Saturday, October 19, 2019

JOKER

JOKER (2019, Todd Phillips, A+30)

1.ชอบหนังมากๆเลยนะ แต่ชอบในระดับประมาณว่า คงไม่ติด 50 อันดับประจำปี แต่อาจจะติด 100 อันดับประจำปีน่ะ

คือถ้าเทียบกับหนังกลุ่ม superhero เราก็ชอบมากแหละ รู้สึกว่ามันข่วยขยายขอบเขตของหนังกลุ่ม superhero  ให้ไปไกลออกไปมากขึ้น และแน่นอนว่าไปไกลกว่าหนังอย่าง VENOM (2018, Ruben Fleischer) ที่เอาตัวละครผู้ร้ายมาทำเป็นพระเอกเหมือนกัน เพราะ VENOM มันก็เหมือนๆหนัง superhero ทั่วไปอยู่ดี ในขณะที่ JOKER เหมือนแค่เอาแรงบันดาลใจจากตัวละคร Joker ใน BATMAN มารังสรรค์เป็นตัวละครมนุษย์ปุถุชนที่น่าสนใจมากๆ

เราชอบไอเดียการหยิบเอาตัวละครผู้ร้าย หรือตัวละครประกอบในนิยายเรื่องต่างๆ มาสร้างเป็นเรื่องราวใหม่มากเลยน่ะ เพราะมันตรงกับไอเดียที่เราคิดมานานมากๆแล้วเหมือนกัน เพราะตอนเด็กๆ เราพบว่า เราหลงใหลในตัวละครผู้ร้ายหรือตัวประกอบหลายตัวในละครทีวีฮ่องกงและในการ์ตูนญี่ปุ่นมากเลยน่ะ และอยากให้มีคนเอา "แรงบันดาลใจ" จากตัวละครเหล่านี้ มาสร้างเป็นตัวละครตัวใหม่ในโลกยุคปัจจุบัน ที่มีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกับตัวละครดั้งเดิม ตัวละครอย่างเช่น "เหมยเชาฟง" และ "ลี้มกโช้ว" ใน มังกรหยก, "แมงมุม/ฮึงลี้" ใน ดาบมังกรหยก, "อาจื่อ" ในแปดเทพอสูรมังกรฟ้า, Sailor Saturn จาก SAILOR MOON, "ภูติน้ำ" ใน CRYSTAL DRAGON อะไรพวกนี้ เราอยากให้มีคนเอาตัวละครเหล่านี้มาดัดแปลงเป็นหนังแบบ JOKER มากๆ 555

2.แต่ถึงแม้ JOKER จะสร้างความประทับใจให้แก่เราอย่างมากๆ เมื่อนำมันไปเทียบกับหนัง superhero เรากลับพบว่า มันไม่ได้สร้าง "ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ" ให้เรา เมื่อเทียบกับหนังกลุ่ม "คนธรรมดา ที่กลายเป็นคนชั่ว" เรื่องอื่นๆน่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไม

คือหนังอย่าง L'ARGENT (1983, Robert Bresson), BREMEN FREEDOM (1972, Rainer Werner Fassbinder), BAISE-MOI (2000, Virginie Despentes + Coralie Trinh Thi), NOTHING CAN TOUCH ME (2011, Milad Alami) และละครทีวีฮ่องกงเรื่อง CONSCIENCE ที่นำแสดงโดย เส้าเหม่ยฉี นี่ถือเป็นกลุ่มหนังที่เราชอบมากที่สุดในชีวิตเลยน่ะ และหนังกลุ่มนี้มีจุดร่วมกันก็คือว่า มันนำเสนอตัวละครที่เป็นคนธรรมดา ที่กลายเป็นคนชั่วหรือฆาตกรโรคจิตที่ฆ่าผู้บริสุทธิ์จำนวนมากในเวลาต่อมา เพราะปัจจัยต่างๆกันไป ทั้งความไม่เป็นธรรมในสังคม, การถูกผู้อื่นรังแก หรือความน็อตหลุดของตัวละครเอง

แต่ในขณะที่หนังกลุ่มข้างต้นทำให้เราฟินสุดๆ ขึ้นหิ้งหนังสุดโปรดตลอดกาล JOKER กลับไม่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ความผิดของหนังนะ มันอาจจะเป็นเพียงเพราะว่า ผู้ชมแต่ละคนคงอินกับตัวละครแตกต่างกันไปน่ะ

3.เรากลัว Joker เวอร์ชั่นของ Heath Ledger มากกว่าเวอร์ชั่น Joaquin หลายเท่าด้วยแหละ เพราะเราว่า Joker ของ Heath มันตั้งใจจะฆ่าผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก และมันเหมือนคนที่ถูกครอบงำด้วยตรรกะที่เลวร้าย วิปริต แบบ องคุลีมาล อะไรทำนองนี้ 555

แต่ Joker เวอร์ชั่นของ Joaquin ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่า เขาเป็นญาติห่างๆของ มธุสร ใน "ล่า" น่ะ เพราะ Joker ตัวนี้ เหมือนจะฆ่าเพียงแค่คนที่ไปทำร้ายเขาก่อนเท่านั้น (ยกเว้นฉากท้ายสุด) ไม่ได้ไล่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปทั่วแบบตัวละครใน BAISE-MOI หรือ  L'ARGENT

4. ในส่วนการลุกฮือของกลุ่มคนในหนังเรื่องนี้นั้น เราดูแล้วก็รู้สึกเฉยๆนะ ซึ่งแตกต่างจากการลุกฮือใน US (2019, Jordan Peele) ที่ดูแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจที่สุด

5. อีกปัจจัยที่ทำให้รู้สึกไม่ค่อยกลัวตัวละคร Joker มากเท่ากับที่เราคาดไว้ในตอนแรก เป็นเพราะเรารู้สึกหวาดกลัวผู้คนมากมายที่อยู่รอบตัวเราในสังคมไทยมากกว่าหลายเท่า 555

คือตอนช่วงแรกที่เราดู JOKER เราเดาไปก่อนล่วงหน้าว่า พอเราดูไปจนถึงตอนจบ เราคงจะหวาดกลัวตัวละคร Joker มากๆ และเสียงหัวเราะของตัวละครตัวนี้ คงจะเป็นอะไรที่ disturbing อย่างสุดๆสำหรับเราในตอนจบ

แต่ปรากฏว่า เราคาดการณ์ผิดหมดเลย เพราะพอดูจบแล้ว เรากลับรู้สึกเหมือนกับว่า  Joker เป็นเหมือนกับ "เด็กน้อยน่ารัก" ในสายตาของเรา และเสียงหัวเราะของเขา ก็ไม่ทำให้เรารู้สึก disturbing แต่อย่างใด

สิ่งที่ disturbing เรา หรือผู้คนที่เราหวาดกลัว คือผู้คนที่ยิ้มหรือ "หัวเราะ" ที่ท้องสนามหลวงในเหตุการณ์ 6 ต.ค. หรือดารา/ผู้คนที่ชื่นชมการกระทำของมือปืนป๊อปคอร์น อะไรแบบนั้นมากกว่า

เพราะพอฉะนั้น พอเราดู JOKER จบแล้ว เราก็เลยรู้สึกว่า ตัวละครตัวนี้เหมือนหนูน้อยน่ารัก และเราไม่กลัวเขา โดยเฉพาะเมื่อเราเติบโตขึ้นมาท่ามกลางผู้คนแบบนี้ในสังคมไทย ซึ่งเป็นผู้คนที่เราหวาดกลัวมากกว่า Joker  อย่างเทียบกันไม่ติด

No comments: