ขอจดบันทึกไดอารี่สั้น ๆ ว่า
1.ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. เรามีอาการปวดหลัง, ปวดเอว, ปวดขา เหมือนโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนกำเริบ
แต่เราไม่กล้าไปโรงพยาบาล เพราะกลัวโควิด เราก็เลยอดทนรอ จนอาการมันดีขึ้นเอง
2.มีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงในเดือนเม.ย. แต่เราก็ไม่กล้าไปโรงพยาบาล
เพราะกลัวโควิด เราก็เลยกิน Ciprofloxacin ปรากฏว่าอาการมันดีขึ้นตั้งแต่กินเม็ดแรก
เราก็เลยกินต่อจนครบ 7 วัน
3.ริดสีดวงกำเริบ ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. แต่เราก็ไม่กล้าไปโรงพยาบาล
ก็เลยกิน Daflon ไปเรื่อย ๆ ดีที่มันยุบไปเองอย่างรวดเร็ว
4.สรุปว่าเพราะโควิดระบาด ช่วงนี้เราก็เลยพยายามรักษาโรคต่าง ๆ
ด้วยตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อยากไปโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น ก็ต้องขอกราบขอบพระคุณเจ้ากรรมนายเวร
ที่ไม่ได้ทำให้เราป่วยหนักไปมากกว่านี้
5.หนังที่ได้ดูในโรงภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายคือ SILK
ROAD (2021, Tiller Russell, A+10) ในวันที่ 24 เม.ย.
สรุปว่าตอนนี้ใช้บัตร M PASS ดูหนังไปแล้ว 55 เรื่อง ในราคา
4800 บาท เฉลี่ยเรื่องละ 87.27 บาท แต่บัตรนี้ยังใช้ได้ต่ออีกนานหลายเดือน
6.ไปดู SEOBOK ที่พารากอนในวันที่ 15 เม.ย. ได้ดูโรง 6 จอ LED
ปรากฏว่าแสงมันจ้ามาก จ้าจนเราทนไม่ไหว มันขาวสว่างโพลนไปทั้งโรง
เราดูไปได้แค่ 10 นาทีก็เลยวิ่งหนีออกมา แต่เห็นคนอื่นๆ ในโรงก็ดูกันต่อไปได้ตามปกติ
เราก็เลยเดาว่าคงเป็นเพราะการผ่าตัดต้อกระจกตาสองข้างในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
ที่อาจส่งผลให้ดวงตาเราสู้แสงสว่างไม่ได้มากเท่าคนปกติ วันนั้นเราก็เลยไปดู SEOBOK
ที่เซ็นทรัลเวิลด์ต่อ ปรากฏว่าแสงที่จอ CENTRAL WORLD มันปกติมากๆ หนังมันดูมัว ๆ ทึม ๆด้วยซ้ำไป
แต่ก่อนหน้านั้นเราเพิ่งดู MUMBAI
SAGA ที่โรง LED ที่พารากอนในวันที่ 19 มี.ค.
เราก็ไม่รู้สึกว่าแสงมันจ้าเลยนะ
7.ประทับใจ GOOGLE MAPS ที่มันถามว่า “ในสยามพารากอน มีห้างสรรพสินค้าไหม”
55555
No comments:
Post a Comment