Tuesday, December 05, 2006

LIVE AT SIGNALIZED (KOICHI SHIMIZU, A+++++)

ตอบน้อง merveillesxx

--มิวสิควิดีโอ JEWEL ของ AYUMI HAMASAKI สวยมากๆค่ะ คิดว่ามิวสิควิดีนี้น่าจะใช้ประกอบหนังเรื่อง BLOOD DIAMOND (2006, EDWARD ZWICK) (ฮา)

--ชอบคลิปคอนเสิร์ต LADYTRON ที่น้องแปะไว้ให้ดูมากเลยค่ะ เพราะคลิปนี้เสียงมันไม่ชัด และก็ถ่ายเวทีคอนเสิร์ตจากมุมมองของคนดูที่อยู่ในระยะไกล ก็เลยทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองได้เข้าไปอยู่ในคอนเสิร์ตนั้นด้วยจริงๆ คิดว่าคลิปที่น้องแปะไว้คงเป็นคลิปที่คนดูถ่ายเอาไว้เอง ซึ่งแตกต่างจากวิดีโอคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการที่มักให้ภาพและเสียงที่คมชัดกว่าการเข้าไปดูคอนเสิร์ตนั้นจริงๆ

--มิวสิควิดีโอ NEIGHBOURHOOD #1 (TUNNELS) (2006) ของ THE ARCADE FIRE ที่น้องแปะไว้ก็ดีค่ะ ให้ความรู้สึกคล้ายๆหนังแอนิเมชั่นของเยอรมัน มิวสิควิดีโอนี้กำกับโดย JOSH DEU


ความเห็นจิปาถะ

--น้อง merveillesxx แนะนำวง KATSUE เอาไว้ เป็นวงของเจ มณฑล จิรา กับจอนนี่ อันวา เข้าไปฟังเพลง CLEAR CUT, PICKLED SUNDAY, IF I WERE และ SIMPLE LIFE ของวงนี้ได้ที่
http://www.myspace.com/katsueband

หน้าปกอัลบัม AND SO IT GOES ของวงนี้
http://i137.photobucket.com/albums/q210/montonnjira/Katsue.jpg


--เพิ่งเห็นว่า KOICHI SHIMIZU ผู้กำกับ ANAT(T)A (2006, A+++++++++++) ร่วมกับ AKRITCHALERM KALAYANAMITR มีบล็อกของตัวเองด้วย เข้าไปดูบล็อกของเขาได้ที่
http://www.myspace.com/eastablishrec2

เพลงที่แปะไว้ในบล็อกของเขาหลอนมากๆ อย่างเช่นเพลง

1.LIVE AT SIGNALIZED (A++++++++++)
เพลงความยาว 6 นาที 12 วินาที ฟังแล้วรู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองได้ผสานเข้ากับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือเชื่อมต่อกับเกมคอมพิวเตอร์แบบในหนังอย่าง EXISTENZ (1999, DAVID CRONENBERG, A) หรือไม่ก็หลุดเข้าไปในห้วงอวกาศพิศวงแบบ SOLARIS (1972, ANDREI TARKOVSKY, A) และต้องเผชิญกับลมพายุพัดแรงที่ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่เกิดจากการดลบันดาลของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ก็ภูติผีปีศาจ


2.LIVE AT SPORADICAL2 (A+++++)
เพลงความยาว 8 นาที 45 วินาที บางช่วงของเพลงทำให้นึกถึงหนังผีอย่าง “ผีคนเป็น” หรือ THE VICTIM (2006, มณฑล อารยางกูร, A+) แต่ช่วงท้ายๆของเพลงทำให้นึกถึงภาพนางตานีกับนางตะเคียนออกมาตบกัน


3.LIVE AT IDIOM (A++++++)
เพลงนี้มีความยาว 7 นาที 14 วินาที ฟังแล้วรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นเช้าขึ้นมาหลังคืนวันแต่งงาน และเสียงระฆังเหง่งหง่างจากโบสถ์ยังคงดังก้องอยู่ในหู มองออกไปข้างนอกกระท่อม เห็นทุ่งหญ้าเขียวขจีที่มีหยดน้ำค้างเกาะอยู่ รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันช่างงดงามไปหมด ดิฉันเดินออกไปชื่นชมความงามข้างนอกกระท่อม แต่อยู่ดีๆก็เริ่มมีอาการปวดไมเกรนขึ้นมา และพื้นดินที่ยืนอยู่ก็เริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย ดิฉันทอดกายลงนอนกับพื้นหญ้าเพราะทนยืนไม่ไหวอีกต่อไป และรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายตัวเองค่อยๆสลายเป็นผุยผงทีละเล็กทีละน้อยเพื่อรวมกับผืนดิน ดิฉันรู้สึกตัวอีกทีพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในโลงศพที่กำลังจะถูกส่งเข้าเตาเผา และเสียงระฆังที่ได้ยินติดหูนั้นไม่ได้มาจากงานแต่งงานในโบสถ์ แต่มาจากระฆังในวัดในขณะที่มีพิธีสวดศพของดิฉันอยู่


4.RESIDENT OF THE NIGHT (A+++++)
เพลงความยาว 7 นาที 54 วินาทีเพลงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังมีอะไรกับสามี โดยเริ่มจากการสัมผัสอย่างแผ่วเบานิ่มนวล ก่อนที่จังหวะจะรุกกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ และเสียงหายใจก็เริ่มหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงจุดสุดยอด และในที่สุดสามีก็ผล็อยหลับไป


อันนี้เป็นรูปจากภาพยนตร์เรื่อง ANAT(T)A ที่คุณ BITTERSWEET แปะไว้ในบล็อกของคุณ KOICHI SHIMIZU
http://i82.photobucket.com/albums/j253/bittersilent/LiveJournal/2006_1128_135353.jpg
http://i82.photobucket.com/albums/j253/bittersilent/LiveJournal/2006_1128_142040.jpg
http://i82.photobucket.com/albums/j253/bittersilent/LiveJournal/2006_1128_141055.jpg
http://i82.photobucket.com/albums/j253/bittersilent/LiveJournal/2006_1128_135946.jpg
http://i82.photobucket.com/albums/j253/bittersilent/LiveJournal/2006_1128_140758.jpg


ฟังเพลงของ KOICHI SHIMIZU ในบางช่วงที่ให้อารมณ์หวานๆ สงบๆ แล้วนึกถึงเพลงของ BOARDS OF CANADA

ดูมิวสิควิดีโอ DAYVAN COWBOY ของ BOARDS OF CANADA ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=lrBZeWjGjl8

เพลงนี้มาจากอัลบัมชุด THE CAMPFIRE HEADPHASE (2005) ซึ่งเป็นอัลบัมชุดที่ 3 ของวงนี้ที่ประกอบด้วยสมาชิกสองคนจากสก็อตแลนด์ พวกเขาชื่อ MICHAEL SANDISON และ MARCUS EOIN โดยดนตรีของวงนี้ได้รับการเปรียบเทียบกับดนตรีของ AUTECHRE, APHEX TWIN, BRIAN ENO, TANGERINE DREAM, FOUR TET, M83, MY BLOODY VALENTINE, NEU! และ CLUSTER

รูปของ THE CAMPFIRE HEADPHASE
http://ec1.images-amazon.com/images/G/01/ciu/31/81/976eb2c008a0691f84777010.L.jpg

รูปของ TRANS CANADA HIGHWAY (2006) ซึ่งเป็น EP ของ BOARDS OF CANADA ที่มีเพลง DAYVAN COWBOY ในแบบ ODD NOSDAM REMIX รวมอยู่ด้วย
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B000F8DTNW.01._SS400_SCLZZZZZZZ_V52419846_.jpg

รูปของ TWOISM (1995) ซึ่งเป็น EP ของ BOARDS OF CANADA
http://www.amazon.com/Twoism-Boards-Canada/dp/B00006NSQ9/ref=pd_sim_m_3/002-2380366-1429669
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00006NSQ9.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1116712302_.jpg

รูปของ MUSIC HAS THE RIGHT TO CHILDREN (1998) อัลบัมชุดแรกของ BOARDS OF CANADA
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B0001RVTWA.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1125036151_.jpg

รูปของ GEOGADDI (2002) อัลบัมชุดที่สองของ BOARDS OF CANADA
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00005Y0Q3.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1116240354_.jpg
Geogaddi, like Boards of Canada's 1998 debut album, Music Has the Right to Children, drifts its way into consciousness, rolling a fog of dark-hued psychedelia over slow-burning, lullaby melodies.



เพลงที่ชอบสุดๆในตอนนี้

1.BROKEN HEART ของวง SPIRITUALIZED ฟังเพลงนี้ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=x0dz6rEXwpQ
ฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงภาพยนตร์ของ DAVID LYNCH

2.PLAY GIRL ของ LADYTRON
http://www.youtube.com/watch?v=62rnmNf_MJs


-- ตอนนี้ชอบกลอนของ EMILY DICKINSON ที่มีชื่อว่า I FELT A FUNERAL IN MY BRAIN หรือ “ฉันรู้สึกถึงงานศพในสมองฉัน”

I felt a funeral in my brain,
And mourners, to and fro,
Kept treading, treading, till it seemed
That sense was breaking through.

And when they all were seated,
A service like a drum
Kept beating, beating, till I thought
My mind was going numb

And then I heard them lift a box,
And creak across my soul
With those same boots of lead, again.
Then space began to toll

As all the heavens were a bell,
And being, but an ear,
And I and Silence some strange Race
Wrecked, solitary, here.


And then a Plank in Reason, broke,
And I dropped down, and down -
And hit a World, at every plunge,
And Finished knowing - then -

บางคนตีความบทกวี I FELT A FUNERAL IN MY BRAIN ว่าอาจจะบรรยายถึงผู้หญิงคนนึงที่กำลังจะเป็นบ้า เธอแยกจิตตัวเองออกเป็นสองส่วน นั่นก็คือส่วนของผู้ที่มาดูงานศพ และส่วนของตัวเองที่อยู่ในโลงศพ ซึ่งส่วนนี้อาจจะเป็น SENSE หรือส่วนของสติปชัญญะที่ดับสูญและกำลังจะตายไป

อ่านการตีความบทกวีนี้ในความเห็นต่างๆกันไปได้ที่
http://www.english.uiuc.edu/maps/poets/a_f/dickinson/280.htm

No comments: