึงการที่สหรัฐปฏิบัติอย่างเลวร้ายต่อพลเมืองชาวญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
2.BLACKBOARD JUNGLE (1955, RICHARD BROOKS)
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0007TKNHE/qid=1120844456/sr=1-1/ref=sr_1_1/103-6125393-6503813?v=glance&s=dvd
หนังเรื่องนี้นำแสดงโดยเกลน ฟอร์ด ในบทของครูที่พยายามชนะใจเด็กนักเรียนเหลือขอในนิวยอร์ค โดยมีวิค มอร์โรว์รับบทเป็นหนุ่มอันธพาล และมีซิดนีย์ ปอยเตียร์ร่วมแสดงด้วย ส่วนเพลงประกอบเครดิตหนังเรื่องนี้คือเพลง ROCK AROUND THE CLOCK
หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยายของ EVAN HUNTER ซึ่งต่อมาได้เขียนบทหนังเรื่อง THE BIRDS (1963, ALFRED HITCHCOCK, A) และเขาเพิ่งเสียชีวิตเมื่อวันพุธที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมาขณะอายุ 80 กว่าปี
ดูรูปของ VIC MORROW ได้ที่
http://www.shop4photos.net/graphics/259/259536.jpg
3.I AM A FUGITIVE FROM A CHAIN GANG (1932, MERVYN LEROY)
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0007TKNJ2/qid=1120844427/sr=1-1/ref=sr_1_1/103-6125393-6503813?v=glance&s=dvd
พอล มูนิรับบทเป็นผู้ชายธรรมดาที่กลายเป็นแพะในคดีฆาตกรรม เขาถูกจับเข้าคุกและต้องใช้ชีวิตอย่างทรมานแสนสาหัส หลังจากนั้นเขาก็หนีออกจากคุกมาได้และประสบความสำเร็จในการทำงานเป็นวิศวกรโยธา แต่หลังจากนั้นความลับก็ถูกเปิดเผยและเขาก็ถูกจับเข้าคุกอีกครั้ง
4.A FACE IN THE CROWD (1957, ELIA KAZAN)
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0007TKNHO/qid=1120843597/sr=1-1/ref=sr_1_1/103-6125393-6503813?v=glance&s=dvd
แพทริเซีย นีล รับบทเป็นผู้อำนวยการสร้างรายการวิทยุที่ค้นพบความสามารถทางดนตรีและทางปรัชญาของแอนดี้ กริฟฟิธขณะอยู่ในคุกในรัฐอาร์คันซอส์ เธอช่วยให้เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงในวงการโทรทัศน์ แต่หารู้ไม่ว่าเขาไม่ใช่คนดีอย่างที่คิด เพราะเมื่อเขาโด่งดังจนได้พบกับนักการเมืองระดับสูง เขาก็ได้เปลี่ยนจากนักร้องธรรมดามาเป็นนักร้องผู้ชั่วร้ายและบ้าอำนาจ และเขาก็มีส่วนช่วยเหลือนักการเมืองเลวๆให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง
5.THE AMERICANIZATION OF EMILY (1964, ARTHUR HILLER)
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0007TKNGU/qid=1120844392/sr=1-1/ref=sr_1_1/103-6125393-6503813?v=glance&s=dvd
หนังตลกร้ายเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับแม่ม่ายสงครามชาวอังกฤษ (จูลี แอนดรูว์ส) ที่ตกหลุมรักทหารเรือขี้ขลาด (เจมส์ การ์เนอร์) และต่อมาทหารเรือคนนี้ก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชายคนแรกที่จะเสียชีวิตเมื่อทหารสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดี
6.FURY (1936, FRITZ LANG) อำนวยการสร้างโดย JOSEPH L. MANKIEWICZ
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0007TKNHY/qid=1120844282/sr=1-9/ref=sr_1_9/103-6125393-6503813?v=glance&s=dvd
หนังเรื่องนี้เป็นหนังอเมริกันเรื่องแรกของฟริทซ์ ลัง (M) และมีสเปนเซอร์ เทรซีรับบทเป็นผู้ชายที่ถูกกล่าวหาว่าก่อคดีลักพาตัว เขาไม่ได้ทำผิด แต่ประชาชนก็โกรธแค้นเขามากและพยายามจะบุกเข้ามารุมฆ่าเขา
ช่วง 4 วันที่ผ่านมาได้ดูหนังเรื่อง
1.THE LAZARUS CHILD (2004, GRAHAM THEAKSTON, A+)
รู้สึกหนังเรื่องนี้มีข้อบกพร่อง หรือมีอะไรเว้าๆแหว่งๆ ขาดๆเกินๆ พล็อตเรื่องมีบางอย่างไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แถมยังมีบางจุดในหนังที่ซ้ำซากเหมือนหนังเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง แต่สิ่งที่ชอบมากในหนังเรื่องนี้คือการแสดงของ ANGELA BASSETT หนังเรื่องนี้อาจจะเป็นหนังที่อุดมไปด้วยข้อบกพร่องมากมาย แต่ก็เป็นหนังที่ทำให้ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งไปกับมันอย่างมากๆ (ถึงแม้มันจะซ้ำซาก)
ดิฉันรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มีบางจุดคล้ายกับ THE CELL (2000, TARSEM SINGH, A-) และก็รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เหมือนกับเป็นเหรียญเดียวกับ THE CELL เพียงแต่อยู่คนละด้านกัน เพราะดิฉันรู้สึกว่า THE CELL มี “สไตล์” ที่สุดยอด แต่ขาดแคลน “หัวใจ” ในขณะที่ THE LAZARUS CHILD อาจจะขาดแคลนในเรื่องของ “สไตล์” แต่ “หัวใจ” อารมณ์ และความรู้สึกของหนังทำให้ดิฉันซาบซึ้งไปกับมันอย่างมากๆ
GERALDINE MCEWAN ดาราหญิงวัยชราที่ดิฉันชอบมากๆร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย เธอเกิดปี 1932 และตอนนี้เธอกำลังแสดงเป็นคุณยายยอดนักสืบ “มิส เจน มาร์เปิล” ในรายการโทรทัศน์
http://www.imdb.com/name/nm0568603/
ผลงานการแสดงของ GERALDINE MCEWAN รวมถึง
1.1 THE PRIME OF MISS JEAN BRODIE: TV SERIES (1978, A+)
http://www.imdb.com/title/tt0159199/
1.2 THE LOVE LETTER (1999, PETER CHAN, A+)
http://www.imdb.com/title/tt0166252/
1.3 FOOD OF LOVE (2002, VENTURA PONS, A)
1.4 VANITY FAIR (2004, MIRA NAIR, A) เธอขโมยซีนอย่างรุนแรงมากในเรื่องนี้
1.5 LOVE’S LABOUR’S LOST (2000, B)
2.FANTASTIC FOUR (2005, TIM STORY, B+)
3.TORA-SAN: HEARTS AND FLOWERS FOR TORA (1982, YOJI YAMADA, B)
4.TORA-SAN: TORA-SAN GOES RELIGIOUS (1983, YOJI YAMADA, B)
Saturday, July 09, 2005
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment