KHUN PHAN 2 (2018, Kongkiat Khomsiri, A+25)
ชอบจักรวาลเวทมนต์ในหนังเรื่องนี้
ชอบที่แต่ละคนมีความสามารถไม่เหมือนกัน การหักเหลี่ยมเฉือนคมในเรื่องก็สนุกดี
คือจริงๆแล้วเราไม่ได้เป็นแฟนหนังแนวนี้ เราไม่ได้ enjoy กับการดูหนังบู๊
genre นี้ แต่เราว่าหนังเรื่องนี้มันก็ตั้งใจทำดี, ตั้งใจเขียนบท,
ตั้งใจกำกับ ก็เลยทำให้ดูได้อย่างเพลิดเพลินกว่าหนังบู๊ระเบิดภูเขา
เผากระท่อมทั่วๆไป
ชอบที่หนังมันไม่ “ตลก” ด้วย และเราว่าการที่หนังมันหันไปเน้น “เวทมนต์”
มันก็ช่วยทำให้เราอินกับหนังได้มากขึ้น คือถ้ามันใช้ปืนสู้กันแบบเพียวๆ
เราคงไม่อินมากเท่านี้
แต่สาเหตุที่ทำให้เราไม่ได้ชอบหนังอย่างสุดๆ ก็เป็นเพราะว่าเราไม่ได้เป็นแฟนหนัง
genre นี้นั่นแหละ
และเราว่าหนังของก้องเกียรติหลายๆเรื่อง มันมีความสะใจใน “ความเลือดสาด”
ในแบบที่มากเกินไปสำหรับเราน่ะ แต่อันนี้ไม่ใช่ความผิดของหนังนะ
มันเหมือนก้องเกียรติชอบทำสเต็กแบบ rare แต่เราชอบกินสเต็กแบบสุกเต็มที่น่ะ
เราก็เลยไม่ได้เอร็ดอร่อยกับการดูความเลือดสาดในหนังของเขาหลายๆเรื่อง
SEARCHING (2018, Aneesh Chaganty, A+30)
คงเขียนอะไรมากไม่ได้ เพราะเดี๋ยว spoil 555 แต่บอกได้เลยว่า
หนังโผล่มาแค่ 5 วินาทีแรก ก็รู้แล้วว่าหนังเรื่องนี้น่าจะได้ A+30 เพราะเห็นหน้าคุณพ่อแล้วก็ตกหลุมรักทันที รักคุณพ่อกับคุณอาในหนังมากๆ
ถ้าเรามีคุณพ่อกับคุณอาแบบนี้ เราจะทำตัวเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนแน่ๆค่ะ
เนื่องจากตกหลุมรักคุณพ่อตั้งแต่ต้นเรื่อง ตอนดูก็เลยเอาใจช่วย ลุ้น
อินไปกับคุณพ่อมากๆ กลัวว่าหนังจะกลายเป็นแบบ L’AVVENTURA (1960, Michelangelo
Antonioni) แต่ก็ดีที่หนังไม่ได้เป็นแบบนั้น 555
รู้สึกสนุกสุดๆเหมือนกับตอนที่ดู THE NET (1995, Irvin Winkler) เมื่อ 23 ปีก่อน ที่นึกถึง THE NET เป็นเพราะว่า
มันเป็นหนัง thriller ที่พยายามเอา “เทคโนโลยีใหม่ในชีวิตประจำวัน”
มาใช้เหมือนกัน
No comments:
Post a Comment