TUMHARI SULU (2017, Suresh Triveni, India,
A+30)
1.ช่วงแรกๆจะรู้สึกไม่ค่อยอินกับนางเอก
เพราะนางเอกมีอารมณ์ชื่นมื่นเบิกบานตลอดเวลา แบบเดียวกับนางเอก HAPPY-GO-LUCKY (2008, Mike Leigh) ส่วนเราจะเป็นคนที่คิดเรื่องฆ่าตัวตายอยู่ทุกวัน
เพราะฉะนั้นเราจะไม่อินกับนางเอกประเภทอารมณ์สดใสแบบนี้
2.แต่พอเข้าสู่ช่วงหลังๆของเรื่อง
ก็ชอบหนังแบบสุดๆไปเลย เพราะนางเอกและครอบครัวของนางเอกมันเจอปัญหาชีวิตหนักหน่วง
แต่นางเอกมีอาชีพเป็นดีเจที่ต้องคอยสร้างอารมณ์สดใสให้แก่ผู้ฟัง
และพูดคุยเจื้อยแจ้วเจ๊าะแจ๊ะกับผู้ฟัง เพราะฉะนั้นมันก็เลยเป็นการวัดกันไปเลยว่า
มึงจะยังพูดคุยอย่างสดใสกับผู้ฟังได้หรือเปล่า
ในเมื่อชีวิตจริงของมึงพังพินาศไปแล้ว คือจุดนี้ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง THE BIG SICK ด้วย
ที่พระเอกต้องขึ้นแสดงตลกสดๆต่อหน้าผู้ชม ในขณะที่ชีวิตจริงพังพินาศ
3.ปีนี้อินเดียผลิตหนังเกี่ยวกับปัญหาชีวิตผู้หญิงออกมาเยอะมาก
ซึ่งมันก็คงสะท้อนสภาพสังคมของอินเดียเองนั่นแหละ
ที่ผู้หญิงยังขาดความเท่าเทียมกับผู้ชายอยู่ ในขณะที่ชาติตะวันตกแทบไม่ผลิตหนังแบบนี้ออกมาแล้ว
หนังเกี่ยวกับชีวิตผู้หญิงอินเดียที่เราชอบในปีนี้
ก็มีเช่น DANGAL (2016, Nitesh Tiwari), MOM (2017, Ravi Udyawar), SECRET
SUPERSTAR (2017, Advait Chandan), TOILET – EK PREM KATHA (2017, Shree Narayan
Singh) และก็เรื่องนี้นี่แหละ
No comments:
Post a Comment