Friday, January 21, 2005

PRIVATE (A+)

หนังที่ได้ดูในวันนี้
1.PRIVATE (2004, SAVERIO COSTANZO) A+
2.ENCHANTED (2003, PUPI AVATI) A+
3.ANTARES (2004, GOTZ SPIELMANN) A
http://www.antares-themovie.com/
4.TIGERWOMEN GROW WINGS (2005, MONIKA TREUT) A-

DESIRABLE ACTOR
DENNIS CUBIC—ANTARES

FAVORITE SUPPORTING ACTOR
ANDREAS KIENDL—ANTARES


--TIGERWOMEN GROW WINGS มีเนื้อหาส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับผู้กำกับ FORMULA 17 และมีเบื้องหลังการถ่ายทำ FORMULA 17 (B+) แทรกเข้ามาเล็กน้อย

--MONIKA TREUT ผู้กำกับ TIGERWOMEN GROW WINGS มาปรากฏตัวพูดคุยกับผู้ชมที่โรงหนังด้วย น่าเสียดายที่ผู้ชมมีจำนวนน้อย ทั้งๆที่หนังเรื่องนี้เพิ่งตัดต่อเสร็จ และ “เปิดฉายรอบปฐมทัศน์ของโลก” ที่กรุงเทพนี่เอง

---คาดว่า TIGERWOMEN GROW WINGS จะได้เปิดฉายในเทศกาลหนังเบอร์ลินปีนี้เป็นลำดับถัดไป

--อ่านข้อมูลของ MONIKA TREUT ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ได้ที่ http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=1644
http://www.hyenafilms.com/

--โครงการลำดับถัดไปของ MONIKA TREUT คือการกำกับหนังสารคดีเกี่ยวกับหญิงสาวอายุ 17 ปีคนหนึ่งในไต้หวัน

--ทั้ง MONIKA TREUT, ULRIKE OTTINGER และ ROSA VON PRAUNHEIM ต่างก็เป็นผู้กำกับหนังเยอรมันที่เคยถนัดในการทำหนังแสบๆเกี่ยวกับเกย์,เลสเบียนมาก่อน แต่ไม่รู้เพราะอะไร ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้ง TREUT, OTTINGER และ PRAUNHEIM ถึงหันมาสร้างหนังสารคดีกันเป็นการใหญ่

--เนื้อหาของ TIGERWOMEN GROW WINGS แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ นั่นก็คือ

1.ส่วนที่เกี่ยวกับอดีตดารางิ้ว เธอเป็นหญิงชรา ในวัยเด็กเธอถูกขายให้กับคณะละครงิ้ว และเธอก็มักแสดงเป็นผู้ชายอยู่เสมอ เธอแสดงเป็นผู้ชายมานาน 40 ปีจนกระทั่งได้รับรางวัล BEST ACTRESS จากบทของผู้ชาย

2.ส่วนที่เกี่ยวกับนักเขียนหญิงวัยกลางคน ซึ่งถนัดในการเขียนนิยายที่มีเนื้อหาอื้อฉาว แต่แม่ของเธอไม่เคยอ่านสิ่งที่เธอเขียนเลย

3.ส่วนที่เกี่ยวกับผู้กำกับ FORMULA 17

--TREUT ตั้งใจเลือกนำเสนอชีวิตของผู้หญิงสามวัย เพื่อสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมไต้หวัน เพราะในขณะที่ดารางิ้วหญิงเคยรู้สึกมีปมด้อยที่ตัวเองได้เล่นแต่บทของผู้ชาย ผู้กำกับ FORMULA 17 กลับไม่พบอุปสรรคแต่อย่างใดในการสร้างหนังเกย์

--ดู TIGERWOMEN GROW WINGS แล้วถึงเพิ่งรู้ว่ากลุ่มของเจียงไคเช็คเคยฆ่าคนในไต้หวันตายไปมากมายมหาศาลในยุค white terror

--เคยดูหนังไต้หวันมาหลายเรื่อง ซึ่งรวมถึง A CITY OF SADNESS (1989, HOU HSIAO-HSIEN, A-) แต่นึกไม่ออกว่ามีหนังเรื่องไหนที่นำเสนอประวัติศาสตร์อันโหดร้ายตรงจุดนั้นอย่างตรงไปตรงมาบ้าง รู้สึกประหลาดดีที่ได้มารู้จักประวัติศาสตร์ของไต้หวันจากหนังเยอรมัน แทนที่จะได้เรียนรู้จากหนังไต้หวันเอง จริงๆแล้ว A CITY OF SADNESS ก็เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ตรงจุดนั้นเหมือนกัน แต่เนื่องจาก A CITY OF SADNESS คงไม่ได้ตั้งใจจะสอนประวัติศาสตร์ ดิฉันดูหนังเรื่องนั้นแล้วก็เลยงุนงงเป็นอย่างมาก

--คิดๆไปแล้วก็คงจะมีหนังหลายเรื่องที่เข้าข่ายทำนองนี้เหมือนกัน เพราะในขณะที่ดิฉันได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไต้หวันจากหนังเยอรมัน แทนที่จะได้เรียนรู้จากหนังไต้หวัน หนังหลายเรื่องที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เยอรมันในยุคนาซี ก็ไม่ใช่หนังของประเทศเยอรมนีเองเช่นกัน

--ANTARES เป็นหนังที่ชอบมากกว่าที่คาด เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งดู DER NACHBAR (1993, GOTZ SPIELMANN, B) แล้วรู้สึกไม่ค่อยประทับใจมากเท่าไหร่ พอดู DER NACHBAR เสร็จ ก็รู้สึกลังเลใจว่าจะเอาตั๋ว ANTARES ที่ซื้อไว้แล้วไปให้คนอื่นๆฟรีดีไหมเนี่ย

ANTARES เป็นหนังที่เล่าถึงชีวิตเส็งเคร็งของตัวละครกลุ่มหนึ่ง ดูแล้วก็ทำให้นึกถึงหนังออสเตรียในแนวทางเดียวกันอย่าง DOG DAYS (2001, ULRICH SEIDL, A+/A) และ FREE RADICALS (2003, BARBARA ALBERT, A+)

ถึงแม้ดิฉันจะชอบ ANTARES น้อยกว่า DOG DAYS และ FREE RADICALS และรู้สึกไม่ค่อยชอบตัวละครบางตัวใน ANTARES โดยเฉพาะตัวละครผู้ชายที่พยายามตามง้อแฟนเก่า กับตัวละครแคชเชียร์สาวขี้ระแวง แต่อารมณ์โดยรวมๆของ ANTARES ก็เข้าทางดิฉันมากๆ รู้สึกว่าตัวเองสามารถปล่อยอารมณ์ให้ไปกับหนังได้เรื่อยๆ โดยอาจจะรู้สึกรำคาญตัวละครขึ้นมาบ้างเป็นครั้งคราว

--ดู ANTARES กับ DER NACHBAR แล้วแทบไม่รู้เลยว่าเป็นผู้กำกับคนเดียวกัน ANTARES ดูใจเย็น เยือกเย็น และสุขุมดี ตัวละครใน ANTARES ก็ดูน่าสนใจในระดับปานกลาง แต่ใน DER NACHBAR นั้น ตัวละครไม่น่าสนใจเลย อย่างไรก็ดี จุดที่เหมือนกันระหว่างหนังสองเรื่องนี้ ก็คือประเด็นเรื่องผู้หญิงที่ถูก abuse

--หนังอีกเรื่องที่อาจจะพอนำมาดูควบกับ ANTARES ได้ก็คือ LA VIE MODERNE (2000, LAURENCE FERREIRA BARBOSA, A+) ที่เล่าถึงชีวิตของตัวละคร 3 คนที่ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกันสักเท่าไหร่ หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย ISABELLE HUPPERT กับ LOLITA CHAMMAH ซึ่งเป็นลูกสาวของ HUPPERT เอง

--ดู PRIVATE แล้วรู้สึกอินและลุ้นระทึกไปกับสถานการณ์ของตัวละครในหนังมากๆ ดูแล้วรู้สึกลุ้นพอๆกับตอนที่ดู THE TEXAS CHAINSAW MASSACRE (1974, TOBE HOOPER, A+) หนังทั้งสองเรื่องนี้เป็นหนังที่มีแนวทางตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง แต่บางฉากดิฉันกลับรู้สึกลุ้นและกลัวจนแทบปัสสาวะราดเหมือนๆกัน เพราะในขณะที่ดู THE TEXAS CHAINSAW MASSACRE นั้น ดิฉันจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังหนีฆาตกรโรคจิตอยู่ ไม่รู้ว่าตัวเองกับเพื่อนๆจะหนีรอดหรือเปล่า ส่วนในขณะที่ดู PRIVATE นั้น ดิฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังซ่อนตัวจากทหารอิสราเอลอยู่ รู้สึกเครียดมาก (แต่เครียดแบบสนุก) เพราะไม่รู้ว่าตัวเองกับครอบครัวจะถูกทหารอิสราเอลฆ่าล้างบางเมื่อไหร่

--ดู ENCHANTED แล้วร้องไห้ค่ะ รู้สึกว่าเทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่ทำให้ดิฉันรู้สึกโรแมนติกไปกับหนังอย่างมากๆจริงๆ เพราะถึงแม้หนังบางเรื่องในเทศกาลนี้จะไม่ใช่หนังโรแมนติก แต่ก็รู้สึกอินไปกับความรักของตัวละครอย่างมากๆ

--หนังที่ทำให้ดิฉันรู้สึกอินกับความรักของตัวละครอย่างมากๆในเทศกาลนี้ก็รวมถึง RIGHT NOW, DUCK SEASON, ENCHANTED, RECONSTRUCTION และ AFTER MIDNIGHT

--ดู DUCK SEASON แล้วก็ร้องไห้เหมือนกัน ทั้งๆที่เป็นหนังที่ออกมาในทางตลก สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะรู้สึกอินกับตัวละคร MOKO อย่างมากๆ ถ้าหากดิฉันไม่อินกับตัวละครตัวนี้ ดิฉันก็คงจะรู้สึกว่า DUCK SEASON เป็นเพียงหนังน่ารักๆเรื่องนึง แต่พอดิฉันรู้สึกอินกับตัวละคร MOKO หนังเรื่องนี้ก็เลยทำให้ดิฉันรู้สึกสะเทือนใจและเจ็บปวดอย่างรุนแรง

--เป็นเรื่องยากที่จะเปรียบเทียบความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อหนัง 3 อันดับแรกในเทศกาลนี้ เพราะความรู้สึกชอบที่มีต่อหนังแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป ดิฉันชอบ RIGHT NOW มากเพราะรู้สึกอินกับนางเอกอย่างมากๆตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกอารมณ์พุ่งปรี๊ดถึงขีดสุดในระหว่างที่ดู แต่รู้สึกมีความสุขอย่างมากๆในแบบคงเส้นคงวาตั้งแต่ฉากเปิดจนถึงฉากปิด โดยที่ไม่มีฉากไหนในเรื่องนี้ที่รู้สึกไม่ชอบหรือไม่อินเลย

--ส่วน DUCK SEASON นั้น รู้สึกเฉยๆในช่วงต้นเรื่อง เพราะยังไม่อินกับตัวละครตัวไหนทั้งสิ้น มารู้สึกอินกับ MOKO ในช่วงกลางเรื่อง และพอรู้สึกอินกับตัวละครตัวนี้ปุ๊บ ความรู้สึกชอบหนังเรื่องนี้ก็พุ่งสูงขึ้นมาอย่างกะทันหัน และมาพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุดในช่วงใกล้จบ แต่นั่นคงไม่ได้เป็นเพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังดี แต่เป็นเพราะหนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึงชีวิตบางช่วงของตัวเอง

--ส่วน RECONSTRUCTION นั้น ดูแล้วไม่รู้สึก IDENTIFY กับตัวละครในหนังเหมือนอย่าง RIGHT NOW หรือ DUCK SEASON แต่รู้สึกทึ่งกับความสามารถของผู้กำกับ+คนเขียนบท, ทึ่งกับการถ่ายทำ และรู้สึกอินกับบรรยากาศและอารมณ์บางอย่างในหนัง อย่างไรก็ดี มีบางฉากใน RECONSTRUCTION ที่ดิฉันรู้สึกอารมณ์สะดุดๆ หรืออารมณ์พุ่งขึ้นพุ่งลง ในขณะที่อารมณ์ของดิฉันขณะที่ดู RIGHT NOW ไม่สะดุดเลย สรุปว่า RECONSTRUCTION ทำให้ทึ่งกับตัวหนังและผู้กำกับ แต่ RIGHT NOW ดูแล้วรู้สึกมีอารมณ์ร่วมมากกว่า แต่นั่นคงไม่ใช่เป็นเพราะว่า RIGHT NOW ดีกว่า RECONSTRUCTION แต่เป็นเพราะว่า RIGHT NOW เล่าเรื่องผ่านทางตัวละครหญิงที่ดิฉันสามารถ IDENTIFY ด้วยได้ ในขณะที่ RECONSTRUCTION เล่าเรื่องผ่านทางตัวละครชายที่ดิฉันไม่ชอบนิสัยของเขาสักเท่าไหร่

--นักวิจารณ์บางคนบอกว่าสิ่งที่ควรสังเกตใน VERA DRAKE คือท่าเดินของนางเอกในช่วงต้นเรื่อง กับท่าเดินของนางเอกในฉากรองสุดท้าย


ส่วนที่ชอบมากๆในหนังแต่ละเรื่อง

MONDOVINO—ชอบเรื่องราวของพ่อ, ลูกสาว, ลูกชายของครอบครัวนึงมาก ที่พ่อดูเหมือนจะชอบลูกสาวมากกว่าลูกชาย แต่ลูกสาวกลับไปทำงานให้บริษัทอื่น ในขณะที่ลูกชายกลับอยู่ทำงานให้พ่อ ดิฉันชอบตัวลูกสาวในหนังเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ

CLEAN—ชอบฉากจางม่านอี้เสพยาในรถช่วงต้นเรื่อง แล้วก็ฉายให้เห็นรถคันนั้นอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยโรงงาน

ไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะว่า JEANNE BALIBAR ร้องเพลง เพิ่งจะรู้จากที่คุณ BATEAU IVRE เขียนเอาไว้ ขอบคุณมากๆค่ะ
http://www.amazon.fr/exec/obidos/ASIN/B0000CC62K/qid%3D1106244327/171-3316164-8162649

RIGHT NOW—ชอบฉากที่นางเอกวิ่งลงจากรถยนต์ แล้วเตลิดหายไปในท้องถนนยามค่ำคืน

--ชอบฉากที่นางเอกยิ้มให้หนุ่มหล่อในร้านอาหารช่วงต้นเรื่อง แต่พอหนุ่มหล่อคนนั้นนั่งลงข้างนางเอก นางเอกกลับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และผลุนผลันออกไปในทันที


ส่วนที่ชอบมากๆใน BIRTH ก็คือบรรยากาศและมาดของนักแสดงหญิงแต่ละคนในเรื่องค่ะ บรรยากาศของหนังเรื่องนี้มันดูเยียบเย็นดี และนักแสดงหญิงแต่ละคนก็ดูดีมาก นอกจากนี้ ช่วงท้ายๆของหนังก็ทำออกมาได้ถูกใจดิฉันมากๆด้วย ส่วนฉากที่นิโคล คิดแมนเข้าไปดูโอเปรานั้น ก็เป็นฉากที่ “คลาสสิค” มากๆค่ะ

ดาราหญิงที่ดิฉันชอบมากในหนังเรื่องนี้ก็คือ ANNE HECHE, LAUREN BACALL, ALISON ELLIOTT (ในบทพี่สาวนางเอก), CARA SEYMOUR ในบทแม่ของเด็กชาย และ ZOE CALDWELL ในบทของหญิงชราคนนึงที่ชอบอยู่กับลอเรน เบคอลล์ ซึ่งดิฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเธอมีฐานะอะไรในครอบครัวของนางเอก

CARA SEYMOUR เคยเล่นหนังเรื่อง GANGS OF NEW YORK (MARTIN SCORSESE, A+), ADAPTATION (A), AMERICAN PSYCHO (A-) และ DANCER IN THE DARK (A+)
http://www.imdb.com/name/nm0786806/

No comments: