Monday, December 11, 2006

THINGS THAT MAKES YOU GO HMMM

ตอบคุณ THE AESTHETICS OF LONELINESS
จาก comment ใน ENTRY นี้
http://celinejulie.blogspot.com/2006/12/bloody-war-in-skytrain.html#comments

พอคุณตั้งข้อสังเกตถึงหนังเรื่อง CRASH (PAUL HAGGIS, A+) ดิฉันก็เห็นด้วยเลยค่ะ เพราะหนังเรื่อง CRASH ดูเหมือนจะสะท้อนความหงุดหงิดในใจคน และความหงุดหงิดดังกล่าวก็พร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

ความรู้สึกของดิฉันเวลาเดินตามท้องถนนในกรุงเทพก็เหมือนกับในหนังเรื่อง CRASH ค่ะ ตอนแรกดิฉันไม่ทันได้คิดถึงหนังเรื่องนี้ เพราะพอพูดถึง CRASH ปุ๊บ ดิฉันก็จะนึกถึงประเด็นเรื่อง “เชื้อชาติ” เป็นลำดับแรก แต่กรุงเทพไม่ได้มีปัญหาเรื่อง “เชื้อชาติ” แบบใน CRASH

อย่างไรก็ดี สิ่งที่กรุงเทพไม่ได้ต่างไปจาก CRASH ก็คือความหงุดหงิดในใจคนค่ะ เพราะมีหลายๆครั้งดิฉันก็รู้สึกอยากจะตบตีกับคนหลายๆคนตามท้องถนนเพราะพฤติกรรมของพวกเขา หรือเพราะความเป็นคนมีโทสะแรงของดิฉันเอง หลายๆครั้งดิฉันรู้สึกดีใจมากที่ตัวเองรอดชีวิตกลับบ้านได้ โดยไม่ได้มีเรื่องทะเลาะบาดหมางกับใคร

เมื่อเร็วๆนี้ได้ไปเที่ยวเสม็ด รู้สึกมีความสุขมาก พอกลับมากรุงเทพก็ยังมีความสุขอยู่ จนกระทั่งต้องมากระแทกคนตอนลงจากรถไฟฟ้านี่แหละ ถึงรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเอง “ได้ลงจากสวรรค์ กลับมาอยู่ในนรกตามเดิมแล้ว”

สิ่งที่ทำให้หงุดหงิด

1.ความหงุดหงิดที่ดิฉันมักพบบ่อยๆอีกที่นึง ก็คือที่โรงหนังนี่แหละค่ะเพราะชอบมีคนมาถีบเบาะ อันนี้เจอบ่อยมาก ประมาณเดือนละครั้ง สองครั้งล่าสุดเจอตอนไปดูหนังเรื่อง GRIZZLY MAN ในเทศกาลภาพยนตร์ เป็นผู้หญิงฝรั่งมากับเพื่อนกลุ่มใหญ่ แล้วก็ถีบเบาะดิฉันอย่างแรง ดิฉันเลยหันไปด่ามัน มันก็เลยหยุด

อีกครั้งนึงเจอตอนไปดูหนังเรื่อง HAPPY FEET เป็นกลุ่มหญิงสาวชาวไทย ถีบไม่แรง ดิฉันเดาว่าเธอคงสลับขาไขว่ห้างไปมาเป็นระยะๆ โดยไม่ระวังพนักเก้าอี้ข้างหน้า คราวนี้ดิฉันลองหันไปมองหน้ามันก่อน มันก็เลยหยุด


2.อีกเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดก็คือเรื่องคนแซงคิว โดยเฉพาะเวลาจ่ายเงินซื้อของใน 7-ELEVEN สมัยเมื่อหลายปีก่อนดิฉันเจอบ่อยมาก ดิฉันก็เลยต้องปรับปรุงตัวด้วยการยืนขาถ่างๆ ขวางพื้นที่ไว้ไม่ให้อีหน้าไหนแทรกตัวเข้ามาแซงคิวได้


3.ผู้หญิง 2-3 คนที่คุยกันแล้วก็เดินไปด้วยกันอย่างช้าๆ กีดขวางทางจราจร

การเดินช้าๆไม่ใช่ความผิดแต่อย่างใด แต่ถ้าหากคุณเดินช้า คุณก็ควรจะเดินเรียงเดี่ยว ไม่ใช่เดินขวางทางเดินจนหมด ไม่เหลือพื้นที่ให้คนแซงขึ้นมาได้โดยง่าย

แต่อันนี้ทำให้ดิฉันหงุดหงิดแค่เล็กน้อย เพราะสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายๆด้วยการพูดขอทางแล้วก็เดินแซงขึ้นไป แต่ที่หงุดหงิดก็เพราะจริงๆแล้วดิฉันขี้เกียจพูดขอทางบ่อยๆค่ะ แหะๆๆๆ


4.แม่ค้า

เมื่อหลายปีก่อน มีอยู่พักนึงดิฉันพยายามอุดหนุนร้านของคนไทย ด้วยการซื้อสินค้าจากร้านของคนไทยคนนึงในซอย แต่พอขอถุงพลาสติกเพื่อใส่ไอติม เจ้าของร้านก็ให้ถุงพลาสติกมาพร้อมกับตะโกนด่าไล่หลังว่าซื้อไอติมแค่อันเดียวก็ต้องเอาถุงพลาสติกด้วย ดิฉันก็เลยไม่กลับไปซื้อร้านนั้นอีกเลยตลอดชีวิตนี้


--นอกจาก CRASH แล้ว มีหนังอีกเรื่องนึงที่สะท้อนสภาพจิตของคนที่กำลังจะระงับอารมณ์โกรธไม่อยู่ได้ดีพอสมควร หนังเรื่องนั้นคือ THE CRISIS (1992, COLINE SERREAU, A-) ซี่งทำออกมาในแนวตลกขบขัน หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ชายคนนึงที่ถูกภรรยาทิ้งและถูกไล่ออกจากงาน และเมื่อเขาเดินทางไปหาใคร เขาก็พบว่าทุกคนที่เขาพบต่างก็มีปัญหาชีวิตที่เคร่งเครียดจวนเจียนจะระเบิดอยู่มะรอมมะร่อกันทั้งนั้น
http://www.imdb.com/title/tt0104025/

When Victor finds out one morning that his wife had left him and that she had forgotten to at least buy milk for the Kids, he finds that things can only get worse. Having also been fired from his job on the very same day, he ends up searching through a list of friends and family for someone who will listen to his grief and give some advice.


LA CRISE นำแสดงโดย VINCENT LINDON, PATRICK TIMSIT, ZABOU

อันนี้เป็นรูปของ VINCENT LINDON จาก LA CONFIANCE REGNE (2004, ETIENNE CHATILIEZ)
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/35/21/09/18392620.jpg


No comments: