Thursday, November 15, 2018

35 UP (1991, Michael Apted, UK, documentary, A+30)


35 UP (1991, Michael Apted, UK, documentary, A+30)

เพิ่งได้มีโอกาสดูต่อ หลังจากดู 28 UP ไปในช่วงสิ้นปี 2017

ดูแล้วก็รู้สึกเศร้าใจอย่างไม่มีสาเหตุ หรือเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือน “ชีวิตเราก็เท่านี้”

เหมือนพอ subjects แต่ละคนอายุถึง 35 ปี subjects บางคนก็ disillusion กับชีวิตแล้ว เลิกฝันหรือหวังอะไรลมๆแล้งๆแล้ว และยอมรับขีดจำกัดของชีวิต ยอมรับว่าชีวิตมันก็สุขทุกข์เศร้าผิดหวังสมหวังสลับกันไป

โทนี่เคยฝันอยากเป็นนักขี่ม้า, เคยฝันอยากเป็นนักแสดง เขาพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เขาก็เลยเป็นคนขับแท็กซี่ต่อไป และดูเหมือนจะมีความสุขดี ถึงแม้เขาจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่เคยฝันไว้ก็ตาม

นีลเคยฝันอยากเป็นนักบินอวกาศตอนเด็กๆ แต่ก็โตมาเป็นคนไร้บ้าน ต้องยังชีพด้วยเงินสวัสดิการสังคมไปเรื่อยๆ ชีวิตของเขารันทดที่สุดในหนัง และสถานะของเขาก็สำคัญมากในหนัง เพราะเขาเหมือนเป็นตัวแทนของคนจนในหนังเรื่องนี้

ซูก็เคยฝันอยากเป็นนักแสดงเหมือนกัน แต่ตอนนี้เธอก็ต้องเลี้ยงลูกสองคนตามลำพัง และทำงาน part time ในสถาบันปล่อยกู้จำนอง

ชอบ Bruce กับ Nick มากๆ ในฐานะ desirable men 555 Bruce ตอนเด็กๆเขาฝันอยากไปประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมอังกฤษ เพื่อที่เขาจะได้สอนคนที่นั่นให้ civilized มากขึ้น และพอเขาโตขึ้น เขาก็ได้ไปสอนที่บังคลาเทศ เราว่าจริงๆแล้วเขาน่าจะรวยนะ แต่เขากลับเลือกที่จะไปใช้ชีวิตอย่างยากลำบากที่บังคลาเทศ คือดูแล้วเหมือนกับว่าเขาเป็นคนที่จิตใจดีงามจริงๆน่ะ มีความเป็นพ่อพระอยู่ในตัว

เราว่า Bruce มีส่วนที่เหมือนและต่างจาก John โดยส่วนที่เหมือนกันก็คือทั้งสองคนเกิดมารวยเหมือนกัน และทั้งสองคนก็เน้นทำงานการกุศลเหมือนกัน โดย John เน้นระดมทุนหาเงินไปช่วยเหลือประเทศ Bulgaria ที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นอย่างมาก แต่เราว่ามาดของ John มันคล้ายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะน่ะ เราก็เลยไม่ไว้ใจ John มากเท่ากับที่ไว้ใจ Bruce

ส่วน Nick นั้นเป็น husband material จริงๆ 555 ตอนเด็กๆเขาดู nerd มากๆ แต่พออายุ 21 นี่รูปร่างหน้าตาดีขึ้นมาเลย เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์และเป็นอาจารย์มหาลัยในสหรัฐ เขาดูดีทั้งรูปร่างหน้าตา นิสัยใจคอ ในสายตาของเรา คือเขาดูเรียบร้อย พึ่งพาได้ ฉลาดน่ะ และเขาทำให้เรานึกถึงหนุ่มวิศวะคนนึงที่เราแอบหลงรักด้วย 555

ชอบ Lynn มากๆด้วย คนที่เป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดเคลื่อนที่ เหมือนเธอเป็นผู้หญิงที่มีความแรงอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในตัว แต่ก็เป็นคนที่น่าสงสารในขณะเดียวกัน เหมือนเธอป่วยเพราะมีอะไรบางอย่างในสมอง

No comments: