FAVORITE ARTIST
Psychemagik
http://www.myspace.com/psychemagik
Recommended by PC from Bioscope magazine
FAVORITE SONGS
1.CLASSIC CLICHE – Elektrons
http://www.youtube.com/watch?v=8bOMqau2Pcc
2.THE UNDERGROUND BULLSHIT – Gel Abril
http://www.youtube.com/watch?v=LNcUu64oEWg
3.FULL CLIP – Martin Buttrich
http://www.youtube.com/watch?v=_9l4o03DDrI
4.ROAD KILL – Dubfire
http://www.youtube.com/watch?v=PGbyv5Rz7Y8
5.GRYSOR -- DJ Fudge
This is my comment in Bioscope webboard:
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=71.1260
ตอบคุณ PC
ได้ลองเข้าไปฟังเพลงของวง Psychemagik แล้วค่ะ ชอบมากๆเลย ขอบคุณมากค่ะที่แนะนำวงนี้
พูดถึงดนตรีอิเล็กโทรนิกยุคโบราณแล้ว ก็เลยนึกถึงหนังสารคดีเรื่อง FUTURE IS NOT WHAT IT USED TO BE (2002, Mika Taanila, Finland, A+) ที่เพิ่งได้ดู หนังสารคดีเรื่องนี้อยู่ในดีวีดีรวมหนังสั้นของ Mika Taanila และมีเนื้อหาเกี่ยวกับ Erkki Kurenniemi ผู้บุกเบิกวงการศิลปะอิเล็กโทรนิกในฟินแลนด์ ซึ่งรวมถึงการทำดนตรีอิเล็กโทรนิกตั้งแต่ทศวรรษ 1960 เขาเป็นคนที่ล้ำยุคล้ำสมัยมากๆ นึกไม่ถึงมาก่อนว่าฟินแลนด์จะทำดนตรีล้ำอย่างนี้มานานหลายสิบปีแล้ว แต่คิดไปคิดมาแล้วก็ไม่แปลก คงเป็นเพราะประเทศนี้มีการสนับสนุนอะไรทำนองนี้ก็ได้มั้ง ประเทศนี้ก็เลยกลายเป็นเจ้าของ NOKIA อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกที่หลายคนใช้อยู่ในตอนนี้
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ทำให้ดิฉันชอบ FUTURE IS NOT WHAT IT USED TO BE ในระดับ A+ ไม่ได้เป็นเพราะดนตรีอิเล็กโทรนิกยุคโบราณในหนังเรื่องนี้ แต่เป็นเพราะดิฉันรู้สึกตกใจกับสภาพของ Erkki ในยุคปัจจุบันมากพอสมควร หนังเรื่องนี้นำฟุตเตจเก่าๆที่บันทึกภาพของ Erkki ในทศวรรษ 1960 และ 1970 มาให้เราดู ซึ่งเขาก็ดูน่ารักดีในยุคนั้น แต่พอได้เห็นเขาในยุคปัจจุบัน เขากลับดูน่ากลัวมากๆ แววตาของเขามันดูแห้งผาก แววตาของเขามันดูเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิมเลย หนังไม่ได้เล่าให้ฟังว่าเกิดเหตุการณ์อะไรถึงทำให้เขาเปลี่ยนไปขนาดนั้น หรือบางทีอาจจะไม่มีใครรู้ก็ได้ว่าทำไม “แววตา” ของเขาถึงได้เปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหลือเค้าเดิม
รายละเอียดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้อ่านได้ที่
http://www.avantofestival.com/2002_live/lp_kurenniemi.html
ประวัติของ Erkki Kurenniemi
http://en.wikipedia.org/wiki/Erkki_Kurenniemi
“The most ambitious of Erkki Kurenniemi's projects was the series of digital synthesizers, called DIMI, in the early 1970s. For example, Kurenniemi's video synthesizer DIMI-O (1970-1971) converted any movements recorded by the video camera into real-time sounds and music. DIMI-S (also known as the "Sexophone") was able to generate sound and light by contact with the skin, reacting to the emotional state of the performers.”
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment