This is my comment in Dan Sallitt’s blog:
http://www.panix.com/~sallitt/blog/2008/10/frivolous-lists-poland.html
--I just want to say that I also prefer earlier Kieslowski’s films to his later ones. I love PERSONNEL (1976), CALM BEFORE THE STORM (1980) and SHORT WORKING DAY (1981) a lot, because I can feel connected to the feelings of frustration or dissatisfaction with the society in these films. I prefer these three films to later Kieslowski’s films which are co-written by Krzysztof Piesiewicz. Piesiewicz’s films have some spiritual feelings to which I can’t fully connect.
One of my most favorite Polish films is HI, TERESKA (2001, Robert Glinski). I also love IMPERATIVE (1982, Krzysztof Zanussi), but I saw it many years ago and hope I can see it again.
--------------------------------------------------------------
This is my comment in Konmongnang’s blog:
http://konmongnang.exteen.com/20081014/entry
ได้ไปดู CITY OF ANGELS (1983, Marina Abramovic, A+) มาอีกรอบแล้ว ตอนแรกที่ไปถึงห้องที่ฉายหนังของ Abramovic ก็งงๆอยู่เหมือนกัน เพราะป้ายหน้าห้องนั้นบอกว่าฉายหนังเรื่อง SEA PUNISHING กับ CITY OF ANGELS แต่เราดูในห้องนั้นแล้ว ก็เห็นมีแต่จอภาพยนตร์สองจอที่ฉาย SEA PUNISHING แล้วก็มีทีวีตั้งอยู่ในห้องนั้นเครื่องนึง แต่ไม่ได้ฉายหนังอะไรเลย เราก็เลยเดินไปบอกยามให้เขามาเปิดดีวีดีเรื่อง CITY OF ANGELS ให้เราดู เดาว่าดีวีดีเครื่องที่ฉายหนังเรื่องนี้คงมีปัญหาอะไรสักอย่าง มันเลยไม่ RE-START โดยอัตโนมัติ ต้องมาเปิด START เองในแต่ละรอบถึงจะดูได้
การได้ดูหนังเรื่องนี้รอบสองทำให้ได้สังเกตเห็น “เต่าตัวลายเดินย้ายโครงเครง” ในหนังเรื่องนี้ด้วย รู้สึกว่าเต่าตัวนี้คงเป็นสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง แต่เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไร ถ้าจำไม่ผิด เต่าตัวนี้ปรากฏตัว 3 ครั้ง ซึ่งได้แก่
1.หลังจากกล้องถ่ายกลุ่มคนที่นอนนิ่งไม่ไหวติงจนครบหมดทุกคนแล้ว กล้องก็ถ่ายให้เราเห็นเต่าตัวนึง แต่เต่าตัวนี้กลับเป็นสัตว์ตัวแรกที่ลุกขึ้นเดิน ในขณะที่คนยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่เหมือนเดิม
2.ในฉากที่มีชายชรานอนท่าคล้ายๆสีหไสยาสน์และมีหญิงชรานั่งอยู่ข้างๆนั้น เราจะเห็นเต่าตัวนี้เดินเข้าฉากมา ผ่านคนชราสองคน และก็เดินออกจากฉากไป โดยที่คนสองคนนี้หยุดนิ่งไม่ไหวติงตลอดเวลา แต่เต่ากลับก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา
3.ในฉากสุดท้ายที่มองจากมุมบนและจากระยะไกลนั้น เราจะเห็นคนทั้งหมดนอนแผ่หราไม่ไหวติงอยู่บนพื้นหญ้า แต่เราจะเห็นเต่าลุกขึ้นเดินเหินไปมา เต่าเดินผละออกจากกลุ่มคนนอนเหล่านั้น และเดินออกจากฉากไปในที่สุด
ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะสร้างขึ้นในปี 1983 และเราไม่รู้ว่า Marina Abramovic มีจุดประสงค์อะไรในการสร้างหนังเรื่องนี้ แต่เรากลับรู้สึกว่าเหตุการณ์รัฐประหารในปี 2006 และความพยายามของคนบางกลุ่มในปัจจุบันนี้ในการทำลายระบอบประชาธิปไตย มันทำให้เรารู้สึกว่าประเทศไทยพัฒนาช้ากว่าเต่า เหมือนในหนังเรื่อง CITY OF ANGELS ไม่มีผิด ฮ่าๆๆๆ
อีกฉากนึงที่ชอบมากในหนังเรื่องนี้ คือฉากที่ชายชราคนนึงใช้มือข้างนึงถือดาบอยู่เหนือหัว และใช้มืออีกข้างนึงชูกระจกสะท้อนแสงเอาไว้เหนือหัว ชายชราที่ดูเหมือนจะรับบทบาทเป็นทหารผู้พยายามจะปกปักษ์รักษาผืนแผ่นดินคนนี้พยายามทำให้ร่างกายตัวเองหยุดนิ่งไม่ไหวติงเหมือนกับตัวละครตัวอื่นๆในฉากก่อนหน้านี้ แต่ปรากฏว่าแขนของชายชราข้างที่ถือกระจกเอาไว้กลับค่อยๆลดระดับลงมาเรื่อยๆ เพราะชายชราไม่สามารถเกร็งแขนไว้ได้นาน เขารู้สึกเมื่อยล้าเหลือเกินกับการต้องถูก “ตรึงบทบาทให้เป็นผู้พิทักษ์รักษาดินแดน” ตลอดเวลาแบบนี้ ดูแล้วก็รู้สึกว่าฉากนี้นอกจากจะแฝงความหมายที่น่าสนใจเอาไว้แล้ว ฉากนี้ยังดูเหมือนจะเล่นกับความแตกต่างระหว่าง “ภาพนิ่ง” และ “ภาพเคลื่อนไหว” ได้ดีด้วย เพราะหนังเรื่องนี้เป็นภาพเคลื่อนไหวที่มีลักษณะคล้ายภาพนิ่งในหลายๆฉาก แต่หนังก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่หยุดนิ่งในหนังเรื่องนี้ ไม่ได้หยุดนิ่งไปพร้อมกับเวลา เวลายังคงเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ แต่ตัวละครเหล่านี้เองที่พยายามจะหยุดนิ่งและฝืนเกร็งตัวเองเอาไว้
สรุปว่าได้ดู video ไปประมาณ 18 เรื่องในนิทรรศการนี้ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง รู้สึกมีความสุขมากๆ วันหลังว่างๆจะมาดูงานศิลปะอื่นๆในนิทรรศการนี้อีก
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment