MEMORIES OF SOME THAI SHORT FILMS ตอน 3
แล้วก็มาถึงเทศกาลภาพยนตร์ที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ซึ่งก็คือ
“การประกวดภาพยนตร์สั้น ครั้งที่ 1” ซึ่งจัดขึ้นที่หอประชุมสถาบันปรีดี
พนมยงค์ในวันที่ 16-17 ส.ค. 1997 โดยมูลนิธิหนังไทย
หนังที่เราจำได้ว่าเคยดูในเทศกาลนี้ ก็รวมถึงเรื่อง
1.หมดทางหนี THE IMPOSSIBLE ESCAPE (1996, เมธา นาเจริญกุล, Michel
A. Reynolds)
2.โลกขยะ RUBBISH (1997, มนต์ชัย
น้อยคำสิน)
3.เพื่อนร่วมทาง (1996, ศุภจิต สิงหพงษ์)
4.ไอ้จุก (1997, อธิปัตย์ กมลเพ็ชร, animation)
5.กระเทยเป็นเหตุ (1947, กลุ่ม Ledger
ธนาคารมณฑล)
จำได้ว่าชอบ “ไอ้จุก” มากๆ
ส่วนหนังที่อยากดูอีกรอบมากๆในเทศกาลนี้ ก็คือเรื่อง “กลางดึก” (AFTER MIDNIGHT) (1996, บุญส่ง นาคภู่, 37min) คือเราจำไม่ได้ว่าเคยดู “กลางดึก”
หรือเปล่า แต่ “กลางดึก” มันฉายรอบเดียวกับ “ไอ้จุก” เพราะฉะนั้นถ้าหากเราได้ดู
ไอ้จุก ในเทศกาลนี้ เราก็น่าจะเคยดู “กลางดึก” ด้วย แต่เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ตอนที่เราไปงานเทศกาลหนังสั้นปีแรก เราก็ชอบหนังส่วนใหญ่ในเทศกาลในระดับราว
A+15 มั้ง
(ถ้าวัดตามเกรดในปัจจุบัน) คือไม่ได้ชอบมากในระดับสุดๆ แต่ก็ชอบมากในระดับนึง
เหมือนหนังส่วนใหญ่ที่เราได้ดูในเทศกาลหนังสั้นปีแรก มันไม่ค่อยมี “หนังทดลอง”, “หนังบ้านๆ”
หรือ “หนังบ้าๆบอๆ” สักเท่าไหร่น่ะ เพราะในยุคนั้น มันยังไม่มีเทคโนโลยี digital
การทำหนังก็เลยน่าจะยังเป็นเรื่องยากอยู่สำหรับคนทั่วไป
หนังส่วนใหญ่ในเทศกาลนี้ก็เลยเป็นหนังที่นักศึกษาน่าจะทำส่งอาจารย์
มีการเล่าเรื่อง มีประเด็นชัดเจน และถ้าไม่เป็นหนังสะท้อนประเด็นสังคมชัดเจนไปเลย
ก็จะเป็นหนังรักวัยรุ่นโรแมนติก ซึ่งเราไม่อิน 555
จำได้ว่า “เพื่อนร่วมทาง” เป็นหนังสยองขวัญ
มันก็เลยโดดเด่นจากหนังเรื่องอื่นๆในเทศกาล แต่เราก็ไม่ได้ชอบหนังมากนัก
เพราะมันเป็นเรื่องของฆาตกรฆ่าข่มขืนที่โดนผีเหยื่อตามมาล้างแค้น
แล้วพอตัวเอกมันเป็นฆาตกรฆ่าข่มขืน ถึงหนังมันจะทำบรรยากาศออกมาได้น่ากลัว
เราดูแล้วก็ไม่กลัวน่ะ เพราะมันไม่ใช่ “ผีที่จะมาหลอกคนทั่วๆไป”
เราก็เลยไม่รู้สึกว่า “ผู้ชมเองก็สามารถเจอกับสถานการณ์แบบนี้
หรือเจอผีหลอกแบบนี้ได้” เราก็เลยไม่ได้ชอบ “เพื่อนร่วมทาง” ในระดับแบบสุดๆ
จริงๆแล้วมันก็มีหนังบ้านๆฉายในงานนี้นะ ซึ่งก็คือเรื่อง “ศีล 4”
(1997, กุลชาติ จิตขจรวานิช, ลือชัย โพธิกุล) แต่เราจำไม่ได้ว่าเราได้ดู ศีล 4 ในเทศกาลนี้
หรือดูตอนที่มันมาฉายในงาน retrospective ของกุลชาติ
จิตขจรวานิช
เหมือนตอนที่ไปดูเทศกาลหนังสั้นไทยในปี 1997 เราก็ไม่นึกไม่ฝันเลยนะ
ว่ามันจะกลายเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่อยู่กับเรามานาน 20 กว่าปีจนถึงตอนนี้ และกลายเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญกับชีวิตการดูหนังของเรามากๆในเวลาต่อมา
No comments:
Post a Comment