Friday, May 22, 2015

SINGAPORE GIRL (2014, Kan Lume, Singapore, A+20)

SINGAPORE GIRL (2014, Kan Lume, Singapore, A+20)

1.ชอบมาก 555 จริงๆแล้วช่วงแรกชอบในระดับ A+30 เลยนะ แต่อารมณ์มันมา drop ลงตอนท้ายๆ เกรดก็เลยลดลง

สาเหตุที่ชอบมากเป็นเพราะเราชอบหนังแบบนี้นี่แหละ หนังที่แทบไม่มีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้น เป็นตัวละครคุยกันไปเรื่อยๆ และเป็นหนังที่พาฝันในแบบที่เราต้องการ

2.ดูแล้วนึกถึงอดีตของตัวเองตอนไปเที่ยวหัวหินกับเกาะเสม็ดแล้วได้รู้จักกับชายแปลกหน้า อิอิอิ แต่น่าเสียดายที่ชายแปลกหน้าที่ได้รู้จักในตอนนั้นเป็น straight ความพยายามในการเสยหีเข้าใส่ก็เลยไม่สัมฤทธิ์ผล

ฉากที่ทั้งสองเจอกันครั้งแรกก็ใช่มากๆ เพราะตอนไปหัวหิน การได้ทำความรู้จักกับชายแปลกหน้าก็เกิดขึ้นที่สระว่ายน้ำเหมือนกัน

หนังเรื่องนี้มันก็เลยพาฝันในแบบที่สนอง need ของเรามากๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับนางเอกหนังเรื่องนี้ คือสิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเราเองในอดีต แต่มันไม่ได้เกิดขึ้น

3.ในขณะที่มัน “พาฝัน” สำหรับเรา เราก็รู้สึกว่ามันใกล้เคียงกับสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตเรามากกว่าหนังเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหนังอย่าง HAND IN THE GLOVE (2014, Yusuke Inaba, A+15) ที่เป็นตัวละครเดินเที่ยว+คุยกันตลอดทั้งเรื่องเหมือนกัน คือ HAND IN THE GLOVE มันพาฝันสำหรับเราเหมือนกัน แต่มันห่างจากชีวิตจริงเรามากเกินไป เพราะตัวละครพระเอกของ HAND IN THE GLOVE เป็น “เจ้าชาย” น่ะ เพราะฉะนั้นถึงแม้ HAND IN THE GLOVE จะมีสไตล์หนังที่เข้าทางเรา (หนังที่ตัวละครคุยกันตลอดทั้งเรื่อง โดยแทบไม่มีเหตุการณ์ดราม่ารุนแรงในเรื่อง) และมีการตอบสนองความต้องการทางเพศของเรา เราก็รู้สึกว่ามันห่างจากชีวิตจริงของเรามากเกินไป ในขณะที่ SINGAPORE GIRL มันดูเข้าใกล้ชีวิตจริงของเรามากขึ้นมาหน่อย
4.ดูแล้วนึกถึงหนังกลุ่มชายทะเลของ Eric Rohmer มากๆ ที่มันเต็มไปด้วยตัวละครคุยกันและเดินเที่ยวกันตามรีสอร์ทริมชายหาดเหมือนกัน โดยหนังกลุ่มนี้ประกอบด้วย LA COLLECTIONEUSE (1966), PAULINE AT THE BEACH (1982), THE GREEN RAY (1986) และ A SUMMER’S TALE (1996)

คือเวลาที่เราดูหนังของ Rohmer เราก็อยากให้มีคนสร้างหนังแบบนี้ที่ชายหาดภูเก็ต, สมุย, เสม็ด, หัวหินมากๆ เพราะฉะนั้นพอเราได้ดูหนังเรื่องนี้ เราก็เลยชอบมากเพราะมันตรงกับสิ่งที่เราเคยฝันไว้

แต่เกรดของหนังเรื่องนี้มันลดลงเพราะการเอาไปเทียบกับ Rohmer ด้วยแหละ คือเราว่าช่วงท้ายของ SINGAPORE GIRL มันขาดความละเอียดอ่อนทางอารมณ์หรือการตะล่อมทางอารมณ์เพื่อจะนำไปสู่ความโรแมนติกจริงๆน่ะ คือเราว่าช่วงท้ายของ SINGAPORE GIRL อารมณ์มันไปไม่ถึงจุดที่ต้องการสำหรับเราน่ะ เราก็เลยไม่ได้ชอบมันถึงขั้น A+30

5.ส่วนที่ชอบที่สุดคือฉากที่เราได้ยินเสียงตัวละครคุยกัน แต่ไม่เห็นตัวละคร คนดูได้เห็นแต่วิวรีสอร์ทแทน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราถึงชอบฉากแบบนี้ คือเราว่านักแสดงสองคนในเรื่องก็เล่นใช้ได้ในสายตาของเรานะ แต่ฉากที่ไม่เห็นตัวละคร ได้เห็นแต่วิวของสถานที่ มันเข้าทางเรามากกว่า


No comments: