จากกระทู้
http://www.bioscopemagazine.com/web2006/webboard/index-in.php?id=50131
ตอบน้อง merveillesxx
--หน้าปกอัลบัมเกี่ยวกับท้องฟ้าที่ชอบมากๆก็คือหน้าปกอัลบัมชุด HOW GREEN IS YOUR VALLEY? (1990, A++++++++++) ของวง 16 TAMBOURINES ค่ะ อัลบัมชุด HOW GREEN IS YOUR VALLEY? เป็นหนึ่งในอัลบัมที่ดิฉันชอบที่สุดในชีวิตค่ะ
ปกอัลบัม HOW GREEN IS YOUR VALLEY?
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B00005EHPH.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1131544912_.jpg
ฟังเพลงของวง 16 TAMBOURINES ได้ที่
http://www.myspace.com/16tambourines
Like the Pale Fountains and the Lotus Eaters, 16 Tambourines were a '60s-influenced guitar pop band from Liverpool, England that acquired more critical acclaim than album sales. Although they were signed to a major label, 16 Tambourines' true home was in the no-frills independent music scene, where their heartfelt, lovingly crafted soft rock was welcomed like a warm kiss. Although 16 Tambourines didn't form until 1985, vocalist Steve Roberts and bassist Tony Elliott had actually met in 1981 while trying to start another group, Total Action.
เพลงที่อยู่ในบล็อกนี้ได้แก่เพลง
1.BATHED IN THE AFTERGLOW (A+++++++++++++++)
2.APRIL (A++++++++++)
3.HOW GREEN IS YOUR VALLEY? (A+++++)
4.ICH LIEBE FRANK (A+++++)
เนื้อเพลง APRIL ขึ้นต้นด้วยประโยคที่ว่า “APRIL IS THE CRUELLEST MONTH”
ประโยคนี้ทำให้นึกถึงประโยคเปิดของบทกวีเรื่อง THE WASTE LAND (1922) ของ T.S. ELIOT ที่ใช้ประโยคเดียวกัน
THE WASTE LAND
April is the cruelest month, breeding
Lilacs out of the dead land, mixing
Memory and desire, stirring
Dull roots with spring rain.
Winter kept us warm, covering
Earth in forgetful snow, feeding
A little life with dried tubers.
Summer surprised us, coming over the Starnbergersee
With a shower of rain; we stopped in the colonnade,
And went on in sunlight, into the Hofgarten,
And drank coffee, and talked for an hour.
Bin gar keine Russin, stamm' aus Litauen, echt deutsch.
(ประโยคนี้หมายความว่า ผมไม่ใช่คนรัสเซีย ผมมาจากลิทัวเนีย ผมเป็นคนเยอรมันจริงๆ)
And when we were children, staying at the arch-duke's,
My cousin's, he took me out on a sled,
And I was frightened. He said, Marie,
Marie, hold on tight. And down we went.
In the mountains, there you feel free.
I read, much of the night, and go south in the winter.
อย่าจำชื่ออัลบัม HOW GREEN IS YOUR VALLEY? สลับกับภาพยนตร์เรื่อง HOW GREEN WAS MY VALLEY (1941, JOHN FORD) ที่ได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ปกดีวีดี HOW GREEN WAS MY VALLEY
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00003Q435.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056663010_.jpg
At the turn of the century in a Welsh mining village, the Morgans (he stern, she gentle) raise coal-mining sons and hope their youngest will find a better life. Lots of atmosphere, very sentimental view of pre-union miners' lives.
--ชอบประโยคนั้นของ SYLVIA PLATH มากๆเหมือนกันค่ะ
--ตอนเด็กๆเคยดูละครทีวีเรื่อง “ในม่านเมฆ” ด้วย แต่รู้สึกว่าเนื้อหาของละครเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับท้องฟ้าแต่อย่างใด แต่เกี่ยวกับสาวพิการขาลีบคนหนึ่งที่แสนดี เธอถูกนางอิจฉากลั่นแกล้งรังแกอย่างรุนแรง
--มีภาพยนตร์เรื่อง “ในม่านเมฆ” (1966, พันคำ) ด้วย แต่ไม่รู้ว่าเนื้อหาเหมือนกับในละครทีวีหรือเปล่า
ในม่านเมฆ เวอร์ชันภาพยนตร์นำแสดงโดย
พิศมัย วิไลศักดิ์, สมบัติ เมทะนี, ขวัญใจ สะอาดรักษ์, ทักษิณ แจ่มผล, อดุลย์ ดุลยรัตน์, ปรียา รุ่งเรือง
--ได้เข้าไปดูมิวสิควิดีโอ LUCIFER ของ SUGIZO แล้ว ชอบเพลงในระดับ A/A- ค่ะ และชอบมิวสิควิดีโอในระดับ B รู้สึกชอบเสียงดนตรีอิเล็กทรอนิกแบบนี้ แต่ไม่ค่อยชอบเสียงกีตาร์เท่าไหร่ ส่วนเสียงของนักร้องนั้นรู้สึกว่าจะ “หล่อ” กว่าหน้าตานักร้อง (จริงๆ SUGIZO อาจจะหล่อก็ได้นะ แต่มาดของเขาในมิวสิควิดีโอนี้ไม่ใช่สเปคของดิฉันสักเท่าไหร่)
http://www.youtube.com/watch?v=CSaq0MWbqpE
จากกระทู้
http://www.bioscopemagazine.com/web2006/webboard/index-in.php?id=50581
ตอบคุณตี๋หล่อมีเสน่ห์
ยังไม่ได้ดู THE SHOP ON THE MAIN STREET (1965, ELMAR KLOS + JAN KADAR เลยค่ะ แต่ชอบหนังเชคในทศวรรษ 1960 อย่างมากๆ
เคยเขียนถึงผู้กำกับกลุ่ม CZECH NEW WAVE เอาไว้เล็กน้อย อ่านได้ที่
http://celinejulie.blogspot.com/2005/10/best-film-angels-fall.html#comments
ดิฉันมักจะจำชื่อหนัง THE SHOP ON THE MAIN STREET สลับกับหนังเรื่อง SHOP AROUND THE CORNER (1940, ERNST LUBITSCH) ที่นำแสดงโดย MARGARET SULLAVAN + JAMES STEWART และเป็นต้นแบบของ YOU’VE GOT MAIL (1998, NORA EPHRON, A-)
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B00006FDCV.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1057230367_.jpg
เห็นชื่อของ JAN KADAR แล้ว ทำให้นึกถึงผู้กำกับอีกหลายคนที่ชื่อ JAN เหมือนกัน อย่างเช่น
1.JAN SCHMIDT ผู้กำกับชาวเชค เจ้าของผลงาน THE END OF AUGUST AT THE HOTEL OZONE (1967) และ THE DEATH OF A TALENTED COBBLER (1982)
ปกดีวีดี THE END OF AUGUST AT THE HOTEL OZONE
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B000CEV3AK.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1133384491_.jpg
Nuclear war has destroyed most of civilization. A pack of wild girls search for males who can give them children.
2. JAN NEMEC ผู้กำกับชาวเชค เจ้าของผลงาน A REPORT ON THE PARTY AND THE GUESTS (1966), NECKLACE OF MELANCHOLY (1968) และ TIME OF SUN AND ROSES (1968)
http://www.imdb.com/name/nm0625866/
ปกดีวีดีหนังเรื่อง ’68 (1988, STEVEN KOVACS) ที่มี JAN NEMEC ร่วมแสดงด้วย
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B00005RYLF.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056702032_.jpg
3.JAN SVANKMAJER ผู้กำกับชาวเชคที่ทุกคนรู้จักกันดีจากหนังอย่าง ALICE (1988, A+)http://www.imdb.com/name/nm0840905/
4.JAN HREBEJK ผู้กำกับชาวเชค เจ้าของผลงาน DIVIDED WE FALL (2000, A-)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00005QFE6.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056699358_.jpg
5.JAN SVERAK ผู้กำกับชาวเชค เจ้าของผลงาน ACCUMULATOR 1 (1994, A-) , KOLYA (1996) และ DEEP BLUE WORLD (2001, B+)
http://www.imdb.com/name/nm0841232/
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B00006AUXD.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1116190377_.jpg
6.JAN SCHUETTE (1957) ผู้กำกับชาวเยอรมัน เจ้าของผลงาน THE FAREWELL: BERTOLT BRECHT’S LAST SUMMER (2000, A+++++++++), BYE BYE AMERICA (1994, A-/B+) และ DRAGON’S FOOD (1987, A-/B+)
http://www.imdb.com/name/nm0778338/
7.JAN KOMASA (1981) หนุ่มโปแลนด์ที่กำกับภาพยนตร์เรื่อง ODE TO JOY ตอน WARSAW (2005, A/A-)
8.JAN TROELL (1931) ผู้กำกับชาวสวีเดน เจ้าของผลงาน PRESENCE (2003, B) และ IL CAPITANO (1991, A++++++++++++++)
http://www.imdb.com/name/nm0873296/
ปกดีวีดี HAMSUN (1997, JAN TROELL) ที่นำแสดงโดย MAX VON SYDOW
http://www.amazon.com/exec/obidos/ASIN/B000EULK28/imdb-button/
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B000EULK28.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V57242147_.jpg
Knut Hamsun is Norway's most famous and admired author. Ever since he was young he has hated the English for the starvation they caused Norway during WWI. When the Germans occupy Norway 9 April 1940 he welcomes them and the protection they can give from Great Britain.
***อ่านเพิ่มเติมเรื่องของ KNUT HAMSUN ได้ในหนังสือ BOOKVIRUS เล่ม 1***
ละครเวทีเรื่อง SLOWFLY/V.I.C.T.O.R.I.A. ของ MONICA EMILIE HERSTAD ที่มาเปิดฉายในกรุงเทพเมื่อต้นปีนี้ก็ดัดแปลงมาจากนิยายของ KNUT HAMSUN
9.JAN JAKUB KOLSKI (1956) ผู้กำกับชาวโปแลนด์ เจ้าของผลงาน PORNOGRAFIA (2003) และ JOHNNY THE AQUARIUS (1993)
ปกดีวีดี JOHNNY THE AQUARIUS
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B000CRTB1A.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V53743600_.jpg
The old man Johnnie lives a peaceful but eccentric rural life with his young wife Veronica. Shortly after conceiving the child they have longed for, Johnnie discovers that he possesses previously unsuspected healing powers, and can control the elements, water in particular.
รูปจากหนังเรื่อง PORNOGRAFIA
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/12/86/18361949.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/12/86/18361944.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/12/86/18361946.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/12/86/18361943.jpg
10.JAN DE BONT (1943) ผู้กำกับชาวเนเธอร์แลนด์ เจ้าของหนังดังอย่าง SPEED (1994, A)
--ถ้าหากพูดถึงหนังที่มีการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง แต่หนังไม่ได้แสดงให้เห็นภาพการฆ่าตัวตายเลยนั้น หนังอีกเรื่องที่ชอบมากในจุดนี้ก็คือ WHITE MISCHIEF (1987, MICHAEL RADFORD, A/A-) ที่เคยดูเมื่อ 16 ปีก่อน ในหนังเรื่องนี้มีตัวละครหญิงวัยกลางคนชื่อ ALICE DE JANZE (แสดงโดย SARAH MILES) ถ้าจำไม่ผิด ในหนังเรื่องนี้จะมีฉากเธอไปงานศพของคนรัก แล้วเธอก็ใช้นิ้วล้วงควักเข้าไปในอวัยวะเพศของตัวเองเพื่อเอาอะไรลื่นๆมาป้ายที่ปากศพคนรัก
หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นเธอเล่นดนตรีอย่างร่าเริง แล้วเธอก็ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “วันนี้อากาศดีจังโว้ย” (OH, GOD! NOT ANOTHER BLOODY BEAUTIFUL DAY) แล้วคนดูก็ได้รู้ว่าเธอฆ่าตัวตายหลังจากนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ช็อคคนดูอย่างดิฉันอย่างมากๆ อย่างไรก็ดี ดิฉันกลับรู้สึกในขณะเดียวกันว่า ถึงแม้ “เนื้อหา” ในฉากที่เธอพูดว่า “วันนี้อากาศดีจังโว้ย” จะไม่ได้บ่งชี้ในทาง “เหตุผล” ว่าเธอจะฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา แต่บางสิ่งในฉากนั้นกลับบ่งชี้ทาง “ความรู้สึก” ว่าเธอจะฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา และการที่ผู้กำกับอยู่ดีๆก็ใส่ “ฉากตัวละครตื่นเช้าอย่างร่าเริง” เข้ามาในหนัง มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้ช่วยในการ “เล่าเนื้อเรื่องให้เดินไปข้างหน้า” แต่มันน่าจะส่อถึงอะไรบางอย่างอย่างแน่ๆ
WHITE MISCHIEF สร้างจากเรื่องจริง และ ALICE DE JANZE (1899-1941) ก็เป็นผู้หญิงที่มีตัวตนจริง อ่านเรื่องของเธอได้ที่
http://en.wikipedia.org/wiki/Alice_de_Janz%C3%A9
SARAH MILES
http://www.cambridgejones.com/auction/qauction%20jpegs/sarah%20miles%2020x16.jpg
ปกดีวีดี WHITE MISCHIEF
http://www.amazon.com/White-Mischief-Michael-Radford/dp/B00004RYKC/sr=1-2/qid=1165830580/ref=sr_1_2/002-1152430-7830408?ie=UTF8&s=dvd
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00004RYKC.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1132052591_.jpg
ตอบน้อง merveillesxx
พูดถึงหนังเกี่ยวกับอิสราเอล-ปาเลสไตน์แล้วก็นึกถึงหนังเรื่อง THE ACCORD (2005, NICOLAS WADIMOFF, BEATRICE GUELPA, A++++++++++) ที่พี่ชอบสุดๆในเทศกาลเมื่อเดือนต.ค. สาเหตุนึงที่ทำให้พี่ชอบหนังเรื่องนี้เป็นเพราะว่า ปกติแล้วพี่คิดว่าผู้กำกับหนังโดยทั่วไปน่าจะตั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มสร้างหนังอยู่แล้วว่า เขาจะสร้างหนังเรื่องนั้นให้ออกมาเป็นหนังแนว FEEL GOOD หรือ FEEL BAD
แต่ขณะที่ดู THE ACCORD พี่รู้สึกเหมือนกับว่ามีความเป็นไปได้ที่ผู้กำกับหนังเรื่องนี้อาจจะตั้งใจสร้างหนังแนว FEEL GOOD เพราะหนังเรื่องนี้ติดตามถ่ายทำชีวิตของคนกลุ่มนึงที่พยายามต่อสู้เพื่อสันติภาพ และหนังก็เปิดเรื่องด้วยความร่วมมือกันเป็นอย่างดีของคนกลุ่มนี้ และงานประชุมที่ดูน่าประทับใจ
แต่ถึงแม้ผู้กำกับอาจจะอยากสร้างหนังแนว FEEL GOOD โลกแห่งความเป็นจริงก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาทำหนังสารคดีแบบนั้นได้ และหนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นหนังที่ FEEL BAD ในที่สุด เพราะเมื่อผู้กำกับติดตามถ่ายทำชีวิตคนกลุ่มนี้ไปเรื่อยๆ เราก็ค่อยๆรับรู้ว่าปัญหาในดินแดนแห่งนั้นมันยุ่งยากซับซ้อน หนักหนา และน่าท้อใจอย่างสุดๆเพียงไร และในที่สุดหนังสารคดีที่เปิดฉากด้วย “ความหวังอันสดใส” เรื่องนี้ ก็ต้องจบลงด้วย “ความสิ้นหวัง” อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
ดิฉันคิดว่านี่แหละคือเสน่ห์อย่างนึงของสารคดี เพราะถ้าหากมันเป็นเรื่องแต่ง ผู้กำกับคงจะสามารถยัดเยียดความ FEEL GOOD เข้าไปในหนังได้โดยง่าย และอาจจะหาทางออกง่ายๆบางอย่างเพื่อให้ตัวละครมีความหวังในชีวิตต่อไป แต่ในการกำกับหนังสารคดีนั้น มันยากกว่าเยอะที่จะ “โกง” ความรู้สึกของบุคคลที่ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้ากล้อง
--JAY-JAY JOHANSON นักร้องชาวสวีเดน เคยร้องเพลงชื่อ SHE DOESN’T LIVE HERE ANYMORE ด้วยค่ะ ชอบเพลงนี้มากๆ เพลงของเขาเหมาะสำหรับคนที่ชอบ PORTISHEAD, LAMB, LOU RHODES, COCTEAU TWINS (ROBIN GUTHRIE สมาชิกวง COCTEAU TWINS มาเล่นกีตาร์ให้ JAY-JAY JOHANSON ในบางเพลง)
http://www.darling.se/nr37/jayjay/bild.jpg
http://www.alwaysontherun.net/jay2.jpg
http://www.tasteofindie.com/photos/2005-08-30-JayJayJohanson/Jay_Jay_Johanson_002.jpg
ดูมิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=awxnfagxdxQ
ชอบเพลงนี้ในระดับ A+
ชอบมิวสิควิดีโอในระดับ A (ชอบฉากแมวกระโจนเข้าหาชายหนุ่ม)
1.ปกอัลบัม TATTOO (1998) ของ JAY-JAY JOHANSON
http://www.amazon.com/Tattoo-Jay-Jay-Johanson/dp/B000025NX0/ref=pd_bxgy_m_img_b/002-1152430-7830408
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B000025NX0.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1116078488_.jpg
2.ปกอัลบัม POISON (2000) ของ JAY-JAY JOHANSON
http://www.amazon.com/Poison-Jay-Jay-Johanson/dp/B00004SX1M/sr=8-1/qid=1165832652/ref=pd_bbs_sr_1/002-1152430-7830408?ie=UTF8&s=music
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00004SX1M.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1116079772_.jpg
3.ปกอัลบัม PROLOGUE: BEST OF THE EARLY YEARS 1996-2002 (2004)
http://www.amazon.com/Prologue-Best-Early-Years-1996-2002/dp/B0001TZW3K
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B0001TZW3K.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1115798236_.jpg
4.ปก WHISKEY (2005)
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B000025NQS.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1116137953_.jpg
5.ปกอัลบัม RUSH (2005) ของ JAY-JAY JOHANSON
http://www.amazon.com/Rush-Jay-Johanson/dp/B000AMUL8Y
http://www.dustygroove.com/images/products/j/johans_jayj_rush~~~~~_101b.jpg
BLOG ของ JAY-JAY JOHANSON
http://www.myspace.com/jayjayjohanson
ใน BLOG นี้มีเพลง ONLY FOR YOU, ESCAPE (FEATURING ROBIN GUTHRIE) และ IT WOULD BE EASY
--ต้องกราบขอบคุณน้อง merveillesxx มากค่ะที่ให้ลิงค์ข้อมูลเกี่ยวกับชาวญี่ปุ่นที่ถูกจับเป็นตัวประกันในอิรัก ลองเข้าไปอ่านดูแล้ว น่าสนใจมากๆเลยค่ะ
อันนี้เป็นบทสัมภาษณ์ NORIAKI IMAI ชายหนุ่มวัย 18 ปีที่เคยถูกจับเป็นตัวประกันในอิรักในเดือนเม.ย.ปี 2004 เขาบอกว่าช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตไม่ใช่ช่วงที่เขาถูกจับเป็นตัวประกัน แต่เป็นช่วงที่เขากลับมาถึงญี่ปุ่นแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขาอยากฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นถึงแม้เขารอดชีวิตมาจากอิรักได้
http://news.bbc.co.uk/1/hi/programmes/panorama/4634921.stm
นักข่าว: Um, looking back on it now, on your experience, what was the worst moment for you?
NORIAKI IMAI: After I returned to Japan. After I returned to Japan, that was the worst part. We had no freedom at all until the press conference on July 30th. It was awful. We were only allowed to go out 4 times. When I returned to Sapporo on April 21st, I genuinely wanted to commit suicide. When I think back on it now, it seems rather strange, but When I think back on it now, it seems strange really, what made me feel like that, it's really strange, but I really do think that I wanted to die then.
รูปของ NORIAKI IMAI
http://news.bbc.co.uk/nol/shared/spl/hi/pop_ups/04/asia_pac_japanese_hostages_in_iraq/img/2.jpg
http://graphics10.nytimes.com/images/2004/04/15/international/15cnd-iraq.3.184.jpg
Monday, December 11, 2006
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment