THE SWIMMERS (2014, Sopon Sukdapisit, A+20)
ตอนแรกไม่เคยคิดจะเขียนถึงหนังเรื่องนี้
เพราะดูเหมือนหนังจะดังมากพอแล้ว แต่พอดีมีเพื่อนถามว่า “แอบอยากรู้ว่าน้องจิตรคิดยังไงกับ ฝากไว้ในกายเธอ ครับ
หมายถึงหนังนะฮะ ไม่ใช่นมน้องมาร์ช”
เราก็เลยเขียนตอบเพื่อนไปดังนี้ 555:
ก็เป็นหนังที่ชอบมากนะครับ สาเหตุเป็นเพราะ
1.ความหล่อของนักแสดงนำชายสองคนน่ะแหละ เพราะเราไม่เคยดู HORMONES มาก่อนเลย และเราว่าหนังเรื่องนี้ใช้ประโยชน์จากเสน่ห์ทางเพศของนักแสดงนำชายสองคนได้อย่างเต็มที่
555 เราว่าน้องมาร์ชมีเสน่ห์มากๆเวลาเล่นหนัง
(ในสายตาของเรา) คือเวลาเขาถ่ายแบบเป็นภาพนิ่ง ภาพนิ่งมันไม่สามารถดึงเสน่ห์ของเขาออกมาได้มากนัก
เพราะเสน่ห์ของเขามันอยู่ที่การเล่นหูเล่นตาของเขาเวลาแสดงหนัง
2.สิ่งที่เราชอบมากในหนังเรื่องนี้ก็คือว่ามันจบผิดคาดจากที่เราคิดไว้มาก
คือเราไม่นึกว่าคนเลว (เพิร์ธ) จะเป็นผู้ชนะในตอนจบน่ะ เรานึกว่าหนังมันจะลงโทษคนเลวแบบจริงๆจังๆกว่านี้
คือในตอนจบของหนังเรื่องนี้ เพิร์ธจะถูกหลอกหลอนด้วยความรู้สึกผิดบาปในใจตลอดไป
แต่เขาก็ประสบความสำเร็จในด้านอื่นๆของชีวิตเป็นอย่างดี ซึ่งมันเป็นตอนจบแบบที่เราไม่ได้คาดไว้
การจบแบบที่คนเลวเป็นผู้ชนะแบบนี้ (ถึงแม้จะชนะไม่ 100%) มันเป็นสิ่งที่เราชอบมากๆ
เพราะเราว่ามันสะท้อนสังคมได้ดี และมันผิดไปจากที่เราคาดไว้ด้วย
คือในตอนแรกเรานึกว่ามันจะจบแบบ A KISS BEFORE DYING (1991, James
Dearden) น่ะ ซึ่งมันสร้างจากนิยายของ Ira Levin และเราเคยอ่านตัวนิยายในบางส่วนด้วยเหมือนกัน คือตอนที่เราดู THE
SWIMMERS เราจะนึกถึง A KISS BEFORE DYING มากๆ
เพราะมันเล่าเรื่องผ่านทางมุมมองของพระเอกที่เป็นคนเลวเหมือนกัน
(ในตัวนิยายจะมีการเล่าเรื่องผ่านทาง 3 มุมมอง ถ้าจำไม่ผิด
ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นมุมมองของพระเอกที่เป็นคนเลว) แต่ A KISS BEFORE DYING จบลงด้วยการที่คนเลวเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เราก็เลยนึกว่า THE SWIMMERS จะจบแบบเดียวกัน พอมันจบไปอีกทางนึง เราก็เลยผิดคาดมากๆ
3.สิ่งที่ชอบสุดๆในหนังเรื่องนี้ก็คือมันทำให้เรารู้สึก guilty pleasure ในสองระดับ
โดย guilty pleasure ระดับแรกเป็นสิ่งที่เราเจอบ่อยๆ
นั่นก็คือการที่หนังดึงเสน่ห์ทางเพศของนักแสดงชายออกมาได้เต็มที่ แต่ความรู้สึก guilty
อันที่สองเป็นสิ่งที่เราเจอไม่บ่อยนักในหนังไทย
นั่นก็คือมันทำให้เรารู้สึก “แปดเปื้อน” ในใจตลอดเวลา
เพราะขณะที่เราดูหนังเรื่องนี้
เราจะรู้สึกเอาใจช่วยเพิร์ธและเกลียดชังเพิร์ธไปด้วยในขณะเดียวกัน คือขณะที่ดูหนัง
เราจะรู้สึกว่าเพิร์ธเลวมากๆ แต่เราก็อดเอาใจช่วยเขาไม่ได้ในบางครั้ง
คือในขณะที่เราดูหนังเรื่องนี้ เราจะรู้สึก “อยากให้เพิร์ธรอด” กับ “อยากให้เพิร์ธตาย”
พร้อมๆกันในเวลาเดียวกันน่ะ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักเวลาเราดูหนัง
แล้วเราจะรู้สึกตรงข้ามกันในเวลาเดียวกันเกือบตลอดเวลาแบบนี้
คือเราอยากให้ตัวละครตัวนี้ตายเพราะเรารู้ว่าตัวละครตัวนี้เลว
แต่การที่หนังเล่าเรื่องผ่านทางมุมมองของตัวละครตัวนี้
แล้วสร้างเสน่ห์ให้กับตัวละครตัวนี้แบบสุดๆ รวมทั้งการที่เราไม่ได้มองว่าตัวละครตัวนี้เป็นคนเลวแบบสุดๆในช่วงต้นเรื่อง
มันก็เลยทำให้เราอดเอาใจช่วยตัวละครตัวนี้ไปด้วยไม่ได้
เพราะฉะนั้นเวลาที่เราดูหนังเรื่องนี้ เราก็เลยรู้สึก guilty เพราะเรารู้ว่าเราเอาใจช่วยคนเลวในระดับนึง
และความ guilty นั้นก็ทำให้เรารู้สึกแปดเปื้อนในใจแบบแปลกๆ
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้รู้สึกบ่อยครั้งนักกับหนังเรื่องอื่นๆ
การที่เราเอาใจช่วยคนเลวในหนังเรื่องนี้
มันเป็นเพราะว่าตัวละครเพิร์ธมันดูเลวแบบโง่ๆนิดนึงด้วย คือถ้ามันฉลาดเกินไป
เราอาจจะไม่เอาใจช่วยมันมากเท่านี้ และมันก็มีหนังหลายๆเรื่องแหละ
ที่มันเล่าเรื่องผ่านทางมุมมองของคนเลวในบางส่วน อย่างเช่น FRENZY (1972, Alfred Hitchcock) และ PEEPING TOM (1960, Michael Powell) แต่เราไม่ได้เอาใจช่วยคนเลวในหนังสองเรื่องนี้
เพราะมันเป็นฆาตกรโรคจิตที่น่ากลัวมาก
และเราก็ไม่ได้เอาใจช่วยพระเอกที่เป็นคนเลวใน MATCH POINT (2005, Woody
Allen) กับใน A KISS BEFORE DYING ด้วย
ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงไม่เอาใจช่วยหนุ่มหล่อเลวสองคนใน MATCH
POINT กับ A KISS BEFORE DYING แต่กลับเอาใจช่วยคนเลวใน
THE SWIMMERS ให้รอดจากสถานการณ์คับขันในบางครั้ง
ความรู้สึก guilty แบบนี้เราเจอไม่บ่อยครั้งนัก
เราก็เลยรู้สึกว่ามันยากพอสมควรในการจะสร้างตัวละครคนเลวที่ทำให้เรารู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดตลอดเวลาแบบนี้
ถ้าหากจะถามว่ามีตัวละครตัวไหนที่เคยทำให้เรารู้สึกแบบนี้บ้าง นั่นก็คือตัวละคร “อีฟ” ในมินิซีรีส์เรื่อง MASTER OF THE GAME (1984, Kevin Connor +
Harvey Hart, 413min, A+30) โดยตัวละครตัวนี้เป็นหญิงสาวเจ้าเล่ห์ที่พยายามวางแผนฆ่าน้องสาวของตัวเองตลอดเวลา
เธอเป็นตัวละครที่ชั่วสุดๆ แต่เธอก็เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากๆในขณะเดียวกัน
และเวลาที่เราดูมินิซีรีส์เรื่องนี้ เราก็จะรู้สึกคล้ายๆกับที่ดู THE SWIMMERS
นั่นก็คือเราจะรู้สึก “อยากให้อีฟตาย” กับ “อยากให้อีฟรอด” พร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน
(แต่ตัวละครอีฟกับเพิร์ธก็แตกต่างกันมากๆในบางจุดนะ
เพราะอีฟเป็นตัวละครที่ฉลาดสุดๆ และคู่ปรับของอีฟเป็นคุณย่าของเธอ
ซึ่งก็เป็นผู้หญิงที่เลวและฉลาดสุดๆเหมือนกัน ในขณะที่คู่ปรับของเพิร์ธไม่ใช่คนที่ดูเลวมากนัก
การเอาใจช่วยของเราที่มีต่ออีฟกับเพิร์ธก็เลยต่างกันเล็กน้อย เพราะอีฟเป็นตัวละครที่ต้องตบตีกับหญิงเลวด้วยกันเอง)
4.ชอบตัวละครมิ้นท์ (วิโอเล็ต วอเทียร์) มากๆ
เราอินกับตัวละครตัวนี้ที่สุด
และเราก็เลยชอบสุดๆที่ตัวละครตัวนี้ไม่ได้ถูกลงโทษในหนังเรื่องนี้
คือเรานึกว่าตัวละครผู้หญิงแบบนี้ เวลาอยู่ในหนังไทย จะต้องถูกลงโทษไง
แต่ปรากฏว่าตัวละครตัวนี้ทำในสิ่งที่เราต้องการ และก็ได้ในสิ่งที่เราต้องการด้วย
นั่นก็คือการมีเซ็กส์กับเพิร์ธไปเรื่อยๆ เราก็เลยแฮปปี้กับจุดนี้มากๆ
ฉากที่ติดตาเรามากที่สุดฉากนึงในหนังเรื่องนี้
ก็คือฉากที่มิ้นท์มองเพิร์ธด้วยสายตาเหมือนจะสำรวจความจริงอะไรสักอย่าง
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงติดตากับฉากนี้มากๆ
5.อีกสิ่งที่เราชอบสุดๆในหนังเรื่องนี้
ก็คือการกินไข่อย่างบ้าคลั่งกับการมโนว่าตัวเองตั้งครรภ์นั่นแหละ
คือการกินไข่อย่างบ้าคลั่งในหนังเรื่องนี้มันกระทบอารมณ์ความรู้สึกของเราอย่างรุนแรงกว่าฉากผีทุกฉากในหนังเรื่องนี้ซะอีก
คือเราว่าฉากผีในหนังเรื่องนี้มันธรรมดามากๆ มันไม่มีอะไรน่าจดจำสำหรับเรา
แต่การกินไข่อย่างบ้าคลั่งในหนังเรื่องนี้มันกระทบเราอย่างรุนแรงกว่ามาก
เรารู้สึกเหมือนได้รับ pleasure แบบแปลกๆนะกับการกินไข่ในหนังเรื่องนี้
เราก็เลยมีทฤษฎีว่า บางที pleasure แบบแปลกๆที่เรารู้สึกนี้
เป็นเพราะว่ามันตอบสนองแฟนตาซีทางเพศของเรา คือการได้เห็นหนุ่มหล่อกินน้ำข้นๆเหนียวๆเยิ้มๆเป็นปริมาณมากๆ
แล้วหลังจากนั้นก็มโนว่าตัวเองตั้งครรภ์น่ะ
มันเหมือนกับการตอบสนองแฟนตาซีทางเพศของเราในการกิน sperm ของผู้ชายเข้าไปแล้วก็ตั้งครรภ์
55555
สรุปว่าที่เราชอบ THE SWIMMERS มากๆเป็นเพราะว่าเราหลงใหลในความหล่อของนักแสดงชาย,
เรารู้สึก “อยากให้เพิร์ธตาย” กับ “อยากให้เพิร์ธรอด” พร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่รู้สึกกับหนังเรื่องอื่นๆ และการที่หนังตอบสนองแฟนตาซีทางเพศของเราในการกินน้ำข้นๆเหนียวๆเยิ้มๆแล้วก็ตั้งครรภ์
No comments:
Post a Comment