Wednesday, December 27, 2017

GLOBAL MIGRATION FILM FESTIVAL 2017

FILMS SEEN IN THE GLOBAL MIGRATION FILM FESTIVAL 2017

IN PREFERENTIAL ORDER

1.IT WAS HOTEL CAMBRIDGE (2016, Eliane Caffé, Brazil, A+30)

2.SOUND OF TORTURE (2013, Keren Shayo, Israel, documentary, A+30)

3.PROBLEMSKI HOTEL (2015, Manu Riche, Belgium, A+30)

4.KSHITIJ (A HORIZON) (2016, Manouj Kadamh, India, A+30)

5.LUCKY SPECIALS (2017, Rea Rangaka, South Africa, A+30)

6.THE FORGER (2016, Pamela Druckerman, Samantha Stark, Alexandra Garcia, documentary, A+30)

7.THE CIRCLE (2016, Ruken Tekes, Turkey, short film, A+30)

8.TWELVE (2008, Lester Alfonso, Canada, documentary, A+25)

9.HOME (2016, Daniel Mulloy, UK, short film, A+25)

10.IN CANADA (2014, Michael Morein, Canada, documentary, A+15)

--นอกจากนี้ ในเทศกาลยังมีการฉายคลิปสั้นๆ SOY MIGRANTE จากอาร์เจนตินาด้วย เราได้ดูไป 3 คลิป ชอบมากๆเลย ถ้าจำไม่ผิด คลิปนึงเป็นเรื่องของสาวเฮติในอาร์เจนตินา อีกคลิปนึงเป็นเรื่องของหนุ่มอุรุกวัยที่มาทำขนมปังในอาร์เจนตินา และอีกคลิปนึงเป็นเรื่องของสาวลาตินอเมริกา (จำประเทศไม่ได้) ที่มาเรียนปริญญาโทหรือทำงาน NGO ในอาร์เจนตินา

ชอบเรื่องของหนุ่มอุรุกวัยในอาร์เจนตินามาก คือก่อนหน้านี้เรามักจะมองว่า ผู้อพยพพวกนี้มันไม่น่าจะเจอปัญหาอะไรเลยนะ เพราะมันพูดภาษาสเปนเหมือนกัน หน้าก็คล้ายๆกัน คือเวลาพวกเขาไปไหนมาไหนในอาร์เจนตินา พวกเขาไม่น่าจะถูกเหยียด เพราะคนอาร์เจนตินาไม่น่าจะมองออกว่าพวกเขาเป็นชาวต่างชาติ แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่า ประเทศต่างๆในอเมริกาใต้มันมีการเหยียดกันยังไงบ้าง หรือมีลำดับชั้นในการเหยียดยังไงบ้าง

แต่หนุ่มอุรุกวัยเล่าว่า ยุคแรกๆที่เขามาทำงานในอาร์เจนตินา เขาใช้รถที่มีป้ายทะเบียนอุรุกวัย เขาก็เลยถูกคนอาร์เจนตินาตะโกนด่าว่า “กลับประเทศมึงไป” อะไรทำนองนี้

เขาบอกว่า เขาคิดถึงภาษาพื้นเมืองอะไรสักภาษาของเขาด้วย คือเราจำชื่อภาษาไม่ได้ แต่มันไม่ใช่ภาษาสเปน เราก็เลยได้ความรู้ใหม่ว่า คนอุรุกวัยบางกลุ่มเขาก็มีภาษาของตนเองที่ไม่ใช่ภาษาสเปนเหมือนกัน

--อยากรู้ว่าใคร curate หนังในเทศกาลนี้ เพราะรสนิยมมันตรงกับเราอย่างสุดๆ

--ฉากที่ชอบที่สุดฉากนึงในปีนี้ อยู่ใน IT WAS HOTEL CAMBRIDGE เป็นฉากที่ตัวละครหญิงชาวบราซิลคนนึงเจอหนุ่มหล่อชาวปาเลสไตน์ เธอก็เลยชวนเขามาที่ห้อง แล้วเล่าประวัติตัวเองให้หนุ่มปาเลสไตน์ฟัง เธอเล่าว่า เธอเคยอยู่คณะละครสัตว์ และสนิทกับช้างตัวนึง เธออาบน้ำให้ช้างตัวนี้เป็นประจำ แต่มีวันนึงเธอป่วย คณะละครสัตว์ก็เลยให้คนอื่นมาอาบน้ำให้ช้างตัวนี้ แล้วช้างตัวนี้ไม่พอใจ ก็เลยทำร้ายคนที่มาอาบน้ำให้ ทางคณะละครสัตว์ก็เลยต้องฆ่าช้างตัวนี้ทิ้งไป เธอก็เลยเสียใจมากๆ มันเป็นปมชีวิตที่ฝังใจเธอมานานหลายปีแล้ว

แล้วเธอก็บอกกับหนุ่มหล่อชาวปาเลสไตน์ว่า “คุณรู้มั้ยว่า คุณมาที่นี่ทำไม คุณมาที่นี่ก็เพื่อจะทำให้ช้างตัวนี้ได้กลับมาเกิดใหม่ในครรภ์ของดิฉันยังไงล่ะ” แล้วเธอก็พยายามเสยหีใส่หนุ่มหล่อชาวปาเลสไตนอย่างรุนแรง


แน่นอนว่า IT WAS HOTEL CAMBRIDGE เป็นหนึ่งในหนังเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยที่ดิฉันชอบมากที่สุดในชีวิตค่ะ

No comments: