The syrian bride
ตอนที่ดูหนังเรื่องนี้จบใหม่ๆ รู้สึกชอบหนังเรื่องนี้ในระดับประมาณ A เท่านั้น รู้สึกว่าหนังสนุกดี มีอะไรขำๆ บันเทิงตลอดทั้งเรื่อง
แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ กลับรู้สึกฝังใจกับตอนจบหนังเรื่องนี้มาก และความฝังใจนี้ก็มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ระดับความชอบก็เลยขึ้นมาเป็น A+ แล้วค่ะ ดิฉันคิดว่าใบหน้าของนางเอกในตอนจบหนังเรื่องนี้ คงจะหลอกหลอนดิฉันไปอีกนาน
ที่เขียนมาไม่ได้จะบอกว่าหนังเรื่องนี้มีดีแค่ตอนจบเท่านั้นนะคะ เพราะการที่ดิฉันรู้สึกว่าตอนจบหนังเรื่องนี้มันทรงพลังมากๆเนี่ย เป็นเพราะว่าตลอดทั้งเรื่องมันค่อยๆปูพื้นอารมณ์,ความขัดแย้ง,ความคับแค้นใจมาดีมาก จึงสามารถทำให้เรารู้สึกอารมณ์ล้นปรี่อย่างมากๆกับตอนจบของหนังเรื่องนี้
ชอบฉากไตเติลของ TWILIGHT ZONE เวอร์ชันละครโทรทัศน์มากๆเลยค่ะ ที่เหมือนกับมีลูกแก้วยิปซีวางอยู่ (ถ้าหากจำไม่ผิด) และมีอะไรมากมายอยู่ในลูกแก้วนั้น จำได้ว่ามีแมงมุมกับตุ๊กตาเด็กอยู่ในลูกแก้วด้วย
ส่วน TWILIGHT ZONE เวอร์ชันภาพยนตร์ ดิฉันรู้สึกว่าพอใช้ได้ แต่เวอร์ชันละครโทรทัศน์มีหลายตอนที่ไอเดียเริ่ดกว่าเวอร์ชันภาพยนตร์ซะอีก
ในเวอร์ชันภาพยนตร์นั้น สิ่งที่พอจำได้ก็คือ
1.มีเด็กพลังจิตที่สามารถสาปพี่สาวปากมากให้ปากหายไป
2.มีคนที่นั่งบนเครื่องบิน แต่พอมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็เห็นตัวอะไรไม่รู้เกาะอยู่ที่ปีกเครื่องบิน
อีกปัจจัยนึงที่ทำให้ตอนเด็กๆรู้สึกชอบละครโทรทัศน์ชุด TWILIGHT ZONE มากๆ ก็คือความรู้สึกที่ว่าอยู่ดีๆมันอาจเกิดขึ้นกับชีวิตเราก็ได้ เคยอ่านคำพูดของคนดังคนนึงเมื่อนานมาแล้ว (จำไม่ได้แล้วว่าคำพูดของใคร) เขาก็พูดในทำนองนี้เหมือนกันว่านี่คือเหตุผลที่ทำให้เขาชอบละครชุดนี้มากตอนเด็กๆ เขาพูดในทำนองนี้ว่า “ใครจะไปรู้ว่า พอผมเดินออกนอกห้องนี้ไป ผมอาจจะเปิดประตูเข้าสู่แดนสนธยาไปโดยไม่รู้ตัว พอผมกดตัว N ที่เครื่องพิมพ์ดีด บางทีมันอาจจะเป็นการเปิดประตูเข้าสู่แดนสนธยาโดยไม่รู้ตัว” ละครชุดนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่า อยู่ดีๆเราก็อาจเปิดประตูเข้าสู่แดนสนธยาโดยไม่รู้ตัวได้ทุกเมื่อ ตัวอะไรต่างๆนานาจากแดนสนธยา ก็อาจจะหลุดมาหาเราได้ทุกเมื่อเช่นกัน
ถ้าหากชอบหนังที่ให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับ TWILIGHT ZONE ตอนนี้ดิฉันพอนึกออกสองเรื่องค่ะ (แต่รู้สึกว่าหนังสองเรื่องนี้จะยังหาซื้อเป็นวีซีดีไม่ได้มั้ง แต่ไม่แน่ ในอนาคตอาจจะหาซื้อได้ก็ได้)
1.SCIENCE FICTION (2003, FRANZ MULLER, A++++)
เรื่องของสองหนุ่มที่หลุดเข้าไปในแดนสนธยาโดยไม่รู้ตัว เพียงแค่พวกเขาออกมานอกห้องเรียน พวกเขาก็หลุดเข้าไปในแดนสนธยาเสียแล้ว โดยดินแดนนี้เหมือนกับโลกจริงๆ เพียงแต่ว่าในดินแดนนี้เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเดินออกนอกห้องใด และปิดประตู คนในห้องนั้นก็จะลืมพวกเขาไปในทันที (อย่างเช่นพอคุณกินอาหารไปประมาณ 1000 บาทในร้านอาหาร คุณขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ปิดประตูห้องน้ำ พอคุณเดินออกจากห้องน้ำกลับเข้ามาในร้านอาหารอีกที พนักงานในร้านก็จะจำคุณไม่ได้แล้วว่าคุณต้องจ่ายเงินอะไรบ้างหรือเปล่า)
หนังเรื่องนี้ดูในเทศกาลหนังที่เอ็มโพเรียมเมื่อเดือนพ.ค.ปี 2004
2.FEAR OF THE DARK (2002, K.C. BASCOMBE, A)
อันนี้ไม่ค่อยเป็นแดนสนธยา แต่เป็นหนังกึ่งสยองขวัญมากกว่า หนังเรื่องนี้ดูทางเคเบิลทีวีช่อง star movies และมีเนื้อหาเกี่ยวกับพี่ชายหนุ่มหล่อมากๆที่อยู่ในบ้านกับน้องชายตามลำพัง และน้องชายก็รู้สึกกลัวความมืดอย่างรุนแรง เพราะเขาสามารถมองเห็นปีศาจร้ายได้ แต่พี่ชายก็ไม่ค่อยจะเชื่อเขา
ส่วนโรซานนา อาร์เควทท์กับแพทริเซีย อาร์เควทท์ ดิฉันคิดว่าตัวเองอาจจะพอแยกออกค่ะ แต่ที่ดิฉันแยกไม่ออก คือแมรี-เคท โอลเสน กับแอชลีย์ โอลเสน ถ้าหากทั้งสองทำผมทรงเดียวกัน ไม่รู้มีใครพอจะบอกได้บ้างไหมว่ามีวิธีอะไรบ้างที่ทำให้แยกออกว่าใครคือแมรี-เคท โอลเสน และใครคือแอชลีย์ โอลเสน (เพราะทั้งสองดูเห่ยและบ้าผู้ชายพอๆกัน)
--ใช่แล้วค่ะ ดิฉันไม่ค่อยชอบนิสัยของพระเอก LATE MARRIAGE เขาไม่รู้จักยืนหยัดเพื่อความรัก คนอย่างนี้คงมีในโลกนี้หลายคน แต่ดิฉันไม่ขอ “รัก” คนอย่างนี้เป็นอันขาด (ขอแค่ “ร่วมรัก” พอแล้ว เพราะเขาหล่อดี)
--ชอบ BEING JULIA มากเหมือนกันค่ะ ดิฉันได้ดูหนังของ ISTVAN SZABO มา 4 เรื่อง และทั้ง 4 เรื่องก็ชอบในระดับประมาณ A หมดเลย (อาจจะมี A+/A หรือ A/A- รวมอยู่ด้วย)
รู้สึกว่าแอนเนทท์ เบนิงเล่นได้ดีมากในหนังเรื่องนี้ แต่ดิฉันรู้สึกว่าแอนเนทท์ เบนิงเล่นหนังเก่งมากอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยประหลาดใจกับการแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอในหนังเรื่องนี้เท่าไหร่ (แต่ดีใจที่เธอได้บทดีๆเล่น) สิ่งที่ประทับใจมากๆในหนังเรื่องนี้ก็เลยเป็นดาราประกอบต่างๆแทน
ดาราที่ประทับใจมากๆจาก BEING JULIA
1.MIRIAM MARGOLYES คุณป้าร่างอ้วน เธอเหมาะจะตบกับนางเอกหนังเรื่อง ALI: FEAR EATS THE SOUL (RAINER WERNER FASSBINDER, A) มากๆ เพราะทั้งสองคนนี้ดูคล้ายๆกัน
2.LUCY PUNCH นางอิจฉาของเรื่อง บทของเธอทำให้นึกถึง TORI SPELLING ใน TRICK (1999, JIM FALL, A) เพราะเป็นบทของนักแสดงสาวโง่ๆที่มาเพื่อเรียกเสียงฮาเหมือนกัน
3.SHUAN EVANS หนุ่มน้อยน่ารัก ไม่แปลกใจทำไมจูเลียถึงตกหลุมรักหนุ่มน้อยคนนี้
4.TOM STURRIDGE เขาคนนี้เคยทำให้ดิฉันลมจับกับความหล่อมาแล้วในตอนท้ายเรื่อง VANITY FAIR และในครั้งนี้เขาก็มารับบทเป็นลูกชายนางเอก
ดาราที่เคยชอบมาก่อนหน้านี้แล้ว และมาร่วมปรากฏตัวใน BEING JULIA ด้วย
1.JULIET STEVENSON รู้สึกว่าบทของเธอน้อยไปหน่อย อยากให้เธอได้บทเยอะๆแบบในหนังเกย์เรื่อง FOOD OF LOVE (A) เห็นหน้าเธอทีไร อยากให้เธอมีฉากตบกับฟรานเซส แมคดอร์มานด์อย่างมากๆ
2.BRUCE GREENWOOD คนนี้แสดงเป็นเกย์ที่ดูสุภาพดี เสียดายเหมือนกันที่บทเขาน้อยไป
3.ROSEMARY HARRIS ในบทแม่ของจูเลีย บทของเธอน้อยมากๆ
4.MICHAEL GAMBON คนนี้ขโมยซีนมากๆเลย คนนี้ได้บทที่ดีมากๆในเรื่องนี้
แต่ที่บอกว่าดาราบางคนได้บทน้อยไปไม่ใช่ว่าหนังไม่ดีนะคะ ในกรณีของเรื่องนี้อาจจะเป็นเพราะว่าหนังมันดีค่ะ หนังมันสามารถทำให้เรารู้สึกรักตัวประกอบในหนังได้ ทั้งๆที่พวกเธอโผล่มาแค่นิดเดียว พวกเธอโผล่มาไม่กี่ฉาก เราก็รู้สึกหลงรักตัวประกอบตัวนั้นซะแล้ว, อยากจะรู้จักตัวประกอบตัวนั้นมากยิ่งขึ้น, อยากจะรู้จักแง่มุมต่างๆในชีวิตของตัวประกอบตัวนั้น ในกรณีนี้ต้องถือว่า ISTVAN SZABO เก่งมากค่ะที่ทำให้ตัวประกอบเล็กๆน้อยๆในเรื่องนี้ดูมีเสน่ห์น่าทำความรู้จักหลายตัวด้วยกัน
Saturday, January 29, 2005
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment