EDEN AND AFTER (1970, ALAIN ROBBE-GRILLET, หนึ่งในหนังที่ชอบที่สุดในชีวิต)
เนื่องจากคุณ FILMSICK เขียนถึงภาพยนตร์เรื่อง EDEN AND AFTER ไว้ได้อย่างถูกใจดิฉันมากๆที่บล็อกนี้
http://filmsick.exteen.com/20070130/eden-and-after
ดิฉันเลยขอเสริมความเห็นของตัวเอง+ข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ไว้ด้วยค่ะ โดยข้อมูลเกี่ยวกับ ALAIN ROBBE-GRILLET นั้น ส่วนใหญ่จะมาจากหนังสือ THE FRENCH NEW NOVEL (1969) ของ JOHN STURROCK เนื่องจากดิฉันอ่านบทความในหนังสือเล่มนี้แล้วเห็นว่าผลงานนิยายของ ALAIN ROBBE-GRILLET (ขอเรียกสั้นๆว่า ARG) นั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับหนังของเขามาก อีกทั้งนิยายหลายเรื่องของเขาก็เคยดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็เลยขอคัดลอกเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้บางส่วนมาให้อ่านกันด้วยค่ะ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคุณ FILMSICK, น้องเก้าอี้มีพนัก และคนที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่อง EDEN AND AFTER ซึ่งเปิดฉายในกรุงเทพไม่น้อยกว่า 4 ครั้งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
(หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพราะดิฉันเคยดูหนังที่กำกับโดย ARG แค่ 2 เรื่องเท่านั้น และแทบไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับ ARG เลยแม้แต่นิดเดียว)
ARG เป็นหนึ่งในนักประพันธ์กลุ่ม NOUVEAU ROMAN ที่เริ่มโด่งดังขึ้นมาในฝรั่งเศสในทศวรรษ 1950 โดยนักประพันธ์กลุ่มนี้ไม่ได้รวมตัวเป็นกลุ่มกันขึ้นมาเอง พวกเขาเป็นนักประพันธ์ที่แต่ละคนต่างก็ทำงานของตัวเอง และมีลักษณะแตกต่างกันมากในงานเขียนของแต่ละคน แต่ก็มีจุดร่วมกันบ้างเช่นกัน โดยนักวิจารณ์บางคนในยุคนั้นเป็นผู้คิดศัพท์ NEW NOVEL ขึ้นมาใช้เรียกนักประพันธ์กลุ่มนี้อย่างหลวมๆเพื่อความเข้าใจได้โดยง่ายสำหรับผู้อ่านบทวิจารณ์ ซึ่งการเรียกเช่นนี้สร้างความไม่พอใจให้นักประพันธ์บางคนในกลุ่มนี้ที่อยู่ดีๆตัวเองก็ถูกเหมารวมว่าเป็นพวกเดียวกับนักประพันธ์คนอื่นๆ
นักประพันธ์ในกลุ่ม NOUVEAU ROMAN หรือ NEW NOVEL นี้รวมถึง
1.NATHALIE SARRAUTE ซึ่งเขียนนิยายเรื่องแรกในปี 1939
รูปของ NATHALIE SARRAUTE
http://www.uni-stuttgart.de/lettres/projekte/bilder/galeri/16.jpg
ปก LA PLANETARIUM ของ SARRAUTE
http://ec1.images-amazon.com/images/P/207036092X.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก LA USAGE DE LA PAROLE ของ SARRAUTE
http://ec2.images-amazon.com/images/P/2070374351.08._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปกหนังสือ ENFANCE ของ SARRAUTE
http://ec1.images-amazon.com/images/P/2070376842.08._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก L’ERE DU SOUPCON ของ SARRAUTE
http://ec1.images-amazon.com/images/P/2070324508.08._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก TU NE T’AIME PAS ของ SARRAUTE
http://ec1.images-amazon.com/images/P/2070384160.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
2. CLAUDE SIMON ซึ่งแต่ง THE TRICKSTER ในปี 1941
3.ARG ซึ่งแต่ง LES GOMMES หรือ THE ERASERS ในปี 1953 โดยนิยายเรื่องนี้ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1969 ด้วยฝีมือการกำกับของ LUCIEN DEROISY + RENE MICHA
http://www.imdb.com/title/tt0064378/
4.MICHEL BUTOR ซึ่งแต่ง PASSAGE DE MILAN ในปี 1954
http://visel.freeshell.org/wordpress/wp-content/uploads/2006/04/michel-butor-1.jpg
ปก DEGREES ของ MICHEL BUTOR
http://ec1.images-amazon.com/images/P/1564783405.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก MOBILE ของ MICHEL BUTOR
http://ec1.images-amazon.com/images/P/156478343X.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก DON JUAN EN OCCITANIE ของ MICHEL BUTOR
http://ec1.images-amazon.com/images/P/2846230803.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก LA MODIFICATION ของ MICHEL BUTOR
http://ec2.images-amazon.com/images/P/2707303127.08._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
นิยายเรื่อง LA MODIFICATION ของ BUTOR เคยได้รับการดัดแปลงสร้างเป็นหนังเรื่อง LA MODIFICATION (1970, MICHEL WORMS, A) โดยหนังเรื่องนี้เคยมาเปิดฉายในกรุงเทพในช่วงประมาณปี 1995 และนำแสดงโดยสุดหล่อ MAURICE RONET กับ EMMANUELLE RIVA (HIROSHIMA MON AMOUR) หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่สองจิตสองใจว่าเขาจะทิ้งภรรยาดีหรือไม่ และเขาก็จินตนาการถึงชีวิตในอนาคตของเขาว่าถ้าหากทิ้งภรรยาแล้วจะเป็นอย่างไร, ถ้าหากไม่ทิ้งภรรยาแล้วจะเป็นอย่างไร ในขณะที่เขากำลังนั่งรถไฟ
อันนี้เป็นปกหนังสือวิเคราะห์ BUTOR โดยมีชื่อว่า SIGNS AND DESIGNS: ART AND ARCHITECTURE IN THE WORK OF MICHEL BUTOR โดย JEAN H. DUFFY
http://ec1.images-amazon.com/images/P/0853237786.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
5.CLAUDE OLLIER
ปก ETE INDIEN ของ CLAUDE OLLIER
http://ec1.images-amazon.com/images/P/2080643622.08._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก LA VIE SUR EPSILON ของ CLAUDE OLLIER
http://ec1.images-amazon.com/images/P/2080647105.08._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก MON DOUBLE A MALACCA ของ CLAUDE OLLIER
http://ec1.images-amazon.com/images/P/2080644831.08._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก LAW & ORDER ของ CLAUDE OLLIER
http://ec1.images-amazon.com/images/P/0873760158.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
คำวิจารณ์ LAW & ORDER
Most interesting, however, are the textual developments and transformations that take place. ...the initial paragraph furnishes key motifs for two focal segments of the text-- "The sudden vast glistening brightness..." and "Raw, intense, blinding light" the first a textual correlative of fear-- the second, of scandal"
ปก THE MISE-EN-SCENE ของ CLAUDE OLLIER
http://ec2.images-amazon.com/images/P/1564782328.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
นิยายเรื่องนี้เคยได้รับรางวัล PRIX MEDICIS ในปี 1958 และมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิศวกรชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งที่เดินทางเข้าไปในเทือกเขาในโมร็อกโกที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ โดยลาแซล ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่องนี้ได้รับภารกิจให้ค้นหาถนนที่จะนำไปสู่เหมืองแห่งหนึ่ง แต่เขาต้องเผชิญกับบรรยากาศแห่งความไม่ไว้วางใจในยุคอาณานิคมและเหตุการณ์รุนแรง โดยเหตุการณ์ในนิยายเรื่องนี้มีบางส่วนที่ทำให้นึกถึง EDEN AND AFTER ด้วย
ลาแซลเดินทางไปกับกองทหารฝรั่งเศสในตอนแรก และต่อมาเขาก็เดินทางร่วมกับไกด์ชาวแอลจีเรียสองคน ซึ่งได้แก่ซาร์จันท์ บา อิเคน ซึ่งมีดวงตาสีฟ้า และอิชู ซึ่งเป็นเด็กชายใบ้
ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุและบรรยากาศแห่งภยันตราย ลาซาลพบว่ายามิลา หญิงสาวคนหนึ่งถูกสามีแทงตาย แต่ลาซาลกลับเฝ้าเห็นแต่ภาพของหญิงสาวคนนี้มาตามหลอกหลอนเขา และเขาก็สับสนระหว่างเธอกับยามินา ซึ่งเป็นหญิงสาวอีกคนที่ยังมีชีวิตอยู่
ทางการดูเหมือนจะไม่ใส่ใจกับการฆาตกรรมยามิลา และทางการก็ไม่ใส่ใจกับการหายสาบสูญไปของวิศวกรอีกคนที่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจก่อนหน้าลาซาลด้วยเช่นกัน โดยวิศวกรคนนี้มีชื่อว่าเลสซิง และก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาถูกฆ่าตายไปแล้วหรือไม่ และการตายของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของยามิลาหรือไม่
ลาซาลต้องเดินทางต่อไปเรื่อยๆบนเส้นทางที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด เขารู้สึกแปลกแยกมากขึ้นและเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ และนิยายเรื่องนี้ก็หลอนมากขึ้นเรื่อยๆ
6.JEAN RICARDOU
ปก LA CATHEDRAL DE SONS ของ RICARDOU
http://ec1.images-amazon.com/images/P/2906131083.08._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
นักประพันธ์กลุ่มนี้ถูกเรียกรวมกันว่าเป็นกลุ่ม NOUVEAU ROMAN ครั้งแรกในเดือนก.ค.ปี 1958 โดยนิตยสาร ESPRIT โดยในช่วงนั้นนักเขียนกลุ่มนี้ยังถูกเรียกด้วยชื่ออื่นๆด้วย อย่างเช่นถูกเรียกว่ากลุ่ม SCHOOL OF SEEING เพราะหลายคนบอกว่านักเขียนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการบรรยายเหตุการณ์ภายนอก หรือสิ่งที่คนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มากกว่าจะบรรยายถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวละครแบบนิยายทั่วไป
นักเขียนกลุ่มนี้ถูกเรียกว่ากลุ่ม SCHOOL OF MIDNIGHT หรือ MIDNIGHT NOVELISTS ด้วยเช่นกัน เพราะนักเขียนกลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจาก JEROME LINDON จากสนพ. EDITIONS DE MINUIT (MINUIT = MIDNIGHT) โดยนอกจากเขาจะสนับสนุนนักเขียนหัวก้าวหน้ากลุ่มนี้แล้ว เขายังสนับสนุน SAMUEL BECKETT, ROBERT PINGET และ MARGUERITE DURAS ด้วย
ปก MAHU OR THE MATERIAL ของ ROBERT PINGET
http://ec1.images-amazon.com/images/P/1564783774.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก THEO OR THE NEW ERA ของ ROBERT PINGET
http://ec1.images-amazon.com/images/P/0873760794.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก THE INQUISITORY ของ ROBERT PINGET
http://ec1.images-amazon.com/images/P/1564783278.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก BE BRAVE ของ ROBERT PINGET
http://ec2.images-amazon.com/images/P/0873760751.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
ปก ABEL AND BELA ของ ROBERT PINGET
http://ec1.images-amazon.com/images/P/0873760522.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
Monday, February 05, 2007
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment