--ตอบ DR. SYNTAX
อากิระ คุโรซาว่า คงจะบอกว่าคุณ DR. SYNTAX นอนไม่หลับ เพราะคุณ DR. SYNTAX เป็นคนดีค่ะ เพราะอากิระ คุโรซาว่า เคยกำกับหนังเรื่อง THE BAD SLEEP WELL (1960)
http://www.imdb.com/title/tt0054460/
แต่ถ้าหากคุณ DR. SYNTAX ยังนอนไม่หลับ ก็ขอให้ทำตามคำแนะนำของ MANU ในหนังเรื่อง BAISE-MOI (2000, VIRGINIE DESPONTES + CORALIE TRINH-THI, A+++++) ค่ะ เพราะเธอแนะนำเอาไว้ว่า THE MORE YOU F***, THE LESS YOU THINK, THE BETTER YOU SLEEP.
--ตอบน้อง BOAT
http://livefromcalarts.blogspot.com/2006/12/respectful-penis.html
กรี๊ดอยากดูหนังของ "ชะนีมัน" มากเลยค่ะ
http://livefromcalarts.blogspot.com/2007/01/character-animation-art-show.html
รูปที่สามเหมือนจริงที่สุด
รูปที่สองคือน้องโบ๊ตในภาคการ์ตูนญี่ปุ่น
ส่วนรูปแรกคือน้องโบ๊ตในภาคการ์ตูนอเมริกัน
อยากให้มีใครวาดรูป PORTRAIT น้องโบ๊ตในภาค "เพื่อนของกาเอล การ์เซีย เบร์นาล" บ้างเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆ
หนูลูกหมีฝากขอบคุณมากที่น้องโบ๊ตอยากอุ้มหนูลูกหมี :-)http://celinejulie.blogspot.com/2006/10/my-daughter-teddy-bear.html#comments
--ตอบคุณตี๋หล่อมีเสน่ห์
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=storyinthepast&month=01-2007&date=26&group=15&blog=1
ขอบคุณคุณตี๋หล่อมีเสน่ห์มากค่ะที่เขียนถึง BLUE MOON เพราะชอบหนังเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ
DETLEV BUCK (เกิดปี 1962) เล่นหนังเรื่องนี้ได้ฮามากๆเลย เข้าไปอ่านประวัติแล้วพบว่าเขากำกับหนังบางเรื่องด้วยเช่นกัน โดยเขาเริ่มกำกับหนังตั้งแต่อายุ 21 ปี
รูปของ DETLEV BUCK
http://www.abovetheline.de/klienten/schauspieler/buck/foto2.jpg
ตอนนี้ที่สถาบันเกอเธ่จะฉายหนังใหม่ที่กำกับโดย DETLEV BUCK ด้วยค่ะ หนังเรื่องนี้คือ TOUGH ENOUGH (2006) ซึ่งได้รับรางวัล FIPRESCI จากเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน; ได้รับรางวัลเยอรมัน ฟิล์ม อวอร์ด สาขาหนังยอดเยี่ยมรองอันดับ 1 + ตัดต่อยอดเยี่ยม + ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และได้รับรางวัลอุนดีนของออสเตรียสาขาดาราประกอบชายหนุ่มยอดเยี่ยมด้วย
http://www.imdb.com/title/tt0475317/
http://www.imdb.com/title/tt0475317/awards
TOUGH ENOUGH จะเปิดฉายที่สถาบันเกอเธ่ในวันพุธที่ 14 ก.พ. เวลา 19.30 น.ค่ะ ดูรายละเอียดการฉายได้ที่
http://www.goethe.de/ins/th/ban/th949371.htm
ด้วยวัย 15 ปีของมิชาเอล เมื่อแม่ของเขาถูกทิ้งโดยคนรักผู้มั่งมี เขาก็ต้องจากเขตชานเมืองผู้มีอันจะกินมาต่อสู้ชีวิตด้วยตัวเองในชุมชนที่ทรุดโทรมแห่งหนึ่งของเบอร์ลิน ซึ่งมีเอโรลและแกงค์ของเขา มิชาเอลต้องเข้าร่วมแกงค์ค้ายาเสพย์ติดของเอโรล เพื่อแลกกับความคุ้มครอง
นอกจาก DETLEV BUCK จะเล่นหนังเรื่อง BLUE MOON ได้อย่างเสียสติมากๆแล้ว เขายังกำกับหนังได้ฮามากๆด้วย เพราะก่อนหน้านี้เคยดูหนังเรื่องนึงที่เขากำกับ ชื่อเรื่อง NO MORE MR. NICE GUY (1993, A-) ซึ่งเป็นหนังที่ตลกและดูเพลินใช้ได้เรื่องนึง และถ้าจำไม่ผิด หนังพูดถึงประเด็นการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกด้วยเหมือนกัน
http://www.imdb.com/title/tt0108574/
Two brothers (Joachim Krol, Horst Krause) both of which can neither read nor write making their way across Germany in order to claim to their inheritance. On their way they meet Viktor (Konstantin Kotljarov), a deserted soldier of the soviet red army and Nadine (Sophie Rois), a beautiful young woman. Later an incident with some highwaymen, which can be solved easily with Viktor's kalashnikov, they become accused for murder - something they had neither intended nor realized. They claim Nadine to be their hostage, fleeing police forces until they reach the coast.
ปกดีวีดี NO MORE MR. NICE GUY
http://images.amazon.com/images/P/B00005NT5F.03._SS500_SCLZZZZZZZ_V1056696217_.jpg
ภาพจาก NO MORE MR. NICE GUY
http://www.zelluloid.de/filme/bilder.php3?id=2381
http://home.arcor.de/joachimkrol/Fotos/FWkaa/FWKAA.HTM
http://home.arcor.de/joachimkrol/Fotos/FWkaa/WKAA_Eis2.jpg
http://home.arcor.de/joachimkrol/Fotos/FWkaa/WKAA_Auto2.jpg
http://home.arcor.de/joachimkrol/Fotos/FWkaa/WKAA_Strand.jpg
KONSTANTIN KOLTJAROV ที่รับบทเป็นทหารโซเวียตดูน่ารักพอสมควรในหนังเรื่องนี้ แต่น่าเสียดายที่เขาเล่นหนังเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
http://www.imdb.com/name/nm0467734/
เคยดูหนังที่ DETLEV BUCK แสดงอีกเรื่องนึง นั่นก็คือเรื่อง HERR LEHMANN (2003, LEANDER HAUSSMANN, B+) โดยในเรื่องนี้ DETLEV BUCK รับบทเป็นเพื่อนพระเอกที่มีอาการสติแตกคล้ายกับใน BLUE MOON
ภาพจาก HERR LEHMANN
http://graphics8.nytimes.com/images/2004/04/03/arts/blues.1.583..jpg
ภาพจาก HERR LEHMANN
http://www.moviemaze.de/filme/0828/poster_lg01.jpg
http://www.herr-lehmann.de/hund1152.jpg
http://www.herr-lehmann.de/gang1024.jpg
ดู BLUE MOON แล้วทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า หลังจากโซเวียตล่มสลาย ก็มีหนังเกี่ยวกับผู้หญิงจากอดีตสหภาพโซเวียตออกมาผจญภัยในต่างประเทศหลายเรื่อง อย่างเช่น
1.BUNNY (2000, MIA TRACHINGER, A+++++++++++++++)
หนังเรื่องนี้ติดอันดับหนึ่งหนังโปรดประจำปี 2002 ของบางคนใน SENSES OF CINEMA
http://www.sensesofcinema.com/contents/03/24/favourites3.html#phokaew
2.VOYAGES (1999, EMMAUEL FINKIEL, A+++++++++++++++)
อ่านเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ได้ในหนังสือ FILMVIRUS 3
บทผู้หญิงจากอดีตโซเวียตในเรื่องนี้แสดงโดย ESTHER GORINTIN และเธอเล่นได้ดีมาก (แต่ยังแพ้ SHULAMIT ADAR ในเรื่องเดียวกัน เพราะบทของชูลามิท อาดาร์มีหลายอารมณ์มากกว่า)
3.SINCE OTAR LEFT (2003, JULIE BERTUCELLI, A)
บทผู้หญิงจากจอร์เจียในเรื่องนี้แสดงโดย ESTHER GORINTIN, NINO KHOMASURIDZE และ DINARA DRUKAROVA
ฉากที่ดูแล้วลืมไม่ลงใน SINCE OTAR LEFT คือฉากที่ ESTHER GORINTIN มาตามหาลูกชาย แล้วนั่งลงพักเหนื่อยบนขั้นบันได สายตาของเธอในฉากนั้นมันฝังใจดิฉันมากๆ
ปัจจุบันนี้ ESTHER GORINTIN มีอายุ 94 ปี แต่เธอยังคงออกมาหลอกหลอนผู้ชมใน HELL (2005, DANIS TANOVIC, A+)
http://www.imdb.com/name/nm0330971/
4.LILYA-4-EVER (2002, LUKAS MOODYSSON, B+)
5.BIRTHDAY GIRL (2001, JEZ BUTTERWORTH, B-)
บทสาวรัสเซียแสดงโดยนิโคล คิดแมน
6.LAST RESORT (2000, PAWEL PAWLIKOWSKI)
http://www.imdb.com/title/tt0258761/
บทสาวรัสเซียแสดงโดย DINA KORZUN
When a young Russian woman and her son leave Moscow to meet her fiance, who fails to show up, she declares political asylum.
ปกดีวีดี LAST RESORT
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00005M6QZ.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1114434914_.jpg
7.TWENTYNINE PALMS (2003, BRUNO DUMONT)
http://www.imdb.com/title/tt0315110/
บทสาวรัสเซียแสดงโดย YEKATERINA GOLUBEVA
จำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนเคยมีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่าผู้หญิงรัสเซียเข้ามาค้าประเวณีในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่เดาว่าตอนนี้คงถูกปราบปรามไปหมดแล้ว จริงๆแล้วอยากให้มีผู้ชายรัสเซียเข้ามาค้าประเวณีในประเทศไทยเป็นจำนวนมากด้วยเหมือนกัน
--ตอบน้อง merveillesxx
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=merveillesxx&month=01-2007&group=6&date=31&blog=1
รักคือฝันไป
ดูการแสดงประกอบเพลงนี้ของดร.เสรี วงษ์มณฑาได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=jjj7MkD2lKw
--ALL MY LIFE
http://filmsick.exteen.com/20070201/www-ubu-com
--พูดถึงหนังทางเน็ตแล้ว ตอนนี้รู้สึกดีใจอย่างสุดๆค่ะที่พบว่ามีหนังเรื่อง ALL MY LIFE (1966, BRUCE BAILLIE, A+++++++++++++++) ให้ดูทาง YOUTUBE ด้วย ดูได้ที่นี่ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=mEYsb-0m4q0
เคยดูหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพในปี 1999 และนี่คงจะเป็นหนึ่งในหนังสั้นที่ชอบที่สุดในชีวิตเรื่องนึง (แต่ยังแพ้ TAKE THE 5:10 TO DREAMLAND ของ BRUCE CONNER) ดูหนังเรื่องนี้แล้วแทบร้องไห้ แต่เป็นการร้องไห้เพราะได้รับความสุขจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้ขึ้นสวรรค์ เพราะรู้สึกว่าชีวิตคนเรามันก็แค่นี้เอง ไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย แค่ได้เห็นแสงแดดสวยๆ กอหญ้าเล็กๆ สายลมโปร่งเบา แค่นี้ก็คือความสุขสุดยอดชีวิตแล้ว ในแง่หนึ่ง หนังเรื่องนี้โดนใจดิฉันอย่างรุนแรงในแบบเดียวกับหนังเรื่อง ANAT(T)A (2006, AKRITCHALERM KALAYANAMITR + KOICHI SHIMIZU, A+++++++++++++++) และมันทำให้นึกถึงชื่อภาพยนตร์ความยาว 5 ชม. 20 นาทีของ JONAS MEKAS ที่มีชื่อว่า AS I WAS MOVING AHEAD OCCASIONALLY I SAW BRIEF GLIMPSES OF BEAUTY (2000) (เมื่อไหร่หนังเรื่องนี้จะได้เข้ามาฉายในประเทศไทยเสียที) หรือในบางทีหนังเรื่องนี้ก็ทำให้นึกถึงฉากถุงพลาสติกปลิวใน AMERICAN BEAUTY (1999, SAM MENDES, A+++++) ด้วยเหมือนกัน
BRUCE BAILIE บอกว่าเขาถ่ายหนังเรื่องนี้เพราะวันนึงเขาขับรถมาและมองเห็นว่าแสงแดดบนชายฝั่งแคลิฟอร์เนียมันสวยโดนใจเขามาก แต่ต่อมาเขาก็คิดว่าไม่ถ่ายหนังดีกว่า เพราะการถ่ายหนังมันน่าเหนื่อยหน่ายหนักใจเป็นอย่างมาก เขาพยายามจะขับรถออกไปจากจุดนั้น แต่เขาก็บอกกับตัวเองว่า “ไม่ เราไม่สามารถทิ้งโอกาสนี้ไปได้” และในที่สุดเขาก็ถ่ายหนังเรื่องนี้
ข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่อง ALL MY LIFE จากเว็บไซท์
http://www.ubu.com/film/baillie.html
Inspired by the magnificent daylight, All My Life (1966) is a continuous, single-shot film in which the camera pans along a flower lined, weathered fence followed by a gentle, vertical tip skyward. Shot with Ansco film, the colors are magnificent and the accompanying Ella Fitzgerald soundtrack, inspiring.
His passion is alive in his works and is revealed in his need to create. He shares with Scott MacDonald that the decision to make All My Life , was not an easy one. Inspired initially by the light on a beautiful day on the California coast he thought of shooting a film, but the thought of it was tiring knowing how much making a film can take out of you. When Baillie tried to drive away he said "No, I cannot turn my back on this!" and opted to make the film. What an incredible film it is. All My Life is a three minute film shot in one continuous movement panning a fence lined with beautiful red flowers followed by a gentle vertical tip skyward. The soundtrack is the Ella Fitzgerald song "All My Life" that coordinates with the movement of the camera.
Lenny Lipton, Berkeley Barb had this to say, "Yet even though much of his reputation may rest on his multiple imagery compositions, he has the power to create compelling and evocative work of disarmingly simple form, like the superb All My Life."
Baillie describes himself in the early days as being "like a gymnast without any grace." He certainly has grown. These films are full of beauty, light, wisdom and grace. --Donna Albano, 2001
--BRUCE BAILIE เป็นผู้กำกับหนังในดวงใจของผู้อ่านบางคนใน SENSES OF CINEMA
http://www.sensesofcinema.com/contents/top_tens/archive00.html#phokaew
--เนื้อเพลง ALL MY LIFE ของ ELLA FITZGERALD
All my life
I've been waiting for you
My wonderful one
I've begun
Living all my life
All my love
Has been waiting for you
My life is sublime
Now that i'm
Giving all my love
You seem so lovely, so far above me
I'm almost afraid to look
But I adore you, I pledge before you
A heart that's an open book
All my life
Hold me close to your heart
But all else above
Hold my love
Darling, just hold my love
--ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ชอบ ALL MY LIFE ของ BRUCE BAILLIE มาก เพราะหนังเรื่องนี้ใช้เพลงประกอบยุคเก่าๆที่ดิฉันชอบมาก หนังเรื่องอื่นๆที่สร้างความประทับใจดิฉันด้วยเพลงประกอบยุคเก่าก็รวมถึง
1.BLUE MOON (2002, ANDREA MARIA DUSL, A++++++++++)
หนังใช้เพลงเก่าชื่อว่า BLUE MOON
ฟังเพลงนี้ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=bBfKJoffyMw
2.TWO DRIFTERS (ODETE) (2005, JOAO PEDRO RODRIGUES, A+++++)
หนังเกย์เรื่องนี้ใช้เพลง MOON RIVER
ฟังเพลง MOON RIVER จากคลิปหนัง BREAKFAST AT TIFFANY’S (1961, BLAKE EDWARDS, A) ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=foSwyMkXyiE
3.DEJA VU (1997, HENRY JAGLOM, A++++++)
หนังเรื่องนี้ใช้เพลง WHITE CLIFFS OF DOVER
http://www.youtube.com/watch?v=BIaGxtSetJQ
4.ตอนนึงในละครชุด THE X-FILES ที่ใช้เพลงประกอบเป็นเพลง LILY MARLENE
ดูคลิปการแสดงเพลง LILY MARLENE โดย MARLENE DIETRICH ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=_vl8g8odo2E
5.THE WAY WE LAUGHED (1998, GIANNI AMELIO, A+)
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B0001KZN8S.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1121266827_.jpg
หนังเรื่องนี้ใช้เพลง LA MER ได้อย่างเพราะมากๆ โดยเฉพาะในฉากนึงที่น้องชาย (FRANCESCO GIUFFRIDA) ร้องเพลงนี้ให้พี่ชาย (ENRICO LO VERSO) ฟัง
ฟังเพลง LA MER ในเวอร์ชันที่ DALIDA ร้องไว้ในปี 1976 ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=_vl8g8odo2E
รู้สึกว่าเพลง LA MER จะมีหลายเวอร์ชัน แต่ชอบเวอร์ชันของ DALIDA มากๆค่ะ
DALIDA เคยร้องเพลงชื่อ PAROLES PAROLES กับ ALAIN DELON ด้วย ฟังเพลงนี้ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=cSDM1fATOeY
อีกสองเพลงของ DALIDA ที่ดิฉันชอบมากๆ คือเพลง QUAND JE N’AIME PLUS JE M’EN VAIS ดูลีลาการแสดงอันงดงามของ DALIDA ในเพลงนี้ได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=VnrxkbH_fiM
อีกเพลงของ DALIDA ที่ชอบมากคือเพลง HAVA NAGUILA ที่ DALIDA เคยร้องไว้ในปี 1958 ฟังเพลงนี้ของเธอได้ที่
http://www.youtube.com/watch?v=_mV6zk6OMfE
เพลง HAVA NAGUILA นี้เป็นเพลงที่คุ้นหูมากๆ และคิดว่าต้องเคยได้ฟังเพลงนี้จากหนังเรื่องใดเรื่องนึงมาแล้วแน่ๆ แต่นึกไม่ออกว่าเป็นหนังเรื่องไหน
เว็บไซท์ของ DALIDA
http://www.dalida.com/
รูปของ DALIDA
http://www.lookoutjazz.com/images/paris-dalida-large.jpg
http://placedupre.hautetfort.com/images/medium_dalida.jpg
--ตอบคุณสนธยา
http://filmsick.exteen.com/20070130/eden-and-after
พูดถึง ITALO CALVINO แล้ว ก็เลยมาทำลิงค์ไว้ให้ค่ะ เพราะคุณ LAUGHABLE LOVES เคยเขียนถึงหนังสือของ ITALO CALVINO เอาไว้ 3 เล่ม ซึ่งได้แก่
1.IF ON A WINTER’S NIGHT A TRAVELER
http://laughable-loves.blogspot.com/2006/10/i-calvinos-if-on-winters-night.html
2.COSMICOMICS
http://laughable-loves.blogspot.com/2007/01/i-calvinos-cosmicomics.html
3.DIFFICULT LOVES
http://laughable-loves.blogspot.com/2006/12/i-calvinos-difficult-loves.html
---ขอแก้ความเข้าใจผิดนิดนึงค่ะ ใน EDEN AND AFTER นั้น CATHERINE ROBBE-GRILLET ซึ่งเป็นเมียผู้กำกับ รับบทเป็น
1.อาจารย์ในมหาลัย
2.ลูกศิษย์คนนึงในมหาลัย
ส่วนบทคู่เหมือนของนางเอกนั้นรับบทโดยคู่หมั้นของ IGOR LUTHER ซึ่งเป็นตากล้องของหนังเรื่องนี้ค่ะ
--THE MAID ASLEEP
http://filmsick.exteen.com/20070202/entry?page=1
--ดู THE MAID ASLEEP (2001, CORINNA SCHNITT, A+) แล้ว ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง SAY HELLO TO PEACE AND TRANQUILITY (2001, DAGMAR KELLER + MARTIN WITTWER, A++++++++++) ที่ได้ดูในช่วงต้นเดือนก.ย.ปี 2006 เพราะหนังเยอรมันสองเรื่องนี้ถ่ายภาพหมู่บ้านย่านชานเมืองของชนชั้นกลางได้อย่างน่าสนใจเหมือนๆกัน และถ้าเข้าใจไม่ผิด หนังสองเรื่องนี้ไม่น่าจะถ่ายจากหมู่บ้านจริงๆ แต่ถ่ายจากหมู่บ้านจำลอง
ในกรณีของ SAY HELLO TO PEACE AND TRANQUILITY นั้น หนังจะถ่ายให้เราเห็นหมู่บ้านย่านชานเมืองที่ดูสวย, สะอาด, น่ารัก และสงบมากๆเป็นเวลาประมาณ 20 กว่านาที แต่ความสวยงาม, สะอาด, สงบ และเป็นระเบียบเรียบร้อยนั้น เกิดขึ้นได้เพราะว่าหมู่บ้านนี้ไม่มี “มนุษย์” อยู่เลย
ตอนแรกชอบ SAY HELLO TO PEACE AND TRANQUILITY ในระดับ A+ แต่น้อยกว่าหนังเรื่อง EVERYTHING WILL BE FINE (2006, DAGMAR KELLER + MARTIN WITTWER, A+++++) ที่ฉายในงานเดียวกัน โดย EVERYTHING WILL BE FINE แสดงให้เห็นภาพบ้านตุ๊กตาสีลูกกวาดสวยงามน่ารักขณะถูกพระเพลิงเผาผลาญพินาศ ซึ่งดูแล้วให้อารมณ์รุนแรงกว่า SAY HELLO TO PEACE AND TRANQUILITY
แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างในประเทศไทย ความรู้สึกชอบหนังเรื่อง SAY HELLO TO PEACE AND TRANQUILITY ก็พุ่งกระฉูดขึ้นมาในทันที เพราะหนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ในบางครั้ง บรรยากาศแห่งสันติภาพและความสงบมันอาจจะเกิดขึ้นเพราะว่า “ความเป็นมนุษย์” ได้ถูกปิดกั้นไปแล้ว
SAY HELLO TO PEACE AND TRANQUILITY ทำให้นึกถึงหนังอีกหลายเรื่องจากเยอรมนีและออสเตรีย ที่แสดงให้เห็นถึงสภาพบ้านเรือนที่ดูดีสมบูรณ์แบบมากๆ ของชนชั้นกลาง แต่ชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นใช่ว่าจะพบกับความสุขที่แท้จริง หนังเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการสวนทางกันอย่างแท้จริงระหว่างความสุขทางวัตถุกับความสุขทางจิตใจ อย่างเช่นเรื่อง
1.FREE RADICALS (2003, BARBARA ALBERT, A+++++++++++++++)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B0007CILWK.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1105556942_.jpg
2.THE SEVENTH CONTINENT (1989)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B000EHQU3A.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1140039263_.jpg
3.LIVING A BEAUTIFUL LIFE (2003, CORINNA SCHNITT, A+)
4.DOG DAYS (2001, ULRICH SEIDL, A+)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B0001KL58U.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V1077735722_.jpg
--THOMAS KOENER ผู้กำกับ SUBURBS OF EMPTINESS เป็นศิลปินที่ทำงานด้านดนตรีด้วยค่ะ เขาเคยออกอัลบัม
http://www.koener.de/discography.html
1.ZYKLOP (2003)
ฟังตัวอย่างเพลงในอัลบัมชุดนี้ได้ที่
http://www.mp3.com/thomas-köner/artists/174200/discography.html
เพลงตัวอย่างที่ชอบมากๆคือเพลง
1.1 ZYKLOP 2
ฟังแล้วนึกถึงเสียงพายุหิมะใน SUBURBS OF EMPTINESS
1.2 TU, SEMPRE
ฟังแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์มาร
1.3 TOPOGRAPHIE SONORE: COL DE VENCE
ฟังแล้วรู้สึกเหมือนหลังฝนตก แล้วได้ยินเสียงหรีดหริ่งเรไรนอกบ้านกำลังร้องเตือนคนในบ้านให้ระวังการมาเยือนของภูติพยาบาท
2. KAAMOS (1998)
ฟังตัวอย่างเพลงในอัลบัมชุดนี้ได้ที่ลิงค์ข้างบน
2.1 KAAMOS ช่วงแรก
ฟังแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกดูดเข้าสู่มิติลี้ลับ
2.2 KAAMOS ช่วงสอง
ฟังแล้วรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับกองทัพผีดิบซอมบี้ที่กำลังผุดลุกขึ้นมาจากโคลนตม
2.3 KAAMOS ช่วงสาม
ฟังแล้วรู้สึกเหมือนกำลังต่อสู้กับเจ้าแม่ผีดูดเลือดในช่วงใกล้รุ่งสาง
2.4 TABULA SMARAGDINA
ฟังแล้วรู้สึกเหมือนกำลังวิ่งหนีผีอยู่ในภูมิทัศน์จำลองในหัวของตัวเอง แบบที่ JONESY (DAMIAN LEWIS) ทำในหนังเรื่อง DREAMCATCHER (2003, LAWRENCE KASDAN, A+)
--มีบทสัมภาษณ์ THOMAS KOENER เกี่ยวกับ SUBURBS OF EMPTINESS ลงในเว็บไซท์นี้ด้วยค่ะ
http://www.sonar.es/portal/eng/online.cfm?id_sonaronline=25
Friday, February 02, 2007
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment