Wednesday, August 20, 2014

THE SWIMMERS (2014, Sopon Sukdapisit, A+20)

THE SWIMMERS (2014, Sopon Sukdapisit, A+20)
 
SPOILERS ALERT:
 
 
 
 
 
ตอนแรกไม่เคยคิดจะเขียนถึงหนังเรื่องนี้ เพราะดูเหมือนหนังจะดังมากพอแล้ว แต่พอดีมีเพื่อนถามว่า “แอบอยากรู้ว่าน้องจิตรคิดยังไงกับ ฝากไว้ในกายเธอ ครับ หมายถึงหนังนะฮะ ไม่ใช่นมน้องมาร์ช
 
เราก็เลยเขียนตอบเพื่อนไปดังนี้ 555:
 
ก็เป็นหนังที่ชอบมากนะครับ สาเหตุเป็นเพราะ
 
1.ความหล่อของนักแสดงนำชายสองคนน่ะแหละ เพราะเราไม่เคยดู HORMONES มาก่อนเลย และเราว่าหนังเรื่องนี้ใช้ประโยชน์จากเสน่ห์ทางเพศของนักแสดงนำชายสองคนได้อย่างเต็มที่ 555  เราว่าน้องมาร์ชมีเสน่ห์มากๆเวลาเล่นหนัง (ในสายตาของเรา) คือเวลาเขาถ่ายแบบเป็นภาพนิ่ง ภาพนิ่งมันไม่สามารถดึงเสน่ห์ของเขาออกมาได้มากนัก เพราะเสน่ห์ของเขามันอยู่ที่การเล่นหูเล่นตาของเขาเวลาแสดงหนัง
 
2.สิ่งที่เราชอบมากในหนังเรื่องนี้ก็คือว่ามันจบผิดคาดจากที่เราคิดไว้มาก คือเราไม่นึกว่าคนเลว (เพิร์ธ) จะเป็นผู้ชนะในตอนจบน่ะ เรานึกว่าหนังมันจะลงโทษคนเลวแบบจริงๆจังๆกว่านี้ คือในตอนจบของหนังเรื่องนี้ เพิร์ธจะถูกหลอกหลอนด้วยความรู้สึกผิดบาปในใจตลอดไป แต่เขาก็ประสบความสำเร็จในด้านอื่นๆของชีวิตเป็นอย่างดี ซึ่งมันเป็นตอนจบแบบที่เราไม่ได้คาดไว้ การจบแบบที่คนเลวเป็นผู้ชนะแบบนี้ (ถึงแม้จะชนะไม่ 100%) มันเป็นสิ่งที่เราชอบมากๆ เพราะเราว่ามันสะท้อนสังคมได้ดี และมันผิดไปจากที่เราคาดไว้ด้วย
 
คือในตอนแรกเรานึกว่ามันจะจบแบบ A KISS BEFORE DYING (1991, James Dearden) น่ะ ซึ่งมันสร้างจากนิยายของ Ira Levin และเราเคยอ่านตัวนิยายในบางส่วนด้วยเหมือนกัน คือตอนที่เราดู THE SWIMMERS เราจะนึกถึง A KISS BEFORE DYING มากๆ เพราะมันเล่าเรื่องผ่านทางมุมมองของพระเอกที่เป็นคนเลวเหมือนกัน (ในตัวนิยายจะมีการเล่าเรื่องผ่านทาง 3 มุมมอง ถ้าจำไม่ผิด ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นมุมมองของพระเอกที่เป็นคนเลว) แต่ A KISS BEFORE DYING จบลงด้วยการที่คนเลวเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เราก็เลยนึกว่า THE SWIMMERS จะจบแบบเดียวกัน พอมันจบไปอีกทางนึง เราก็เลยผิดคาดมากๆ
 
3.สิ่งที่ชอบสุดๆในหนังเรื่องนี้ก็คือมันทำให้เรารู้สึก guilty pleasure ในสองระดับ โดย guilty pleasure ระดับแรกเป็นสิ่งที่เราเจอบ่อยๆ นั่นก็คือการที่หนังดึงเสน่ห์ทางเพศของนักแสดงชายออกมาได้เต็มที่ แต่ความรู้สึก guilty อันที่สองเป็นสิ่งที่เราเจอไม่บ่อยนักในหนังไทย นั่นก็คือมันทำให้เรารู้สึก “แปดเปื้อน” ในใจตลอดเวลา เพราะขณะที่เราดูหนังเรื่องนี้ เราจะรู้สึกเอาใจช่วยเพิร์ธและเกลียดชังเพิร์ธไปด้วยในขณะเดียวกัน คือขณะที่ดูหนัง เราจะรู้สึกว่าเพิร์ธเลวมากๆ แต่เราก็อดเอาใจช่วยเขาไม่ได้ในบางครั้ง
คือในขณะที่เราดูหนังเรื่องนี้ เราจะรู้สึก “อยากให้เพิร์ธรอด” กับ “อยากให้เพิร์ธตาย” พร้อมๆกันในเวลาเดียวกันน่ะ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักเวลาเราดูหนัง แล้วเราจะรู้สึกตรงข้ามกันในเวลาเดียวกันเกือบตลอดเวลาแบบนี้ คือเราอยากให้ตัวละครตัวนี้ตายเพราะเรารู้ว่าตัวละครตัวนี้เลว แต่การที่หนังเล่าเรื่องผ่านทางมุมมองของตัวละครตัวนี้ แล้วสร้างเสน่ห์ให้กับตัวละครตัวนี้แบบสุดๆ รวมทั้งการที่เราไม่ได้มองว่าตัวละครตัวนี้เป็นคนเลวแบบสุดๆในช่วงต้นเรื่อง มันก็เลยทำให้เราอดเอาใจช่วยตัวละครตัวนี้ไปด้วยไม่ได้
 
เพราะฉะนั้นเวลาที่เราดูหนังเรื่องนี้ เราก็เลยรู้สึก guilty เพราะเรารู้ว่าเราเอาใจช่วยคนเลวในระดับนึง และความ guilty นั้นก็ทำให้เรารู้สึกแปดเปื้อนในใจแบบแปลกๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้รู้สึกบ่อยครั้งนักกับหนังเรื่องอื่นๆ
 
การที่เราเอาใจช่วยคนเลวในหนังเรื่องนี้ มันเป็นเพราะว่าตัวละครเพิร์ธมันดูเลวแบบโง่ๆนิดนึงด้วย คือถ้ามันฉลาดเกินไป เราอาจจะไม่เอาใจช่วยมันมากเท่านี้ และมันก็มีหนังหลายๆเรื่องแหละ ที่มันเล่าเรื่องผ่านทางมุมมองของคนเลวในบางส่วน อย่างเช่น FRENZY (1972, Alfred Hitchcock) และ PEEPING TOM (1960, Michael Powell) แต่เราไม่ได้เอาใจช่วยคนเลวในหนังสองเรื่องนี้ เพราะมันเป็นฆาตกรโรคจิตที่น่ากลัวมาก และเราก็ไม่ได้เอาใจช่วยพระเอกที่เป็นคนเลวใน MATCH POINT (2005, Woody Allen) กับใน A KISS BEFORE DYING ด้วย ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงไม่เอาใจช่วยหนุ่มหล่อเลวสองคนใน MATCH POINT กับ A KISS BEFORE DYING แต่กลับเอาใจช่วยคนเลวใน THE SWIMMERS ให้รอดจากสถานการณ์คับขันในบางครั้ง
 
ความรู้สึก guilty แบบนี้เราเจอไม่บ่อยครั้งนัก เราก็เลยรู้สึกว่ามันยากพอสมควรในการจะสร้างตัวละครคนเลวที่ทำให้เรารู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดตลอดเวลาแบบนี้ ถ้าหากจะถามว่ามีตัวละครตัวไหนที่เคยทำให้เรารู้สึกแบบนี้บ้าง นั่นก็คือตัวละคร อีฟ” ในมินิซีรีส์เรื่อง MASTER OF THE GAME (1984, Kevin Connor + Harvey Hart, 413min, A+30) โดยตัวละครตัวนี้เป็นหญิงสาวเจ้าเล่ห์ที่พยายามวางแผนฆ่าน้องสาวของตัวเองตลอดเวลา เธอเป็นตัวละครที่ชั่วสุดๆ แต่เธอก็เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากๆในขณะเดียวกัน และเวลาที่เราดูมินิซีรีส์เรื่องนี้ เราก็จะรู้สึกคล้ายๆกับที่ดู THE SWIMMERS นั่นก็คือเราจะรู้สึก “อยากให้อีฟตาย” กับ “อยากให้อีฟรอด” พร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน
 
(แต่ตัวละครอีฟกับเพิร์ธก็แตกต่างกันมากๆในบางจุดนะ เพราะอีฟเป็นตัวละครที่ฉลาดสุดๆ และคู่ปรับของอีฟเป็นคุณย่าของเธอ ซึ่งก็เป็นผู้หญิงที่เลวและฉลาดสุดๆเหมือนกัน ในขณะที่คู่ปรับของเพิร์ธไม่ใช่คนที่ดูเลวมากนัก การเอาใจช่วยของเราที่มีต่ออีฟกับเพิร์ธก็เลยต่างกันเล็กน้อย เพราะอีฟเป็นตัวละครที่ต้องตบตีกับหญิงเลวด้วยกันเอง)
 
4.ชอบตัวละครมิ้นท์ (วิโอเล็ต วอเทียร์) มากๆ เราอินกับตัวละครตัวนี้ที่สุด และเราก็เลยชอบสุดๆที่ตัวละครตัวนี้ไม่ได้ถูกลงโทษในหนังเรื่องนี้ คือเรานึกว่าตัวละครผู้หญิงแบบนี้ เวลาอยู่ในหนังไทย จะต้องถูกลงโทษไง แต่ปรากฏว่าตัวละครตัวนี้ทำในสิ่งที่เราต้องการ และก็ได้ในสิ่งที่เราต้องการด้วย นั่นก็คือการมีเซ็กส์กับเพิร์ธไปเรื่อยๆ เราก็เลยแฮปปี้กับจุดนี้มากๆ
 
ฉากที่ติดตาเรามากที่สุดฉากนึงในหนังเรื่องนี้ ก็คือฉากที่มิ้นท์มองเพิร์ธด้วยสายตาเหมือนจะสำรวจความจริงอะไรสักอย่าง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงติดตากับฉากนี้มากๆ
 
5.อีกสิ่งที่เราชอบสุดๆในหนังเรื่องนี้ ก็คือการกินไข่อย่างบ้าคลั่งกับการมโนว่าตัวเองตั้งครรภ์นั่นแหละ คือการกินไข่อย่างบ้าคลั่งในหนังเรื่องนี้มันกระทบอารมณ์ความรู้สึกของเราอย่างรุนแรงกว่าฉากผีทุกฉากในหนังเรื่องนี้ซะอีก คือเราว่าฉากผีในหนังเรื่องนี้มันธรรมดามากๆ มันไม่มีอะไรน่าจดจำสำหรับเรา แต่การกินไข่อย่างบ้าคลั่งในหนังเรื่องนี้มันกระทบเราอย่างรุนแรงกว่ามาก
 
เรารู้สึกเหมือนได้รับ pleasure แบบแปลกๆนะกับการกินไข่ในหนังเรื่องนี้ เราก็เลยมีทฤษฎีว่า บางที pleasure แบบแปลกๆที่เรารู้สึกนี้ เป็นเพราะว่ามันตอบสนองแฟนตาซีทางเพศของเรา คือการได้เห็นหนุ่มหล่อกินน้ำข้นๆเหนียวๆเยิ้มๆเป็นปริมาณมากๆ แล้วหลังจากนั้นก็มโนว่าตัวเองตั้งครรภ์น่ะ มันเหมือนกับการตอบสนองแฟนตาซีทางเพศของเราในการกิน sperm ของผู้ชายเข้าไปแล้วก็ตั้งครรภ์ 55555
 
สรุปว่าที่เราชอบ THE SWIMMERS มากๆเป็นเพราะว่าเราหลงใหลในความหล่อของนักแสดงชาย, เรารู้สึก “อยากให้เพิร์ธตาย” กับ “อยากให้เพิร์ธรอด” พร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่รู้สึกกับหนังเรื่องอื่นๆ และการที่หนังตอบสนองแฟนตาซีทางเพศของเราในการกินน้ำข้นๆเหนียวๆเยิ้มๆแล้วก็ตั้งครรภ์
 
 
 

No comments: