Thursday, January 27, 2005

twilight zone remembered

อันนี้ไม่เกี่ยวกับสถานที่ขายดีวีดี แต่แค่จะบอกว่า MA MERE เป็นหนึ่งในหนัง 13 เรื่องที่น่าดูประจำปี 2005 ของนิตยสาร FILM COMMENT ด้วยค่ะ ดูรายละเอียดเกี่ยวกับหนัง 13 เรื่องนี้ได้ที่
http://filmlinc.com/fcm/1-2-2005/terra.htm

ในหนัง 13 เรื่องนี้ มีหนังของ RUDOLF THOME ติดอันดับอยู่ด้วย ดีใจมากๆๆๆเลยค่ะ อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ RUDOLF THOME ได้ที่
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=1697

ชอบเด็กผู้หญิงหลอนๆมากเหมือนกันค่ะ รู้สึกว่าจะอยู่ใน A NIGHTMARE ON ELM STREET 3 และน่าจะมีปรากฏในภาคอื่นๆบ้างเหมือนกัน

ในหนังญี่ปุ่นเรื่อง KOKKURI (TAKAHISA ZEZE, A+++++++) มีเด็กผู้หญิงหลอนๆกับลูกบอลมาปรากฏอยู่ด้วยเหมือนกัน หนังเรื่องนี้มีวีซีดีลิขสิทธิ์ขายในไทย แต่ไม่ใช่หนังผีที่ขายความน่ากลัว แต่เป็นหนังผีที่ช้ามากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และสร้างความรู้สึกงุนงงอยู่ตลอดเวลาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในหนังเรื่องนี้

เด็กผีนั้นมีต้นกำเนิดมาจาก KILL BABY KILL ของมาริโอ บาวาค่ะ อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับมาริโอ บาวาได้ที่นี่
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=4622

เห็นเด็กผู้หญิงกระโดดเชือกใน A NIGHTMARE ON ELM STREET แล้วก็นึกไปถึงสาวกระโดดเชือกใน DROWING BY NUMBERS (PETER GREENAWAY, A) ด้วยเหมือนกัน

TALES FROM THE CRYPT ก็ชอบบางตอนเหมือนกัน แต่ละครชุด TWILIGHT ZONE นี่จัดเป็นหนึ่งในละครโทรทัศน์ที่ชอบที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะเวอร์ชันที่มาฉายทางช่อง 3 ประมาณปี 1985-1986 จำได้ว่าช่อง 3 จะฉายต่อจาก “โคมวิเศษเจ้าแม่หัวซาน” มีหลายตอนที่คลาสสิคสุดๆและยอดเยี่ยมกว่าหนังโรงเสียอีก

ตอนที่ชอบมากๆใน TWILIGHT ZONE ก็รวมถึง

1.ตอนที่เด็กๆพาพ่อแม่นิสัยไม่ดีไปเที่ยวสวนสัตว์ ซึ่งสถานที่ตั้งของสวนสัตว์แห่งนี้อยู่ที่ถนนที่โดยปกติแล้วจะไม่มีอยู่จริง เมื่อไปถึงสวนสัตว์ พ่อแม่ก็จะถูกเชิญไปพักผ่อนที่ห้องๆนึง แล้วเด็กๆก็พบว่าในกรงของสวนสัตว์แห่งนี้ขังพ่อแม่เอาไว้ห้องละ 1 คู่ พ่อแม่บางคู่ก็ยังทุ่มเถียงกันอยู่ บางคู่ก็พยายามเสแสร้งทำตัวดีต่อหน้าเด็กๆ แต่บางคู่ก็ยอมรับความผิดที่ตัวเองได้ทำไว้และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้แล้ว แล้วเด็กๆก็เลือกพ่อแม่คู่ที่ถูกใจตัวเองมากที่สุดไปเป็นพ่อแม่ของตัวเอง ส่วนพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็กๆก็ถูกขังไว้ในสวนสัตว์ เพื่อที่พวกเขาจะได้ค่อยๆเรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเองจนกว่าจะถึงเวลาที่มีเด็กคนไหนถูกใจพวกเขาและเลือกพวกเขาออกจากสวนสัตว์ไป

2.ตอนที่มีทหารผ่านศึกจากสงครามมาโผล่ที่ผับแห่งหนึ่งกลางดึก ถ้าหากทหารผ่านศึกคนนี้หลับเมื่อใด ทหารเวียดนามก็จะโผล่ออกมาจากความฝันของเขาและฆ่าทุกคนในบริเวณนั้นในทันที ทหารผ่านศึกคนนี้นำพาความตายไปยังทุกๆที่ที่เขาเดินทางผ่าน แต่ผู้คนในผับแห่งนี้ก็พยายามหาทางแก้ไขสถานการณ์อันตรายอย่างสุดชีวิต

3.ตอนที่ผัวเมียคู่หนึ่งหลุดเข้าไปในรถไฟแห่งกาลเวลา โดยหนึ่งตู้โดยสารรถไฟจะเท่ากับเวลาหนึ่งนาที หนังมีรายละเอียดน่าสนใจเยอะดี แต่บรรยายได้ยากมาก

4.ตอนที่มีคนๆหนึ่งได้เรียนรู้สัจธรรมแห่งชีวิต ถ้าจำไม่ผิดเขาได้เรียนรู้เรื่องนี้มาจากอินเดีย เขาเดินทางกลับมาที่เมืองเล็กๆแห่งนึงในสหรัฐ แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาบอกความหมายที่แท้จริงของชีวิตให้กับชาวบ้านคนใด ชาวบ้านคนนั้นก็จะกลายเป็นบ้าไปในทันที ตัวละครบางตัวจึงต้องพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะป้องกันไม่ให้บุคคลที่ได้รู้ความหมายที่แท้จริงของชีวิตเหล่านี้ไปบอกเรื่องนี้กับคนอื่นๆ ไม่งั้นคนจะเป็นบ้ากันไปหมด แต่จะทำอย่างไรดีล่ะถ้าหากดีเจที่จัดรายการวิทยุเกิดพูดความหมายที่แท้จริงของชีวิตให้กับผู้ฟังวิทยุออกไป เพราะถ้าหากคำพูดดังกล่าวได้รับการแพร่กระจายทางวิทยุ คนฟังทุกคนก็จะกลายเป็นบ้ากันเกือบทั้งเมือง

5.ตอน SHADOW PLAY ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่กำลังจะถูกศาลตัดสินประหารชีวิต แต่เขาบอกกับทุกๆคนในศาลว่าทำอย่างนั้นไม่ได้เป็นอันขาด เพราะถ้าเขาถูกประหารชีวิต เขาก็จะตื่นนอน และทุกๆคนที่อยู่รอบๆตัวเขาก็จะจบชีวิตด้วยการหายไปหมด เพราะทุกๆคนในศาลเป็นเพียงตัวละครในความฝันของเขาเท่านั้น ผู้คนในศาลหัวเราะกับคำพูดของเขา แต่บางคนในศาลเริ่มสงสัยว่าทำไมตัวเองถึงจำอดีตของตัวเองไม่ได้ จำได้แต่เพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 วันก่อนเท่านั้น ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีชีวิตมาก่อนหน้านี้เลย แต่เป็นเพียงตัวละครในความฝันของผู้ชายคนนี้จริงๆ คนกลุ่มนี้หวาดกลัวมาก และพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะพลิกคำตัดสินของศาลให้ได้ เพื่อที่ชายคนนี้จะได้ไม่ตื่นนอน และพวกเขาจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป

6.ตอนที่มีนักเขียนคนหนึ่ง (สมมุติว่าชื่ออาร์เธอร์ รูเลอร์) เขาถูกแวดล้อมด้วยตัวประหลาดกลุ่มหนึ่งที่ตามรังควานเขาอยู่ตลอดเวลา ตัวประหลาดกลุ่มนี้บอกกับเขาว่าพวกเขาจะหายไปก็ต่อเมื่ออาร์เธอร์เขียนบทละคร/บทภาพยนตร์เกี่ยวกับพวกเขาเท่านั้น ในที่สุดอาร์เธอร์ก็ทนความรำคาญไม่ไหว และเริ่มนั่งเคาะแป้นพิมพ์ดีดเพื่อเขียนเรื่องของตัวประหลาดกลุ่มนี้ และตัวประหลาดกลุ่มนี้ก็ค่อยๆหายไป และละครตอนนี้ก็จบลงพร้อมกับตัวอักษรขึ้นมาบอกว่าผู้เขียนบทละครตอนนี้ชื่ออาร์เธอร์ รูเลอร์จริงๆ

7.ตอนที่มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งนำกล่องที่มีปุ่มๆหนึ่งมาให้หญิงสาว พร้อมกับบอกหญิงสาวว่าถ้าหากเธอกดปุ่มนี้ “คนที่คุณไม่รู้จักจะตาย 1 คน” หญิงสาวคนนี้ลังเลว่าจะกดปุ่มดีหรือไม่ เธออยากรู้อยากเห็น แต่เธอก็กลัวว่าตัวเองจะรู้สึกผิดถ้าหากทำให้คนที่ไม่รู้จักตายไป เธอแกะกล่องนี้ออกดู ก็ไม่พบว่ากล่องนี้มีอุปกรณ์พิเศษอะไรซ่อนอยู่ข้างใน เธอทะเลาะกับแฟนว่าจะกดดีไม่กดดี เธอรู้สึกว่าจิตใจตัวเองถูกรบกวนด้วยความลังเลสงสัยอยู่ตลอดเวลา ทำอะไรก็ไม่เป็นสุข ความลังเลสงสัยติดตามอยู่ในใจเธอตลอด เธอเอากล่องนี้ไปทิ้งขยะ แต่อีกไม่นานเธอก็ไปคุ้ยถังขยะเพื่อเอากล่องนี้กลับมา ในที่สุดเธอก็ทนความรำคาญใจไม่ไหว และกดปุ่มนี้ไป เธอคิดว่าอย่างมากเธอก็คงแค่ทำให้ชาวนาในจีนตายไปสักหนึ่งคน แต่หลังจากเธอกดปุ่มนี้ไปแล้ว ชายแปลกหน้าก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับบอกว่าเขาจะเอากล่องนี้ไปให้คนอื่นๆทดลองกดต่อไป “ซึ่งเป็นคนที่คุณไม่รู้จัก”

8.ตอนที่มีแม่บ้านที่ทำงานอะไรก็ไม่ทันเวลา เธอก็เลยภาวนาขอให้เวลาหยุดอยู่กับที่ และเวลาก็หยุดอยู่กับที่จริงๆ ทุกคนอยู่นิ่งหมด และเธอก็มีเวลาทำอะไรต่างๆตามใจชอบมากมาย

9.ตอนที่มีคนไปพบกล้องถ่ายรูปเก่าที่เคยถ่ายรูปคนป่าเอาไว้ แต่คนป่าเผ่านี้เชื่อว่าการถ่ายรูปจะเป็นการเอาดวงวิญญาณของพวกเขาไป และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะต่อมาคนป่าเหล่านี้ก็ออกมาจากรูปเพื่อมาฆ่าคน

ยังมีอีกหลายตอนที่ชอบมาก เฮ้อ เสียดายที่ไม่ได้อัดวิดีโอเก็บเอาไว้เลย

อยากดูเวอร์ชันในทศวรรษ 1960 ด้วยเหมือนกัน ถ้าจำไม่ผิด มีหลายตอนที่คลาสสิคมากๆ อย่างเช่นตอนหนึ่งที่มียายชราไปพบหนุ่มหล่ออยู่หน้าบ้าน (ถ้าจำไม่ผิด หนุ่มหล่อคนนั้นแสดงโดยโรเบิร์ต เรดฟอร์ด และตอนนั้นคือตอน NOTHING IN THE DARK ที่ฉายในปี 1962) เขาหล่อมากๆ และเขาก็ทำให้ยายชราคนนี้รู้สึกดีมากๆ แต่ที่จริงแล้วเขาคือยมทูตที่จะมารับดวงวิญญาณของยายชราคนนี้ไป และความหล่อของเขาก็ทำให้ยายชรายินดีที่จะจากโลกนี้ไปด้วยความเต็มใจโดยไม่ขัดขืน เพราะเธอรู้แล้วว่าความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่ความตายคือหนุ่มหล่อ

ชอบแพทริเซีย อาร์เควทท์ใน LOST HIGHWAY มากๆๆๆ

ตอนดูเฟร็ดดี้ภาคสองรู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ บางทีอาจจะเป็นเพราะตัวละครนำเป็นผู้ชายนั่นเอง สิ่งที่จำติดตาได้จากภาคสองมีอยู่แค่สองสามอย่าง หนึ่งก็คือหนังมีฉากรถบัส และสองก็คือมีฉากที่พระเอกตื่นนอนแล้วใส่กางเกงในตัวเดียว (ไม่ได้อยากจะจำหรอกนะ แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่จำได้จริงๆหลังจากดูมานานประมาณ 15 ปี)

กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ดีวีดีหนังเกย์เรื่อง A THOUSAND CLOUDS OF PEACE มีขายที่จตุจักรแล้วค่ะ อยากดูหนังเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆ
http://homepage.mac.com/Vanvdo/1000clouds.htm

ข้อมูลข้างล่างนี้ก็อปปี้มาจาก
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=4118

หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเจราร์โด ชายหนุ่มวัย 17 ปีที่เพิ่งตัดสัมพันธ์รักกับบรูโน (Juan Carlos Torres) เขาเริ่มต้นเดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนด้วยอารมณ์สิ้นหวัง เจราร์โด (Juan Carlos Ortuno) รู้สึกทรมานกับภาพที่อยู่ในห้วงคะนึงของเขา เพราะผู้ชายรูปร่างดีทุกคนที่เขาเห็นทำให้เขานึกถึงคนรักเก่า เจราร์โดตั้งใจว่าเขาจะเก็บความทรงจำนี้ไว้ และสิ่งเดียวที่ช่วยปลอบใจเขาได้ก็คือจดหมายที่เขาพบในถังขยะ ถึงแม้ว่าจดหมายนี้ไม่ได้จ่าหน้าถึงเขาก็ตาม ผู้ชมหนังเรื่องนี้ให้ความเห็นว่าหนังเรื่องนี้เหมือนกับหนังฟิล์มนัวร์ + อิงมาร์ เบิร์กแมน + เดวิด ลินช์ โดยหนังเรื่องนี้ถ่ายออกมาเป็นขาวดำและดำเนินเรื่องอย่างเชื่องช้า แต่มีงานด้านภาพที่งดงามและให้อารมณ์หลอกหลอน หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลเท็ดดี้ในเทศกาลหนังเบอร์ลินปี 2003

ยังไม่ได้ดู FIRST DO NO HARM แต่จำได้ว่าชอบ LORENZO’S OIL (1992, GEORGE MILLER, A) มาก

ส่วนใน ADAPTATION นั้น ชอบฉากที่เมอรีลโทรศัพท์มากๆค่ะ กับฉากที่เธอนอนอยู่กลางทุ่งหญ้าท่ามกลางแสงที่เจิดจรัสงดงามแบบเว่อสุดขีด ชอบความเว่อสุดขีดของการจัดแสงในฉากนั้น

ADAPTATION มี TILDA SWINTON เจ้าแม่หนังเกย์แห่งเกาะอังกฤษร่วมแสดงด้วย แต่บทเธอน้อยเกินไป เหมือนกับใน VANILLA SKY ที่บทของเธอก็น้อยเกินไป

(ถ้าเข้าใจไม่ผิด ทิลดา สวินตันมีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ “สัตว์ประหลาด” ได้รับรางวัลในเมืองคานส์ เพราะเธอเป็นหนึ่งในกรรมการ และเธอแสดงอาการปลื้ม “สัตว์ประหลาด” อย่างออกหน้าออกตามาก)

ตอนนี้หนังของทิลดา สวินตันที่อยากดูอย่างสุดๆคือหนังไซไฟเรื่อง FRIENDSHIP’S DEATH (1987, PETER WOLLEN) ค่ะ โดยในหนังเรื่องนี้เธอรับบทเป็นมนุษย์ต่างดาวชื่อ FRIENDSHIP ที่เข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งในปาเลสไตน์ แต่ได้ข่าวว่าตอนนี้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังที่หาดูได้ยากมากๆๆๆไปแล้ว
http://www.geocities.com/tildapage/friendship.html
http://www.eufs.org.uk/films/friendships_death.html

จำเพลง SOMETIMES LOVE JUST AIN’T ENOUGH ได้ดีค่ะ เคยเป็นเพลงที่ชอบมากๆเพลงนึง

ตอนนี้ยังเก็บตั๋วหนังเรื่อง ARARAT (2002, ATOM EGOYAN, A+) ที่ให้ DAVID ALPAY พระเอกเซ็นเอาไว้อยู่เลยค่ะ กรี๊ดสุดๆที่เขามาร่วมเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพในช่วงต้นปี 2003 ก็เลยให้เพื่อนไปขอลายเซ็นของเขามาเก็บไว้ เห็นด้วยค่ะว่าเขากับ OSHRI COHEN มีส่วนคล้ายคลึงกัน

LATE MARRIAGE (A-) ติดอันดับพระเอกที่ดิฉันเกลียดที่สุดในชีวิตค่ะ เขาเป็นคนที่หน้าตาดีมาก แต่นิสัยของพระเอกหนังเรื่องนี้ ดิฉันเกลียดมากๆๆๆค่ะ แต่ก็ชอบตัวหนังนะคะ การที่หนังเรื่องนี้ทำให้ดิฉันรู้สึกมีอารมณ์ร่วมจนถึงขั้นเกลียดพระเอกได้ขนาดนี้ ก็แสดงว่าหนังมีพลังมากพอดูเลยทีเดียว

อีกจุดที่ชอบก็คือเหตุการณ์ในหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นในอพาร์ทเมนท์เกือบตลอดทั้งเรื่องเลย (มีฉากในลานจอดรถบ้างนิดหน่อย) คิดว่าหนังเรื่องนี้เหมาะจะดัดแปลงเป็นละครเวทีมากๆพอกับ TO TAKE A WIFE ที่นำแสดงโดยนางเอกคนเดียวกัน

เห็นด้วยว่าแม่ของพระเอก EVIL น่าตบมากๆ

No comments: