Wednesday, July 09, 2025

TWO SYRIAN FILMMAKERS

 

มีข่าวว่าไซปรัสใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการหาศพคน 2000 กว่าคนที่ถูกฆ่าตายในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองในทศวรรษ 1960 พอเราอ่านข่าวนี้แล้วก็เลยนึกถึงหนังเรื่อง AFRICA STAR (2024, Adonis Floridis, Cyprus, 120min, A+30) ที่เราเพิ่งได้ดูที่ HOUSE SAMYAN เพราะหนังเรื่องนั้นก็นำเสนอการฆ่ากันในไซปรัสในทศวรรษ 1960 ได้อย่างน่าสะเทือนใจมาก ๆ

---

 

พอเราได้ดูหนังเรื่อง A PLATE OF SARDINES (1997, Omar Amiralay, France, about Syria, documentary, 17min, A+30) เป็นรอบที่สองในงาน Flaherty ที่หอภาพยนตร์ และได้ฟังคุณ Selma มาเสวนาเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ เราก็เลยไป google หาข้อมูลเพิ่มเติม

 

1. หนังเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเมือง Quneitra ของซีเรีย ที่อยู่ในที่ราบสูงโกลัน เมืองนี้เป็นเมืองสำคัญมาตั้งแต่ยุคจักรวรรดิออตโตมาน และเป็นเมืองสำคัญของประเทศซีเรียด้วย อย่างไรก็ดี ในช่วงที่เกิด “สงคราม 6 วัน” ในเดือนมิ.ย. 1967 อิสราเอลได้เข้ายึดเมืองนี้ ก่อนที่ซีเรียจะยึดกลับคืนมาเมื่อเกิด “สงครามยม คิปปูร์” ในปี 1973 แต่ซีเรียก็ยึดเมืองนี้คืนมาได้เป็นเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ก่อนที่อิสราเอลจะบุกเข้ายึดเมืองนี้อีกครั้งและทำลายเมืองที่สวยงามแห่งนี้ลงจนเกือบหมดในปี 1973-1974 และหลังจากนั้นอิสราเอลก็ถอยทัพออกไป ทิ้งซากเมืองนี้ไว้ให้ซีเรีย   

 

2. เนื้อหาของหนังเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ Mohammad Malas ปรมาจารย์ด้านภาพยนตร์ของซีเรีย และเขาเหมือนสนิทกับ Omar Amiralay ผู้กำกับหนังเรื่อง A PLATE OF SARDINES ด้วย โดย Amiralay เน้นสัมภาษณ์ Malas ในหนังเรื่องนี้ เพราะ Malas เกิดและใช้ชีวิตอยู่ในเมือง QUNEITRA ก่อนที่เมืองนี้จะถูกอิสราเอลทำลาย

 

Mohammad Malas เกิดที่เมือง Quneitra ในปี 1945 เขาเคยไปเรียนด้านภาพยนตร์ที่กรุงมอสโคว์ของสหภาพโซเวียต และเคยกำกับหนังสั้นเรื่อง QUNEITRA 74 (1974) กับ THE MEMORY (1977)

 

ผลงานของเขาก็รวมถึง

 

2.1 THE DREAM (1981) หนังสารคดีเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ที่ลี้ภัยมาอยู่ในเลบานอน เขาสัมภาษณ์ผู้ลี้ภัยในค่ายซาบรา และชาติลาห์ด้วย ซึ่งรวมถึงสัมภาษณ์เกี่ยวกับ “ความใฝ่ฝัน” ของผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ผู้ลี้ภัยราว 3500 คนในค่ายซาบราและชาติลาห์ในปี 1982 โดยฝีมือของกองกำลังคริสเตียนในเลบานอน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอิสราเอล

 

2.2 DREAMS OF THE CITY (1983)

 

2.3 THE NIGHT (1992) หนังอัตชีวประวัติของ Malas เอง เกี่ยวกับชีวิตของเขาและคนอื่น ๆ ในเมือง Quneitra ในปี 1936-1948

 

3. Omar Amiralay (1944-2011) ผู้กำกับหนังเรื่อง A PLATE OF SARDINES นี้ เคยสนับสนุนพรรค Baath ของซีเรียในช่วงแรก ก่อนที่เขาจะ “ย้ายข้าง” ในเวลาต่อมา เขาเคยกำกับหนังเรื่อง

 

3.1 FILM ESSAY ON THE EUPHRATES DAM (1970) ซึ่งเชิดชูโครงการสร้างเขื่อน Tabqa บนแม่น้ำยูเฟรตีส หนังเรื่องนี้สนับสนุนรัฐบาลซีเรีย

 

3.2  EVERYDAY LIFE IN A SYRIAN VILLAGE (1974) หนังเรื่องนี้เริ่มวิพากษ์รัฐบาลซีเรีย โดยแสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากเขื่อนที่มีต่อชีวิตชาวบ้านธรรมดา

 

3.3 A FLOOD IN BAATH COUNTRY (2003) เป็นหนังที่ด่ารัฐบาลซีเรียอย่างรุนแรงมาก จนหนังเรื่องนี้ถูกถอดออกจากเทศกาลภาพยนตร์คาร์เธจ อย่างไรก็ดี ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอาหรับหลายคนร่วมกันประท้วงด้วยการถอดหนังของตัวเองออกจากเทศกาลภาพยนตร์คาร์เธจด้วย ซึ่งรวมถึง Yousry Nasrallah, Annemarie Jacir, Nizar Hassan, Joana and Khalil Joreige, and Danielle Arbid ดังนั้นทางเทศกาลก็เลยตัดสินใจยอมนำหนังของ Amiralay กลับเข้ามาฉายตามเดิม

 

4. ยุคที่ Amiralay เคยสนับสนุนพรรค Baath ในช่วงแรกนั้น เป็นยุคที่ซีเรียอยู่ภายใต้การปกครองของ Hafez al-Assad ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีซีเรียในปี 1971-2000 แต่พอ Hafez ตาย Bashar al-Assad ซึ่งเป็นลูกชาย ก็ได้ขึ้นครองอำนาจต่อตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปี 2024 และ Bashar ก็เข่นฆ่าผู้คนตายไปมากมายในสงครามกลางเมือง

 

พออ่านข้อมูลเหล่านี้แล้วก็เลยรู้สึกว่า ผู้กำกับหนังซีเรียเหล่านี้มีชีวิตที่หนักจริง ๆ เพราะพวกเขาต้องเผชิญกับทั้ง “รัฐบาลเผด็จการที่โหดเหี้ยมของซีเรีย”, “กองทัพอิสราเอล” และยังเคยเผชิญกับ “กองกำลังคริสเตียนในเลบานอน” ด้วย

+++++++

 

อยู่ดี ๆ facebook ก็แจ้งเตือนเราว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.เป็นต้นไป คนจะ follow เราไม่ได้อีก ยกเว้นแต่ว่าเราจะเปลี่ยนเป็นโหมด “มืออาชีพ” หรืออะไรทำนองนี้ เราก็เลยลองเปลี่ยนโหมดตามที่ facebook ต้องการ แต่ก็เปลี่ยนด้วยความงง ๆ ไม่รู้ว่ามันจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง แต่เหมือนกับว่า เราสามารถ “ปิดโหมดมืออาชีพ” ได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าปิดเมื่อไหร่ เราก็จะสูญเสีย “ผู้ติดตามใด ๆ ที่ไม่ใช่เพื่อนของคุณ” ไป

 

ตอนนี้เราก็เลยลองใช้ “โหมดมืออาชีพ” อะไรนี่ไปก่อน แต่ถ้าหากใครมีคำแนะนำอะไรก็บอกมาได้นะ เรางง ๆ กับอะไรพวกนี้มาก ๆ

+++++++

สิ่งแรกที่นึกถึงโดยไม่ได้ตั้งใจหลังจากเห็นโปสเตอร์หนังใหม่ของ Osgood Perkins ก็คือหนังเรื่องนี้ที่ทุกคนรู้จักกันดี หนังที่ “เปลี่ยนชีวิตของเรา” 55555

 

เราเริ่ม “เขียนถึงหนัง” เป็นครั้งแรกในชีวิตในวันที่ 26 ก.ย.ปี 2000 หลังจากได้ดูหนังเรื่อง SOMBRE (1998, Philippe Grandrieux) ที่โรงภาพยนตร์ในห้างเซ็นทรัลพระรามสาม
https://www.imdb.com/title/tt0166808/review/rw0579553/?ref_=tturv_perm_14

 

No comments: