Wednesday, May 13, 2009

NEW FILM PROGRAM AT DK FILMHOUSE

ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) ร่วมกับสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เชิญชม


NEW AGES


ทุกวันอาทิตย์ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 9 สิงหาคม 2522 ตั้งแต่เวลา 12:30 น. เป็นต้นไป
ณ ห้องเรวัต พุทธินันท์ ชั้นใต้ดิน U2 หอสมุด ปรีดี พนมยงค์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
โทรศัพท์ 0-2613-3529 หรือ 0-2613-3530
ชมฟรี!!! (โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ห้องสมุดว่ามาชมภาพยนตร์ และกรุณาแต่งกายสุภาพ)


วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2552
12.30 น. Surprise Film from Kazakhstan
14.30 น. Funuke Show Some Love, You Losers! (2007) กำกับโดย Daihachi Yoshida

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน 2552
12.30 น. In Between Days (2006) กำกับโดย So Yong Kim
14.30 น. The Puffy Chair (2005) กำกับโดย Jay Duplass

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2552
12.30 น. Chalk (2006) กำกับโดย Mike Akel
14.30 น. Great World of Sound (2007) กำกับโดย Craig Zobel

วันอาทิตย์ที่ 5กรกฎาคม 2552
12.30 น. Garage Olimpo (1999) กำกับโดย Marco Bechis
14.30 น. Train of Shadows (1997) กำกับโดย Jose Luis Guerin

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม 2552
12.30 น. Hounds (2007) กำกับโดย Ann-Kristin Reyels
14.30 น. Body Rice (2006) กำกับโดย Hugo Vieira da Silva

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2552
12.30 น. The Art of Crying (2006) กำกับโดย Peter Schonau Fog
14.30 น. Tricks (2007) กำกับโดย Andrzej Jakimowski
วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2552
12.30 น. Boogie (2008) กำกับโดย Radu Muntean
14.40 น. Fissures (2006) กำกับโดย Alante Kavaite

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2552
12.30 น. La Zona (2007) กำกับโดย Rodrico Pla
14.30 น. 25 Watts (2001) กำกับโดย Juan Pablo Rebella, Pablo Stoll

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม 2552
12.30 น. Alice's House (2007) กำกับโดย Chico Teixeira
14.30 น. Paraguayan Hammock (2006) กำกับโดย Paz Encina


เรื่องย่อภาพยนตร์


Funuke Show Some Love, You Losers!
Daihachi Yoshida, Japan, 2007, 112min

ดัดแปลงจากนิยายของยูคิโกะ โมโตยะ ผ่านการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์โดยผู้กำกับหน้าใหม่ไดอิฮาจิ โยชิดะ ฉายภาพความสัมพันธ์ประหลาดของครอบครัวตระกูลซาโตะ เมื่อเสาหลักของตระกูลคือปู่และย่าจากไปอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ สุมิกะลูกสาวคนกลางที่เดินทางไปตามฝันการเป็นดาราในโตเกียวได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด การกลับมาของเธอได้พาความหลังบางอย่างกับครอบครัวมาด้วย ทั้งความสัมพันธ์อันน่าเคลือบแคลงกับชินจิพี่ชายผู้ค่ำเคร่ง ซึ่งแต่งงานไปกับมาชิโกะสาวไม่เต็มเต็งในหมู่บ้าน และเคียวโอมิน้องสาวเนิร์ดที่มีพรสวรรค์ในการเขียนการ์ตูนซึ่งกินแหนงแคลงใจกันอยู่ในที

In Between Days
So Yong Kim, South Korea/USA, 2006, 82min

ภาพยนตร์โดยโซยองคิมผู้กำกับหญิงเกาหลีใต้ที่เติบโตในอเมริกา ตีแผ่เรื่องราวการดิ้นรนของชีวิตผู้อพยพที่หวังกับชีวิตใหม่ในเมืองใหญ่ ติดตามชีวิตของไอมี่เด็กสาวเกาหลีที่เพิ่งอพยพมายังแคนาดา ความแปลกถิ่นและโดดเดี่ยว ได้สร้างความยากลำบากอย่างสูงต่อการดำรงชีวิตในดินแดนใหม่ จะมีก็เพียงแต่หนุ่มทรานเพื่อนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คอยเป็นคู่หูรู้ใจ แต่ความยุ่งยากก็เริ่มก่อตัวในจิตใจ เมื่อไอมี่เริ่มรู้สึกมีใจให้กับทรานแต่ก็กลัวว่าหากเผยใจออกไป มิตรภาพระหว่างทั้งคู่จะสูญสลาย



The Puffy Chair
Jay Duplass, USA, 2005, 85min

หนังโร้ดทริปฝีมือการกำกับเรื่องแรกของเจย์ ดูปลาส ว่าด้วยเรื่องราวของโจช ชายผู้ล้มเหลวจากชีวิตในเมืองใหญ่ตัดสินใจกลับบ้านที่จากมาด้วยความหวังเรืองรอง แต่การกลับอย่างมือเปล่านั้นดูจะเป็นการเสียฟอร์มไม่น้อย และเพราะภาพของโซฟาม่วงครามตัวน้อยที่พบในเวปไซต์อีเบย์ทำให้โจชนึกถึงโซฟาสุดรักสุดหวงของพ่อเมื่อครั้งยังที่เขายังเด็ก โจชบังเกิดไอเดียทีจะซื้อโซฟาตัวนี้เพื่อเป็นของขวัญให้แก่พ่อและแก้เก้อให้กับตัวเอง แต่ทว่าค่าขนส่งที่แพงหูฉี่นั้นดูจะไม่เป็นมิตรต่อกระเป๋าสะตางค์แบนๆเท่าไรนัก เขากับเอมิลี่แฟนสาวจึงเลือกขับรถข้ามรัฐเพื่อไปรับโซฟาตัวนี้ด้วยตัวเอง และระหว่างทางก็ได้แวะรับน้องชายสุดแสบของเอมิลี่ร่วมทริปด้วย ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ได้ช่วยงัดแงะภาพความสัมพันธ์ที่ถูกเก็บดองมาเนิ่นนานของทั้งสามออกมา


Chalk
Mike Akel, USA, 2006, 84min

The Class ภาคอเมริกันที่มาก่อนภาคฝรั่งเศสอันโด่งดังถึงสองปี ถ่ายทอดด้วยสไตล์ของสารคดีลวงโลก (Mockumentary) ได้อย่างสนุกมีชั้นเชิงและตีแผ่วงการการศึกษาของอเมริกาได้อย่างถึงรส แม้แต่มอร์แกน สเปอร์ล็อคผู้กำกับสารคดีชื่อดัง Super Size Meยังออกปากชื่นชม หนังพาเราไปติดตามชีวิตของครูสี่คนต่างบุคลิคในโรงเรียนไฮสคูลแฮริสันไฮท์ กับช่วงหนึ่งปีการศึกษาที่พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหามากมายที่ประดังประเดเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการต้องผจญกับเหล่านักเรียนลิงทะโมนทีคอยแต่จะสร้างปัญหาในชั้นเรียนไม่หยุดหย่อน การต่อสู้กับความมุ่งหวังแรกเริ่มในการเป็นครูในอุดมคติ รวมไปถึงความขัดแย้งทางความคิดและการชิงดีชิงเด่นระหว่างบรรดาครูด้วยกันเอง


Great World of Sound
Craig Zobel, UนSA, 2007, 106min

เคร็ก โซเบลเคยเป็ผู้ช่วยผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างของเดวิด กอร์ดอน กรีนหลายต่อหลายเรื่อง ก่อนจะผันตัวมากำกับหนังเรื่องแรกที่ผสมระหว่างงานสไตล์การเรียนรู้ชีวิตและโร้ดมูฟวี่ บอกเล่าเรื่องราวของมาร์ติน หนุ่มนักขายที่บังเอิญได้มาเป็นเซลส์แมนขายฝันให้กับบริษัทที่มีชื่อว่า Great World of Sound เขาพบคู่หูต่างสีผิวนามว่าคลาเรนซ์ชายผิวดำวัยกลางคนผู้กำลังตามหาความเปลี่ยนแปลงใหม่ของชีวิต ขณะที่ยุคสมัยของอเมริกันไอดอลครองเมือง ผู้คนต่างดิ้นรนที่จะมีชื่อเสียงในเส้นทางบันเทิง แต่ทว่าในความเป็นจริงหนทางไปสู่จุดนั้นไม่ได้สะดวกสบายเหมือนปูด้วยซีแพคโมเนีย เหตุนี้ทั้งคู่จึงมีหน้าที่ในการปูพรมให้กับความฝันเหล่านั้น ด้วยข้อเสนอพาเข้าสู่วงการแลกกับเงินค่านายหน้า ในช่วงต้นนั้นดูเหมือนว่าทั้งมาร์ตินและคลาเรนซ์จะสนุกสนานกับงานที่กำลังแล่นฉิวด้วยดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองเริ่มบังเกิดคำถามว่าบริษัทได้เสนอหนทางที่ดีแก่คนเหล่านั้นจริงหรือ


Garage Olimpo
Marco Bechis, Italy/Argentina, 1999, 98min

ในกลางยุค 70 อาร์เจนติน่าเมื่อครั้งระบอบเผด็จการยังฝังรากความโหดร้ายอยู่ทั่วหัวระแหง การจับกุมผู้ต่อต้านรัฐบาลพบเห็นเป็นปกติบนท้องถนน มาเรียเป็นครูสาวผู้เร้นโฉมนักกิจกรรมการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาลทหารไว้เบื้องหลัง เธอพบรักกับเฟลิกซ์หนุ่มขี้อายที่เช่าห้องในบ้านแม่ของเธออยู่ ในเช้าวันที่อากาศแจ่มใส เจ้าหน้าที่รัฐบาลบุกจับตัวมาเรียไปยังโกดังร้างซึ่งเป็นที่คุมขังนักโทษการเมือง ที่นั่นเธอพบกับการทรมานอันแสนโหดร้าย และมันก็ทวีความรวดร้าวขึ้นไปอีกเมื่อเธอพบว่าหนึ่งในผู้คุมนั่นคือ เฟลิกซ์หนุ่มคนรักของเธอเอง ขณะที่อีกด้านหนึ่งผู้เป็นแม่ก็กำลังออกตามหาลูกสาวด้วยหัวใจแตกสลาย


Train of Shadows
Jose Luis Guerin, Spain, 1997, 81min

ผลงานในยุคแรกของ โฮเซ่ หลุยส์ เกอริน ก่อนที่จะโด่งดังเป็นที่รู้จักใน In the City of Sylvia ซึ่งแสดงถึงความหลงไหลในมนต์ขลังของหนังเงียบยุคแบเบาะของภาพยนตร์ Train of Shadows นั้นเป็นการผสมผสานกันของฟุตเตจหนังบ้านของครอบครัวชาวปาริเซียงที่สาบสูญไปกว่า 70 ปี ตัดสลับกับภาพเหตุการณ์สมัยปัจจุบัน ซึ่งพาเราไปดื่มด่ำกับความรื่นรมย์ทางภาพและเสียงอันเป็นแบบฉบับของเกอริน ทั้งสองส่วนถูกร้อยโยงกลมกลืนราวกับภาพการหยอกล้อของยุคสมัย ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเบาะแสชั้นดีต่อการติดตามร่องรอยการเติบโตทางความคิดของ โฮเซ่ หลุยส์ เกอริน รวมถึงยังเป็นดั่งภาพฉายที่แสดงการขับเคลื่อนของวงล้อนวัตกรรมภาพยนตร์ที่แล่นผ่านหน้าต่างแห่งยุคสมัย



Hounds
Ann-Kristin Reyels, Germany, 2007, 86min

ช่วงเวลาสุขสมแห่งเทศกาลคริสมาสต์ ลาร์สเด็กหนุ่มวัย 16 ปีที่ครอบครัวเพิ่งแตกแยก ต้องระเหเซซังตามพ่อจากเบอร์ลินมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในหมู่บ้านไกลปืนเที่ยง ความเป็นคนเมืองแปลกถิ่นนั้นสร้างความแปลกแยกต่อสองพ่อลูกอยู่ไม่น้อย และบรรยากาศภายในบ้านเองก็ใช่จะแตกต่าง ความเงียบได้ก่อตัวขึ้นเป็นกำแพงขวางกั้นความสัมพันธ์ของพ่อลูกในท่ามกลางบรรยากาศยะเยือก แต่แสงสว่างยังพอมี เมื่อลาร์สได้สานสัมพันธ์มารีสาวใบ้ผู้จูงมือลาร์สหันเหออกจากสภาวะเศร้าหมองที่เกาะกุมอยู่ภายใน Hounds เป็นผลงานเรื่องแรกและเป็นภาพยนตร์จบการศึกษาของผู้กำกับสาวอาน คริสติน เรเยลส์ ซึ่งคว้ารางวัลนักวิจารณ์ในสายฟอรั่มจากเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลินปี 2007



Body Rice
Hugo Vieira da Silva, Portugal, 2006, 118min

แคทรินและจูเลีย สองสาวน้อยวัยแรกแย้มถูกส่งไปดัดสันดานพร้อมกับกลุ่มหนุ่มสาวชาวเยอรมัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับทัศนคติและเรียนรู้การอยู่ร่วมกันยังภูมิภาคกันดารแดนใต้ของโปรตุเกส โดยไม่ลืมพกพาความแปลกแยกต่อสังคมติดตัวมาด้วย ที่นี่เอง ทั้งสองได้สนิทสนมกับเปโดรเด็กหนุ่มเจ้าถิ่นที่แบกความผิดแผกไว้บนใบหน้าไม่ต่างกัน แต่กระนั้นการเข้าไปปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆก็เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายเหลือกำลัง ภูมิทัศน์แห้งผากเคว้งคว้างนั้นก็รังแต่เป็นตัวบีบเร้าบรรยากาศความตึงเครียดให้สุมรุมขึ้นภายในจิตใจ มีเพียงแต่การเต้นรำอย่างเมามันส์กับปาร์ตี้ดนตรีแทรนซ์เท่านั้น ที่ดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมเดียวที่ปลดปล่อยทุกคนจากสภาวะซึมกระทือได้ชั่วขณะ Body Riceเป็นหนังเรื่องแรกของ ฮูโก้ วิเอร่า ดา ซิลวา ผู้กำกับฯดาวรุ่งของโปรตุเกส ที่มีสไตล์ใกล้เคียงกับ กัส แวงต์ ซองต์ หรือรุ่นพี่ร่วมชาติอย่างเปโดร คอสต้า ด้วยภาษาหนังที่เนิบนิ่ง ใช้ภูมิทัศน์อันเวิ้งว้างของสถานที่และดนตรีจังหวะเมามันส์เป็นส่วนช่วยขับเร้าบรรยากาศ

The Art of Crying
Peter Schonau Fog, Denmark, 2006, 106min

ภาพยนตร์ตลกร้ายชิ้นเยี่ยมสร้างจากนิยายของเออริ่ง เยปเซ่น ที่ทำให้ผู้ชมทั้งหัวเราะร่าน้ำตารินไปเรื่องราวของอัลลันเด็กวัย 11 ปี ผู้พยายามรักษาบรรยากาศความอบอุ่นของครอบครัวเล็กๆที่ผิวเผินเหมือนจะอุ่นหนาแต่ความเว้าแหว่งได้ซ่อนตัวอยู่ในหล่มลึกใต้เงามืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตัวการสำคัญคือพ่อผู้ขี้ใจน้อย ที่ขู่จะฆ่าตัวตายทุกครั้งหากไม่ได้ดั่งใจ ในงานศพของลูกชายเพื่อนบ้านคู่อริ เขาค้นพบว่าพ่อนั้นมีพรสวรรค์ในการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญในงานศพ อัลลันพยายามทำทุกวิถีทางในการสร้างความสุขขึ้นในใจพ่อ โดยไม่ได้นึกมาก่อนเลยว่าความไม่เดียงสาของตัวเองนั้นได้เป็นมูลเหตุสำคัญ ที่พอรู้สึกตัวอีกทีความเจ็บปวดก็สวาปามเขาและครอบครัวเสียเต็มอิ่มแล้ว

Tricks
Andrzej Jakimowski, Poland, 2007, 95min

สเตเฟ็กหนูน้อยวัย 6 ขวบ อาศัยอยู่กับแม่และพี่สาวในเมืองเล็กเงียบสงบมุมหนึ่งของโปแลนด์ เด็กน้อยดำเนินชีวิตวัยใสไปกับการเล่นสนุกกับจินตการและอยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นกับของเล่นที่สมมุติเป็นตัวละคร การเล่นเดิมพันในเหตุการณ์รายทางกับพี่สาว หรือแอบปล่อยนกพิราบของเพื่อนบ้าน รวมถึงการไปเล่นซนที่สถานีรถไฟเป็นงานอดิเรก ที่ทำให้วันหนึ่งเด็กน้อยเกิดความสงสัยในตัวของชายแปลกหน้าที่เขาพบเห็นที่สถานีทุกวันว่าอาจจะเป็นพ่อที่ทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ความอยากรู้อยากเห็นและความซุกซนอันสดใสของสเตเฟ็กนี่เอง ที่ได้สร้างความยุ่งขิงให้กับผู้คนรายล้อมอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวที่กำลังพยายามสมัครงานกับองค์กรอิตาเลียน แฟนหนุ่มของพี่สาว และชายกลางคนที่ถูกเด็กน้อยแอบติดตาม Tricks เป็นหนังน่ารักอบอุ่นที่ถ่ายทอดความสัมพันธ์ของผู้คนหลายชีวิต ผลงานของอันเดรจ จาคิโมวสกี้ ผู้กำกับที่น่าจับตาชาวโปแลนด์ ที่เคยฝากผลงานที่ดีไม่หย่อนไปกว่ากันอย่าง Squint Your Eyes

Boogie
Radu Muntean, Romania, 2008, 119min

กระแสภาพยนตร์จากแดนผีดิบนั้นมาแรงแซงโค้งหลายชาติในช่วงที่ผ่านมา ผู้กำกับสายเลือดใหม่ต่างพากันตบเท้าบนพรมแดงของเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลกกันขวักไขว่ ราดู มุนเตียนในวัยสามสิบก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น Boogie ผลงานเรื่องที่ 3 นั้นฉายภาพของ บ๊อกดานชายวัยสามสิบต้นที่สูญเสียวัยหนุ่มไปกับชีวิตครอบครัว ในช่วงวันหยุดพักผ่อนของครอบครัวที่ริมหาด เขาได้บังเอิญพบกับสองเกลอเก่าที่เคยกอดคอกันเมาป่วงสมัยวัยเฮ้ว เมื่อทั้งสามออกตระเวนราตรีกันในค่ำคืนเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำอันแสนสุข เขาพบว่าสองซี้นั้นแทบไม่เปลี่ยนไปเลยจากอดีต อารมณ์ถวิลหาชีวิตในวัยอิสระได้หวนคืนเข้ามาในความคิดคำนึง แต่จะให้ตัดสินใจเช่นไรในเมื่อเหลียวมองไปข้างหลัง ยังมีทั้งลูกวัยชายวัยกระเตาะกับภรรยาขี้หึงที่เขารักให้ต้องรับผิดชอบ

Fissures
Alante Kavaite, France, 2006, 87min

หนังที่อาจทำให้คลอด ชาโบรลละสังขารด้วยความโล่งใจเสียที เล่าเรื่องของสาวน้อยชาร์ลอต ช่างบันทึกเสียงประจำกองถ่ายสารคดี ที่ข่าวการตายอย่างกะทันหันของแม่ได้พาเธอกลับไปเยี่ยมเยียนบ้านเก่าซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ ความหวังเดียวในการคลี่คลายปริศนาคือสารวัตรสืบสวนประจำท้องที่ แต่ก็เหมือนว่าความเชื่องช้านั้นจะเป็นเครื่องหมายของตำรวจ หากในเมื่อกฎของเวลานั้นคือไม่เคยคอยท่าสิ่งใด ชาร์ลอตต์จึงลงมือสืบเสาะเรื่องราวด้วยตนเอง หากราวกับยมทูตผู้อารีได้ยื่นมือเข้าโอบรัด เครื่องบันทึกเสียงของเธอนั้นเกิดถ่ายทอดแว่วเสียงจากอดีตได้ ภาพเหตุการณ์หลากหลายได้ผุดเข้ามาในมโนภาพราวกับเม็ดเหงื่อ เงื่อนงำการฆาตกรรมได้เขม็งเกลียวเช่นเดียวกับเส้นด้ายที่เธอใช้ผูกโยงเรื่องราวจากเสียงกระซิบพรายจากอดีต ท่ามกลางบรรยากาศขมุกขมัวไหลเลื่อนอย่างเชือนชา โฉมหน้าแห่งอดีตนั้นไม่เพียงแต่เปิดเผยฆาตกรตัวจริงให้รับรู้ แต่มันยังนำพาความทรงจำอันปวดร้าวของเธอและครอบครัวกลับมาอีกครั้ง

La Zona
Rodrico Pla, Mexico, 2007, 97min

นอกจากคาร์ลอส เรย์กาดาส, อามัต เอสคาลันเต้ และเฟอร์นานโด เอมบ์คเค ที่หนังอุดมด้วยความเอื่อยเฉื่อยเนือยนิ่งแล้ว โรดริโก้ พลาดาวรุ่งอีกคนหนึ่งของวงการหนังเม็กซิกันที่สไตล์ของเขาแตกต่างไปจากรุ่นพี่ข้างต้นอย่างสิ้นเชิง La Zona ภาพยนตร์เรื่องแรกเปรียบเสมือนกับภาพจำลองของความเหลื่อมล้ำของสองสังคม บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มชนชั้นกลางผู้มีอันจะกิน พวกเขารวมตัวกันก่อตั้งสังคมปิดซึ่งโดดเดี่ยวตัวเองจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ในหมู่บ้านที่ชื่อว่า La Zona ที่ภายนอกขอบเขตของกำแพงมโหฬารเยือกเย็นไปแล้วก็คือชุมชนสลัมของผู้ยากจนที่ล้อมรอบอยู่ ภายในหมู่บ้านแห่งนี้กฏเกณฑ์ภายนอกนั้นไร้ความหมาย เพราะพวกเขามีกฏหมายบังคับใช้ของตัวเอง การดำรงชีวิตอยู่โดดตัดขาดจากโลกภายนอกนั้นดูจะไม่เป็นปัญหา ทุกอาณาบริเวณถูกจับตาด้วยกล้องวงจรปิดตลอดเวลา จนกระทั่งในค่ำคืนหนึ่งที่ฝนฟ้าคะนอง เหตุฆาตกรรมหญิงหม้ายที่ฆาตกรเป็นกลุ่มเด็กหนุ่มไร้หัวนอนปลายเท้าจากภายนอก ซึ่งนั่นนำไปสู่การกระตุ้นเร้าสัญชาติญาณดิบในตัวพวกเขาออกมา

25 Watts
Juan Pablo Rebella / Pablo Stoll, Uruguay, 2001, 90min

กลางกรุงมอนเตวิเดโอประเทศอุรุกวัย เลเช่ ชาบี้ และ เชบา สามหนุ่ม นั้นเป็นดั่งตัวแทนของวัยกระทงที่กำลังก้าวผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อชีวิตวัยคะนอง กิจวัตรของสามหน่อ คือโต๋เต๋ไปมาเที่ยวตบหมูเตะหมาด่าแม่เจ็กก่อกวนชาวบ้านร้านตลาดไปทั่ว นอกจากนี้คือปัญหาส่วนตัวที่ไม่มีอะไรมากไปกว่า เรื่องระหองระแหงกับแฟน หลงรักอาจารย์สาวและหวังแอ้มอยู่ลึกๆ หรือสุมหัวกันดูหนังโป๊ สองผู้กำกับ ฮวน พาโบล รีเบลล่า และ พาโบล สตอล ใช้รูปแบบทมึนทึมของภาพยนตร์ขาวดำและมุมกล้องสวิงสวาย ถ่ายทอดความเคว้งคว้างสับสนในชีวิตวัยรุ่นออกมาอย่างโดดเด่น จนคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์ร็อตเตอร์ดามปี 2001


Alice's House
Chico Teixeira, Brazil, 2007, 94min

ภาพยนตร์สไตล์หญิงแกร่งชีวิตต้องสู้สัญชาติบราซิล เล่าเรื่องของอลิซหญิงช่างเสริมสวยวัยกลางคน เธออาศัยอยู่ในห้องซอมซ่อกับสามีและแม่แก่ชรารวมถึงลูกชายอีก3 คน ปัญหามากมายสุมรุมอยู่ในห้องแคบๆให้เธอต้องขบคิดไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นชีวิตแต่งงานกว่า20 ปีกับสามีที่ระหองระแหงมาร่วมปี ลูกชายทั้ง 3 ก็ขยันสร้างเรื่องปวดหัวมาให้และไม่เคยใส่ใจในตัวเธอเลย ความสัมพันธ์หวานชื่นกับหนึ่งในลูกค้าของเธอที่เหมือนจะเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจได้บ้าง กลับยิ่งทำให้เธอว้าวุ่นจากความรู้สึกผิดอยู่ภายใน หนำซ้ำยังมาจับได้ว่าชู้รักของสามีแท้ที่จริงแล้วเด็กสาวที่เธอให้ความไว้ใจเสียอีก


Paraguayan Hammock
Paz Encina, Paraguay, 2006, 78min

หนึ่งในห้าภาพยนตร์โครงการ New Crowned Hope ที่มีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระ 250 ปีประพันธกรโมซาร์ต ที่นักวิจารณ์หลายคนลงความเห็นว่าเป็นชิ้นที่เยี่ยมที่สุด ผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับหญิงชาวปารากวัยปาซ เอนซิน่า ย้อนกลับไปในปี 1935 ในพื้นที่รกเรื้อของดินแดนสงบสงัด มันเป็นช่วงเวลาที่สงครามกำลังก่อตัวอยู่ ณ พื้นที่ห่างไกล บนเปลญวนที่สายลมอบอุ่นกำลังโบกโบย สองคู่ชีวิตวัยชรากำลังสนทนากันถึงดินฟ้าอากาศ บ้างชี้ชวนกันดูสรรพสิ่งรอบกาย โน่นแหนะนกเขากรู โน่นแหนะเสียงหมาเห่า โน่นแหนะกิ่งไม่ไหว พลางรำพึงรำพรรณถึงการจากไปสงครามของลูกชาย และเฝ้าถวิลถึงวันเวลาที่เขาจะกลับมา

No comments: