Sunday, July 31, 2005

PLAYGIRL (MICHAEL SHAOWANASAI, A+)

STEVEN GERRARD

http://www.robbiekeanecentral.com/gerrard/images/040401airport.jpg

http://www.robbiekeanecentral.com/gerrard/images/uefacup.jpg

http://www.bbc.co.uk/liverpool/content/images/2005/01/05/ecard_lfc_gerrard_main_240x350.jpg

http://www.robbiekeanecentral.com/gerrard/images/englandtraining.jpg


FRANK LAMPARD

http://web5.vs248007.vserver.de/lamp/lamp-40515.jpg

http://www.chelseathailand.com/images/lampard.jpg

http://www.englandfc.com/Profiles/images/ProfileImages/FrankLampard180x180.jpg


ALAN SMITH

http://gfx.dagbladet.no/sport/2004/05/21/smith02.jpg

http://www.malestarfeet.com/fmales/alan/alan-4-02-08f.jpg


ROBIN VANPERSIE

http://members.lycos.nl/vanpersie22/VanPersie11.jpg

http://gfx.dagbladet.no/sport/2004/08/06/vanpersie.jpg

http://members.lycos.nl/vanpersie22/RobinenSaid.jpg


FREDRIK LJUNGBERG

http://www.southcn.com/sports/gossip/sexyman/ljungberg/200401020526_531753.jpg


JOSE MOURINHO

http://monkeytamer.blogsome.com/uploads/monkeytamer/mourinho_cover.jpg

http://www.givemefootball.com/images/mourinho_jose_bi.jpg

รูปของนักแสดงในวัยอลวน 4

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3637024/A3637024-2.jpg

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3637024/A3637024-1.jpg

เพื่อนคนนึงที่เรียนด้านรัฐศาสตร์ เล่าว่ามีอาจารย์คนนึงตอนเข้ามาสอนในชั่วโมงแรก เขาเขียนคำคำนึงบนกระดาน ดิฉันจำไม่ได้แล้วว่าเป็นคำว่าอะไร แล้วเขาก็บอกว่าถ้าหากนักเรียนคนไหนตอบถูกว่าคำที่เขาเขียนผิดตรงไหน นักเรียนคนนั้นจะได้เกรด A ไปเลยโดยไม่ต้องเรียนไม่ต้องสอบในวิชานี้ นักเรียนก็ไม่ตอบกัน เพราะคำคำนั้นก็ไม่ได้สะกดผิดตรงไหน แต่มีนิสิตชายคนหนึ่งกล้าตอบไปตามความจริงว่า คำคำนั้นเขียนผิดเพียงเพราะตัวอักษร i หรือ j (ดิฉันจำไม่ได้แล้ว) ที่อาจารย์เขียนบนกระดาน ไม่มี “จุด” อยู่ข้างบน ปรากฏว่านิสิตชายคนนั้นก็เลยได้เกรด A ไปเลย อย่างไรก็ดี ถึงแม้นิสิตชายคนนั้นจะได้เกรด A ไปแล้ว เขาก็ยังคงมาเข้าห้องเรียนในเวลาต่อมาอยู่ดี

เพื่อนดิฉันเล่าอีกด้วยว่าอาจารย์ชายคนนั้นเคยมีเรื่องด่าทอกับอาจารย์หญิงคนหนึ่งในคณะ ด่าทอกันอย่างรุนแรงมากจนอาจารย์หญิงคนนั้นปัสสาวะราดออกมากลางห้องพักอาจารย์ (ดิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ก็ถือเป็นเรื่องเล่าที่ประทับใจมากเรื่องนึง)

หนังที่ได้ดูเมื่อวานนี้

1.PLAYGIRL (2005, MICHAEL SHAOWANASAI, A+)
วิดีโอสั้นเรื่องนี้ฉายที่ PLAYGROUND ซอยทองหล่อ
2.EARTHCORE (A+)
3.LIFE SHOW (2005, THUNSKA PANSITTIVORAKUL, A+)
4.ONE DAY… (2001, MICHEL GONDRY, A)
http://www.imdb.com/title/tt0393556/

ทั้ง PLAYGIRL, EARTHCORE และ LIFE SHOW มีแง่มุมเกี่ยวกับเกย์ค่ะ

ได้ดู THE LONGEST YARD (B) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับคุกชายแล้ว ก็เลยนึกถึงหนังเกี่ยวกับคุกชายอีกหลายเรื่องที่ได้ดูค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะพูดถึงความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างชายกับชายด้วยกันในคุก

หนังกลุ่มนี้รวมถึง

1.KISS OF THE SPIDER WOMAN (1985, HECTOR BABENCO, A+)

2.THE SHAWSHANK REDEMPTION (1994, FRANK DARABONT, A+)

3.MIDNIGHT EXPRESS (1978, ALAN PARKER, A+/A)

4.DEATH WARRANT (1990, DERAN SARAFIAN, A-)
http://www.imdb.com/title/tt0099385/

JEAN-CLAUDE VAN DAMME ในเรื่องนี้หล่อเซ็กซี่ถูกใจดิฉันมากๆๆๆเลยค่ะ

5.AN INNOCENT MAN (1989, PETER YATES, A-/B+)
http://www.imdb.com/title/tt0097579/

6. นช.นักโทษชาย (B+)

7.CARANDIRU (2003, HECTOR BABENCO, B+)
http://www.imdb.com/title/tt0293007/

ส่วนหนังเกี่ยวกับคุกชายที่อยากดู ก็รวมถึงหนังอิตาลีเรื่อง WHY? เพราะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มีฉากข่มขืนระหว่างชายกับชาย


WHY? (DETENUTO IN ATTESA DI GUIDIZIO) (1971, NANNI LOY)

หนังเรื่องนี้ตั้งใจจะประณามระบบยุติธรรมในอิตาลีที่ไร้มนุษยธรรมและเต็มไปด้วยความฉ้อฉลจนไม่อาจจะแก้ไขได้ โดยในเรื่องนี้ ALBERTO SORDI ดาวตลกชื่อดังชาวอิตาลีรับบทเป็น Guiseppe Di Noi วิศวกรที่ไปทำงานต่างประเทศ เขากลับมาเยี่ยมอิตาลีในช่วงวันหยุดพร้อมกับพาภรรยาชาวสวีเดนกับลูกๆมาด้วย แต่อยู่ดีๆเขาก็ถูกจับกุมโดยไม่มีเหตุผล

จูเซปเปถูกส่งตัวจากคุกหนึ่งไปสู่อีกคุกหนึ่งและเผชิญกับกระบวนการยุติธรรมที่แปลกประหลาด เขากังวลกับปัญหามากจนกระทั่งเขาถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลสำหรับอาชญากรโรคจิตก่อนที่เขาจะได้ขึ้นศาล

หนังเรื่องนี้มีลักษณะเหมือนหนังตลกของฮอลลีวู้ด และการแสดงของ SORDI ในเรื่องนี้ก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีโทนอารมณ์แตกต่างไปจากหนังเรื่อง THE TRIAL ที่สร้างจากบทประพันธ์ของฟรานซ์ คาฟกา ซึ่งพูดถึงผู้ชายที่ถูกจับกุมโดยไม่มีสาเหตุเหมือนกัน

จุดที่เด่นมากๆในเรื่องนี้คือฉากข่มขืนแบบโฮโมเซ็กชวล, บทของผู้ว่าการเรือนจำ, การนำเสนอความน่าเบื่อหน่ายและความรู้สึกไม่สบายขณะนั่งรถไฟเป็นเวลานาน และความรู้สึกอับอายขณะถ่ายอุจจาระต่อหน้าสายตาของคนอื่นๆ

ข้อมูลของ NANNI LOY ผู้กำกับหนังเรื่องนี้
http://www.imdb.com/name/nm0523439/
http://railibro.lacab.it/emma/zoom.phtml?ns=1737

WHY?
http://www.imdb.com/title/tt0066988/
http://www.bloopers.it/images/locandine/bloopers3675.jpg

ถ้าหากพูดถึงหนังเกี่ยวกับความฉ้อฉลในอิตาลีในยุคเดียวกับ WHY? (1971) แล้ว ดิฉันจะนึกถึงหนังอีกเรื่องนึงด้วยค่ะ นั่นก็คือเรื่อง INVESTIGATION OF A CITIZEN ABOVE SUSPICION (1969, ELIO PETRI, A/A-) ที่เพิ่งมาฉายที่ธรรมศาสตร์ และนำแสดงโดย GIAN MARIA VOLONTE ดาราหนุ่มชาวอิตาลีที่ดิฉันชอบมากๆ

ตัวละครเอกของ INVESTIGATION OF A CITIZEN ABOVE SUSPICION
คือตำรวจยศสูงที่ไม่มีการระบุชื่อในเรื่อง ตำรวจคนนี้เป็นโรคจิตและเป็นตัวละครประเภทแอนตี้ฮีโร่ เขาเป็นสัญลักษณ์ของแนวคิดแบบฟาสต์ซิสต์ โดยเขา, ผู้ช่วย และสายข่าวของเขาเน้นการปราบปรามผู้นับถือลัทธิคอมมิวนิสต์แนวเหมาเจ๋อตุง, เกย์ และนักศึกษาหัวรุนแรง

Investigation of a Citizen Above Suspicion เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในอิตาลี และเป็นต้นกำเนิดของกระแสภาพยนตร์การเมืองในอิตาลีในทศวรรษ 1970

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ INVESTIGATION OF A CITIZEN ABOVE SUSPICION ได้ที่
http://bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=1471

เว็บไซท์ของ GIAN MARIA VOLONTE
http://thanitart.com/gianmaria/

รูปของ GIAN MARIA VOLONTE จากหนังเรื่อง FOR A FEW DOLLARS MORE (1965, SERGIO LEONE)
http://www.americanphoto.co.jp/pages/eiga/YU/Previews/Plans-34281.jpg


นอกจาก WHY? แล้ว หนังเกี่ยวกับคุกชายที่อยากดูมากๆยังรวมถึง

1.DOING TIME, DOING VIPASSANA (1997, EILONA ARIEL + AYELET MENAHEMI)
http://www.brightlightsfilm.com/44/caps.htm

หนังสารคดีเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าการสอน “วิปัสสนา” ให้กับนักโทษในคุกส่งผลดีแก่นักโทษเป็นอย่างมาก


2.TURNED OUT: SEXUAL ASSAULT BEHIND BARS (2004, JONATHAN SCHWARTZ)
http://www.brightlightsfilm.com/47/stabs.htm

หนังสารคดีเรื่องนี้สำรวจพฤติกรรมการข่มขืนในกลุ่มนักโทษชาย

3.DOING TIME (2002, YOICHI SAI) หนังญี่ปุ่นที่นำเสนอชีวิตประจำวันของนักโทษ
http://www.imdb.com/title/tt0340195/

YOICHI SAI กำกับหนังเรื่อง BLOOD AND BONES (2004, A/A-) ที่เพิ่งเข้ามาฉายที่ HOUSE RCA
http://www.imdb.com/name/nm0756406/


4.RIKERS HIGH (2005, VICTOR BUHLER)
http://www.tribecafilmfestival.org/tixSYS/filmguide/images/filmstills/1322.jpg
http://www.imdb.com/title/tt0437454/

หนังสารคดีเรื่องนี้พูดถึงชีวิตเด็กหนุ่มในสถานดัดสันดานแห่งหนึ่งในสหรัฐ


นอกจาก THE TRIAL ของคาฟกา และ WHY? แล้ว หนังที่พูดถึงกระบวนการยุติธรรมที่ยอกย้อนสับสนอีกเรื่องหนึ่งก็คือหนังสารคดีเรื่องTHE JAUNDICED EYE (1999, NONNY DE LA PENA) ที่เล่าเรื่องจริงของพ่อกับปู่ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกอย่างผิดๆในข้อหาลวนลามลูกชายของตัวเอง
http://www.imdb.com/title/tt0218359/

STEPHEN MATTHEWS เคยแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งและมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน แต่เมื่อเขาค้นพบว่าที่จริงแล้วตัวเองเป็นเกย์ เขาก็เลยแยกทางจากภรรยา อย่างไรก็ดี ต่อมาภรรยาเก่าของเขากับแฟนหนุ่มคนใหม่ของเธอก็ยุยงให้ลูกชายวัย 5 ขวบของสตีเฟนฟ้องร้องศาลว่าสตีเฟนลวนลามเขา นอกจากนี้ พ่อของสตีเฟนก็ถูกจับกุมในข้อหาลวนลามหลานชายตัวเองด้วย สตีเฟนกับพ่อถูกศาลตัดสินจำคุก 35 ปีทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆว่าทั้งสองกระทำผิดนอกจากคำให้การของลูกชายเท่านั้น

สตีเฟนถูกข่มขืนขณะอยู่ในคุก แต่ในเวลาต่อมาเขาก็สามารถต่อสู้คดีจนหลุดออกมาจากคุกได้
http://www.brightlightsfilm.com/31/jaundicedeye.html

ดีวีดีหนังเรื่อง THE JAUNDICED EYE มีขายแล้วที่สหรัฐ หนังเรื่องนี้เหมาะดูควบกับCAPTURING THE FRIEDMANS (2003, ANDREW JARECKI, A+) เป็นอย่างมาก

http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B00006LPH1/ref=ase_imdb-adbox/002-8038210-3111243?v=glance&s=dvd

http://images.amazon.com/images/P/B00006LPH1.01.LZZZZZZZ.jpg


นอกจาก THE JAUNDICED EYE แล้ว ดีวีดีหนังสารคดีเกย์ที่น่าดูสุดๆในตอนนี้ก็คือดีวีดีหนังไตรภาคสารคดีเกย์ของ ARTHUR DONG ค่ะ หนังไตรภาคชุดนี้มีชื่อว่า STORIES FROM THE WAR ON HOMOSEXUALITY ซึ่งประกอบด้วยเรื่อง

1.LICENSED TO KILL (1997) หนังเรื่องนี้ติดตามสัมภาษณ์ฆาตกรหลายคนที่ฆ่าเกย์เพราะความเกลียดชัง

อาร์เธอร์ ดองเปิดเผยในเว็บไซท์ nitrateonline.com ว่าสาเหตุที่เขากำกับภาพยนตร์เรื่อง Licensed to Kill เป็นเพราะเขากับเพื่อนเคยถูกวัยรุ่น 4 คนรุมทำร้ายในเดือนพ.ค.ปี 1977 โดยในตอนนั้นเขากับเพื่อนเพียงแค่เดินไปตามถนนโดยไม่ได้จับมือกันและไม่ได้แต่งตัวพิสดาร แต่ก็ถูกวัยรุ่นกลุ่มนี้ทำร้ายและด่าว่าเป็นเกย์ โดยวัยรุ่นกลุ่มนี้ยังทำร้ายพระอีกรูปหนึ่งด้วย และดองก็ได้พบกับพระรูปนี้อีกครั้งในเวลา 20 ปีต่อมาเมื่อเขาตัดสินใจค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนั้น ดองกล่าวว่าเขาเริ่มสร้างภาพยนตร์เรื่องแรกในปี 1970 และเชื่อว่าสื่อสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงสังคมและแก้ไขปัญหาของสังคม

http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0009PW3QU/qid=1122790707/sr=1-3/ref=sr_1_3/002-8038210-3111243?v=glance&s=dvd

http://images.amazon.com/images/P/B0009PW3QU.01.LZZZZZZZ.jpg

LICENSED TO KILL เหมาะดูควบกับ THE LARAMIE PROJECT (2002, MOISES KAUFMAN)
http://www.imdb.com/title/tt0257850/


2.COMING OUT UNDER FIRE (1994) หนังเรื่องนี้พูดถึงการที่กองทหารสหรัฐปฏิบัติต่อเกย์และเลสเบียนอย่างเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงระหว่างและหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0009PW3QK/qid=1122790707/sr=1-4/ref=sr_1_4/002-8038210-3111243?v=glance&s=dvd

http://images.amazon.com/images/P/B0009PW3QK.01.LZZZZZZZ.jpg

COMING OUT UNDER FIRE เหมาะดูควบกับ SOLDIER’S GIRL (2003, FRANK PIERSON) อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ SOLDIER’S GIRL ได้ที่
http://bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=7131


3.FAMILY FUNDAMENTALS (2002)
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0009PW3QA/qid=1122790707/sr=1-2/ref=sr_1_2/002-8038210-3111243?v=glance&s=dvd

อ่านข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ได้ที่
http://bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=4118

FAMILY FUNDAMENTALS เหมาะดูควบกับหนังสารคดีเรื่อง GAY REPUBICANS (2004, WASH WESTMORELAND) เพราะทั้งสองเรื่องนี้พูดถึงเกย์ที่ทำงานให้พรรครีพับลิกันทั้งๆที่ปธน.บุชต่อต้านการแต่งงานของเกย์
http://www.imdb.com/title/tt0430131/


ข้อมูลของ ARTHUR DONG
http://www.imdb.com/name/nm0232472/

ARTHUR DONG เป็นผู้กำกับหนังเกย์เชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน เหมือน GREGG ARAKI แต่ดองถนัดหนังสารคดี ส่วนอารากิถนัดหนังเรื่องแต่ง

นอกจากสองคนนี้แล้ว ผู้กำกับหนังเชื้อสายเอเชียที่น่าสนใจสุดๆอีกสองคนในอเมริกาก็คือ

1.TRINH T. MINH-HA
http://www.imdb.com/name/nm0872954/
http://www.trinhminh-ha.com/
http://www.wmm.com/Catalog/_makers/fm5.htm

เธอเป็นผู้กำกับหญิงชาวเวียดนามที่อพยพมาสหรัฐ หนังดังของเธอก็คือ SURNAME VIET GIVEN NAME NAM (1989) ที่พูดถึงตัวตนของผู้หญิงเวียดนาม

ที่ห้องสมุดธรรมศาสตร์มีตำราภาพยนตร์เล่มโตชื่อ FRAMER FRAMED ที่เขียนโดยเธอ แต่ดิฉันยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ

FRAMER FRAMED
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/0415905621/qid=1122794636/sr=8-10/ref=sr_8_xs_ap_i10_xgl14/002-8038210-3111243?v=glance&s=books&n=507846


อ่านบทความของ TRINH T. MINH-HA ได้ที่
http://humwww.ucsc.edu/CultStudies/PUBS/Inscriptions/vol_3-4/minh-ha.html


2.JON MORITSUGU
http://www.imdb.com/name/nm0605748/
http://www.jonmoritsugu.com/

ผู้กำกับตัวแสบคนนี้เคยมีหนังเรื่อง FAME WHORE (1997, A) เข้ามาเปิดฉายในกรุงเทพในปี 1998 ซึ่งเป็นหนังที่แบ่งเป็นเรื่องย่อยๆ 3 เรื่อง และเป็นหนังที่ฮาสุดๆ
http://jonmoritsugu.com/films/fame_whore//images/stills/13.jpg

รูปจากหนังของ JON MORITSUGU

SCUMROCK (2003)
http://jonmoritsugu.com/films/scumrock/closeup.php?still=10

MOD F*** EXPLOSION (1994)

TERMINAL, USA (1993)
http://jonmoritsugu.com/films/terminal_usa//images/stills/14.jpg

HIPPY PORN (1991)
http://jonmoritsugu.com/films/hippy_porn//images/stills/1.jpg

MY DEGENERATION (1989)
http://jonmoritsugu.com/films/my_deg//images/stills/7.jpg


นอกจาก MYSTERIOUS SKIN ของ GREGG ARAKI ที่กลับมาฉายในกรุงเทพอีกครั้งในตอนนี้แล้ว ยังมีหนังอีกเรื่องหนึ่งที่พูดถึงชายหนุ่มที่ยังคงได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานจากประสบการณ์ทางเพศในวัยเด็ก ซึ่งก็คือหนังเรื่อง RUNAWAY (2005, TIM MCCANN) ที่น่าดูอย่างสุดๆ โดยหนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของชายหนุ่มอายุ 21 ปีที่ถูกพ่อของตัวเองลวนลามมาตลอดชีวิต
http://www.imdb.com/title/tt0425414/

AMY TAUBIN นักวิจารณ์หญิงชื่อดังชื่นชอบ RUNAWAY มาก อ่านบทสัมภาษณ์ของเธอกับ TIM MCCANN ได้ที่
http://www.filmlinc.com/fcm/artandindustry/tribint.htm


TIM MCCANN เคยกำกับหนังเรื่อง DESOLATION ANGELS (1995, A-) ที่เคยมีวิดีโอเข้ามาขายในกรุงเทพ โดยหนังที่ TIM MCCANN กำกับมักจะเป็นการสำรวจสภาพจิตของชายหนุ่มภายใต้ภาวะกดดัน
http://www.imdb.com/name/nm0564928/

นอกจากเนื้อเรื่องและตัวผู้กำกับแล้ว อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ RUNAWAY น่าดูอย่างสุดๆก็คือการที่หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย AARON STANFORD ดาราหนุ่มน่ารักและร้อนแรงจาก X2: X-MEN UNITED (2003, BRYAN SINGER, A+) และ TADPOLE (2002, GARY WINICK, B)
http://www.imdb.com/name/nm0822155/
http://stage.frate.free.fr/superdev2003/kandan-samir/xmen2%2BAaron%20Stanford-13.jpg
http://www.cosmomovieawards.com/actors/images/aaronstanford.jpg


เพิ่งรู้ค่ะว่าวิทยุช่อง 94.5 FM มีรายการ CLUBCLASS ที่เปิดเพลงแดนซ์ยุค 1980 ให้ฟังทุกคืนวันเสาร์เวลา 22.00-02.00 น. เมื่อคืนวันเสาร์ได้ฟังรายการนี้แล้ว รู้สึกมีความสุขสุดๆเลยค่ะ นึกถึงอดีตสมัยเรียนมัธยม

เพลงที่ชอบมากๆใน CLUBCLASS เมื่อคืนนี้

1.THE HARDER I TRY ของ BROTHER BEYOND
เพลงนี้เคยขึ้นถึงอันดับ 2 ในอังกฤษในปี 1988 นักร้องนำของวงนี้คือ NATHAN MOORE ซึ่งต่อมาได้เข้าไปเป็นสมาชิกวง WORLDS APART ในทศวรรษ 1990
http://nathanmoore.free.fr/

http://www.poplife.info/Bilder/239055.jpg

2.I’M NOT SCARED ของ EIGHTH WONDER
3.SURRENDER ของ SWING OUT SISTER

วันนี้ได้ดูหนังทางช่อง HBO เรื่อง THE FINAL CURTAIN (2002, A-) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการตบตีกันระหว่างพิธีกรรายการเกมโชว์ทางโทรทัศน์ค่ะ หนังนำแสดงโดย PETER O’TOOLE และ AIDAN GILLEN ซึ่งเล่นได้ดีมากๆ

หลายคนคงจดจำ AIDAN GILLEN ได้เป็นอย่างดี เพราะเขาเคยรับบทเป็นหนุ่มเจ้าชู้ใน QUEER AS FOLK (A+) เวอร์ชันประเทศอังกฤษ ดิฉันรู้สึกว่าเขาน่ารักแบบกวนๆคล้ายๆ GARY OLDMAN สมัยหนุ่มๆ
http://www.imdb.com/name/nm0318821/
http://www.tonyawards.com/images/pics/large/b_v_meet_gillen.jpg



ชอบ I CAPTURE THE CASTLE (2003, TIM FYWELL, A) มากๆเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะตัวละครนางเอกกับแม่เลี้ยงนางเอก ดิฉันเคยดู ROMOLA GARAI ในหนังเรื่อง DIRTY DANCING: HAVANA NIGHTS (2004, GUY FERLAND) แล้วรู้สึกว่าเธอเป็นดาราสาวสวยผมบลอนด์ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย แต่พอได้มาดูการแสดงของเธอใน I CAPTURE THE CASTLE กับ VANITY FAIR (2004, MIRA NAIR, A) ก็รู้สึกว่าจริงๆแล้วเธอมีความสามารถสูงมาก
http://www.imdb.com/name/nm0304801/



คิดว่าถ้าคุณแฟรงเกนสไตน์ได้ดูหนังชุด “โทร่าซัง” ก็อาจจะชอบก็ได้ค่ะ ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยอินกับหนังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อจนถึงขั้นทนไม่ได้ รู้สึกว่ามันเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ สบายใจ เห็นหน้าพระเอกแล้วรู้สึกอารมณ์ดี

ในบรรดาหนังชุดโทร่า-ซังที่ได้ดูนั้น มีพล็อตของตอนนึงที่ทำให้ดิฉันประทับใจเล็กน้อยค่ะ นั่นก็คือตอน TORA-SAN’S FORBIDDEN LOVE (1984) ที่มีเนื้อหาจุดนึงเกี่ยวกับ “การสลับบุคลิกภาพ” เพราะในตอนนี้โทร่า-ซังได้เจอกับชายวัยกลางคนคนนึงที่เป็นผู้จัดการบริษัท โดยหลังจากที่ทั้งสองรู้จักกัน โทร่า-ซังก็ตกหลุมรักภรรยาของผู้จัดการคนนี้ แต่ผู้จัดการคนนี้กลับหายสาบสูญไป และต่อมาความจริงก็เปิดเผยว่าผู้จัดการคนนี้ได้เดินทางท่องเที่ยวตะลอนไปตามสถานที่ต่างๆทั่วญี่ปุ่นโดยปลอมชื่อเป็นโทร่า-ซัง มันเหมือนกับว่าหลังจากที่เขาได้รู้จักกับโทร่า-ซังแล้ว เขาก็ได้รับเอาบุคลิกภาพของโทร่า-ซังเข้ามาไว้ในตัวเขาเองด้วยจนทำให้บุคลิกภาพของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

พล็อตตรงจุดนี้ทำให้รู้สึกประหลาดใจค่ะ เพราะตอนแรกไม่นึกว่าหนังชุด “โทร่า-ซัง” จะมีอะไรอย่างนี้ด้วย ปกติแล้วพอพูดถึงการสลับบุคลิกภาพ ก็มักจะนึกถึงหนังอย่าง PERSONA (INGMAR BERGMAN, A+) มากกว่า

ตัวละครผู้จัดการใน TORA-SAN’S FORBIDDEN LOVE ทำให้นึกถึงตัวละครในหนังเรื่อง MONDAY MORNING (2002, OTAR IOSSELIANI) ด้วยค่ะ เพราะผู้จัดการใน TORA-SAN เป็นผู้ชายที่เคยชินกับการเดินทางไปทำงานทุกๆเช้า เขาใช้ชีวิตที่ซ้ำซากอย่างนี้ทุกๆวัน จนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตัดสินใจไม่ไปทำงาน, ตัดสินใจทิ้งครอบครัว, ทิ้งภรรยาและลูก และออกเดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ

ส่วนพล็อตของ MONDAY MORNING สามารถอ่านได้ที่
http://bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=5290
http://www.imdb.com/title/tt0284277/


Monday Morning มีเนื้อหาเกี่ยวกับแวงซองท์ (ฌากส์ บิดู) ผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 เพื่อเดินทางไปทำงานที่โรงงานโดยใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง งานของเขาเป็นงานที่น่าเบื่อมากและเขาไม่สามารถสูบบุหรี่ทั้งในเวลาเดินทางและเวลาทำงาน เมื่อเขากลับบ้านในตอนเย็น สิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดคือการวาดภาพ แต่เขาก็ต้องให้เวลากับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งรวมถึงภรรยา (อานน์ คราฟซ์-ทาร์นาฟสกี), แม่ และลูกชาย 2 คน แวงซองท์รู้สึกเบื่อหน่ายชีวิตแบบนี้มาก เขารู้สึกเบื่อทั้งภรรยา, ลูกๆ และผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับเขา ซึ่งรวมถึงอัลแบร์ท ชายชราที่ชอบเดินตามเส้นทางเดิมทุกๆวัน, บุรุษไปรษณีย์ที่แอบอ่านจดหมายทุกฉบับในหมู่บ้าน และพระที่ชอบใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูผู้หญิงแก้ผ้า โดยสมาชิกในครอบครัวของเขานั้นแทบไม่เคยสนใจในตัวเขาเลย และทำเหมือนกับว่าเขาเป็นมนุษย์ล่องหน วันหนึ่งแวงซองท์ตัดสินใจเดินทางออกไปดูโลกกว้าง เขาตัดสินใจไม่เดินเข้าโรงงานเมื่อถึงเวลาทำงานแต่กลับเดินออกไปหาที่สูบบุหรี่ให้หมดมวน และการเดินออกจากโรงงานในครั้งนั้นกลายเป็นการเดินทางไปยังกรุงปารีสและเวนิซในเวลาต่อมา

--ชื่อหนัง MONDAY MORNING ยังทำให้นึกถึงชีวิตจริงของตัวเองด้วยค่ะ เพราะดิฉันจะรู้สึก “ขี้เกียจ” เมื่อถึงเช้าวันจันทร์และต้องออกไปทำงานอีกครั้ง

เมื่อเช้าวันจันทร์สัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันก็ทำในสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ตัวเองค่ะ เพราะเช้าวันจันทร์สัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันตื่นนอนขึ้นมา และก็กำลังจะออกไปทำงาน แต่พอเหลือบไปเห็นตุ๊กตาในห้อง ดิฉันก็เปลี่ยนใจไม่ไปทำงาน ตัดสินใจลางาน และนั่งเล่นตุ๊กตาในห้องแทน สรุปว่าวันจันทร์ที่แล้วก็เลยไม่ได้ไปทำงานเพราะความขี้เกียจ และอยากเล่นตุ๊กตามากกว่าค่ะ

--ความสุขเล็กๆอย่างนึงที่ได้จากการดูหนังชุด TORA-SAN ก็คือการได้ดู CHISHU RYU (1904-1993) ดาราขาประจำของ YASUJIRO OZU ในหนังชุดนี้ค่ะ จริงๆแล้วดิฉันไม่ได้ประทับใจกับบทของ CHISHU RYU ในหนังของ OZU มากนัก (เพราะดิฉันไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับบทที่เขามักแสดงในหนังของ OZU) แต่ก็รู้สึกว่าเขาเล่นได้เก่งมากตามบทที่เขาได้รับ อย่างไรก็ดี ในหนังชุดโทร่า-ซังนั้น CHISHU RYU รับบทประกอบเป็นเจ้าอาวาสที่เหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับโทร่า-ซัง บทของเขาออกมาเพื่อคอยเสียดสีโทร่า-ซังและเรียกเสียงฮาเป็นระยะๆ ก็เลยรู้สึกดีกับบทของเขาค่ะ และก็รู้สึกดีใจที่ดาราสูงวัยอย่างเขายังคงมีหนังให้เล่นอยู่อย่างสม่ำเสมอ

CHISHU RYU
http://www.imdb.com/name/nm0753479/



ชอบโปสเตอร์ EVERYTHING IS ILLUMINATED มากๆเหมือนกันค่ะ

เอาใจช่วยให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จค่ะ เพราะชอบ LIEV SCHREIBER มาก แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ดังเท่าที่ควรในทางการแสดง ทั้งๆที่เขาก็เล่นหนังได้ดี ก็เลยเอาใจช่วยให้เขาประสบความสำเร็จทางการกำกับหนัง

ดีวีดีหนังเพลงที่อยากดูมากๆในตอนนี้ก็คือดีวีดีหนัง 5 เรื่องของ FRED ASTAIRE + GINGER ROGERS ค่ะ ดีวีดีชุดนี้จะออกจำหน่ายในสหรัฐในวันที่ 16 ส.ค.
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0009NSCR6/qid=1122802198/sr=1-1/ref=sr_1_1/002-8038210-3111243?v=glance&s=dvd

ดีวีดีชุดนี้ประกอบด้วย

1.TOP HAT (1935, MARK SANDRICH)
--หนังเรื่องนี้มีโครงสร้างคล้ายหนังเรื่อง THE GAY DIVORCEE (1934, MARK SANDRICH) ที่นำแสดงโดย ASTAIRE กับ ROGERS เหมือนกัน

--เพลงในหนังเรื่องนี้เป็นของ IRVING BERLIN ซึ่งรวมถึงเพลง

1.1 NO STRINGS
1.2 ISN’T THIS A LOVELY DAY
1.3 WHITE TIES AND TAILS
1.4 CHEEK TO CHEEK


2.SWING TIME (1936, GEORGE STEVENS)

--GEORGE STEVENS เป็นผู้กำกับหนังคลาสสิคเรื่อง SHANE, GIANT และ THE DIARY OF ANNE FRANK

--เพลงในหนังเรื่องนี้เป็นของ JEROME KERN + DOROTHY FIELDS ซึ่งรวมถึงเพลง

2.1 A FINE ROMANCE
2.2 THE WAY YOU LOOK TONIGHT
2.3 PICK YOURSELF UP
2.4 BOJANGLES OF HARLEM


3.FOLLOW THE FLEET (1936, MARK SANDRICH)
http://images.amazon.com/images/P/B0009NSCQ2.01.LZZZZZZZ.jpg

--IRVING BERLIN ทำเพลงให้หนังเรื่องนี้ ซึ่งรวมถึงเพลง

3.1 I’M PUTTING ALL MY EGGS IN ONE BASKET
3.2 LET YOURSELF GO
3.3 LET’S FACE THE MUSIC AND DANCE

--จุดเด่นของหนังคือลีลาการเล่นเปียโนของเฟรด แอสแตร์


4.SHALL WE DANCE (1937, MARK SANDRICH)

--เพลงในหนังเรื่องนี้เป็นของ GEORGE GERSHWIN + IRA GERSHWIN ซึ่งรวมถึงเพลง

4.1 LET’S CALL THE WHOLE THING OFF
4.2 THEY CAN’T TAKE THAT AWAY FROM ME


5.THE BARKLEYS OF BROADWAY (1949)

--ตอนแรกทางสตูดิโอ MGM ตั้งใจจะให้แอสแตร์แสดงคู่กับจูดี้ การ์แลนด์ในหนังเรื่องนี้ต่อจาก EASTER PARADE แต่จูดี้ถอนตัวออกไป ดังนั้น GINGER ROGERS ก็เลยได้กลับมาเล่นหนังกับแอสแตร์อีกครั้งหลังจากไม่ได้ร่วมงานกันมานาน 10 ปี

--หนังมีเนื้อหาเกี่ยวกับนักเต้นรำคู่หนึ่งที่แต่งงานกันก่อนที่จะแยกทางกันเมื่อฝ่ายหญิงตัดสินใจจะยึดอาชีพเป็นนักแสดง

--เพลงในหนังเป็นของ HARRY WARREN + IRA GERSHWIN ซึ่งรวมถึงเพลง SHOES WITH WINGS ON และ THEY CAN’T TAKE THAT AWAY FROM ME


--ดู SOMERSAULT แล้วก็คิดถึง A GIRL (2002, DOROTHEE VAN DEN BERGHE, A+) เหมือนกันเลยค่ะ

--ชอบเพลง TAKE ME HOME มากๆเหมือนกันค่ะ ชอบมิวสิควิดีโอเพลงนี้อย่างสุดๆเหมือนกันด้วย

--ยังไม่เคยดู A LOVING FATHER เลยค่ะ แต่ท่าทางจะน่าสนใจดี

--หนังเกี่ยวกับพ่อ-ลูกที่อยากดูมากในตอนนี้ก็รวมถึง

1.BROKEN FLOWERS ของจิม จาร์มุช ที่พูดถึงพ่อ (BILL MURRAY) ที่ตามหาลูกชาย

2.DON’T COME KNOCKING ของ WIM WENDERS ที่พูดถึงพ่อ (SAM SHEPARD) ที่ออกตามหาลูกเหมือนกัน

http://a69.g.akamai.net/7/69/7515/v1/img5.allocine.fr/img_cis/images/festivaldecannes/img/photo/009584.jpg

GABRIEL MANN ดาราหนุ่มน่ารักจาก A LOT LIKE LOVE (2005, NIGEL COLE, A+) รับบทเป็นลูกชายในเรื่องนี้ค่ะ โดยมี EVA MARIA SAINT และ JESSICA LANGE ร่วมประชันบทบาทในเรื่องด้วย

ดิฉันชอบ SAM SHEPARD มากๆเลยค่ะ เวลาเห็นหน้าเขาแล้วรู้สึกว่าถูกโฉลกกับดาราชายวัยกลางคนคนนี้

--หนังเกี่ยวกับพ่อ-ลูกอีกเรื่องนึงที่น่าดูคือ AROUND THE BEND ค่ะ หนังเรื่องนี้มีขายในไทยในแบบดีวีดี/วีซีดีลิขสิทธิ์ ถ้าเข้าใจไม่ผิดอ่านข้อมูลของ AROUND THE BEND ได้ที่
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=19753

--KOKTEBEL ก็น่าดูอย่างสุดๆเหมือนกันค่ะ อ่านข้อมูลของหนังเรื่องนี้ได้ที่
http://bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=7868

--ตอนนี้ที่สหรัฐอเมริกาออกดีวีดีหนังของ BELA TARR อีก 3 เรื่องค่ะ ซึ่งได้แก่เรื่อง
http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0009HLBYS/qid=1122805834/sr=1-1/ref=sr_1_1/002-8038210-3111243?v=glance&s=dvd

1.FAMILY NEST (1977)
2.THE OUTSIDER (1981)
3.THE PREFAB PEOPLE (1982)
http://images.amazon.com/images/P/B0009HLBY8.01.LZZZZZZZ.jpg


อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ BELA TARR ที่คุณสาวรกโลกแปลไว้ได้ที่
http://bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=1424


ถ้าหากพูดถึง “สายตา” ของตัวละครแล้วล่ะก็ “สายตา” ของตัวละครที่บาดใจ, แทงใจ, กรีดลึกกรีดเฉือนเข้าไปในหัวใจ และทำให้ดิฉันต้องร้องไห้ออกมาทุกครั้งเมื่อนึกถึง ก็คือสายตาที่เซลบี (คริสตินา ริชชี) มองนางเอกใน MONSTER (2003, PATTY JENKINS, A+) ในศาลในตอนจบค่ะ ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันเข้าใจความรู้สึกของ AILEEN WUORNOS ได้เป็นอย่างดีว่าเธอรู้สึกอย่างไรตอนที่เซลบีมองเธอในศาลอย่างนั้น มันเป็นความร้าวรานใจที่ดิฉันไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

No comments: