Sunday, May 19, 2024

MILLENNIUM ACTRESS

 

MILLENNIUM ACTRESS (2001, Satoshi Kon, Japan, animation, A+30)

+ NO REGRETS FOR OUR YOUTH (1946, Akira Kurosawa, Japan, A+20)

 

หนึ่งในสิ่งที่ชอบมากใน MILLENNIUM ACTRESS ก็คือการที่หนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึงหนังหลาย ๆ เรื่องทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ตามที่เราทยอยแปะไว้ในโพสท์ด้านล่าง ๆ โดยเฉพาะ HAIKARA SANGA TORU (1987, Masamichi Sato), THRONE OF BLOOD, etc.

https://www.imdb.com/title/tt0291350/movieconnections/?ref_=tt_ql_dts_6

 

และหนึ่งในหนังที่เรานึกถึงมาก ๆ ตอนดู MILLENNIUM ACTRESS ก็คือ NO REGRETS FOR OUR YOUTH ที่นำแสดงโดย Setsuko Hara เพราะถ้าหากเราจำไม่ผิด ในหนังเรื่องนี้ Setsuko รับบทเป็นหญิงสาวที่ตกหลุมรัก “ชายหนุ่มหัวขบถผู้ต่อต้านรัฐบาลฟาสซิสต์ของญี่ปุ่นในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง” และเขาก็ถูกทางการญี่ปุ่นจับตัวไป และนางเอกก็ถูกทางการญี่ปุ่นจับไปสอบสวนและทรมานด้วย

 

ซึ่งพล็อตตรงส่วนนี้ของ NO REGRETS FOR OUR YOUTH มันพ้องกับเนื้อหาบางส่วนของ MILLENNIUM ACTRESS มาก ๆ เราก็เลยเดาว่า MILLENNIUM ACTRESS มันจงใจพาดพิงถึง NO REGRETS FOR OUR YOUTH หรือเปล่า 55555

 

แต่แน่นอนว่า MILLENNIUM ACTRESS มันจงใจพาดพิงถึงหนังของ Akira Kurosawa เรื่องอื่น ๆ อยู่แล้ว ทั้ง THRONE OF BLOOD, YOJIMBO, RAN, etc. ตามที่คนอื่น ๆ เขียนไว้ :-)

***

พอได้ดู MILLENNIUM ACTRESS (2001, Satoshi Kon, Japan, animation, A+30) และหนังหลาย ๆ เรื่องของ Hayao Miyazaki ในโรงภาพยนตร์จอใหญ่ในช่วงระยะนี้ และได้คุยกับเพื่อนบางคน ก็เลยทำให้เรานึกถึงเหตุการณ์ในอดีต นั่นก็คือตอนที่ GHOST IN THE SHELL (1995, Mamoru Oshii, Japan, animation) มาฉายในโรงภาพยนตร์ในเอ็มโพเรียม ในเทศกาลอะไรสักอย่าง เมื่อราว 24-25 ปีก่อน ถ้าจำไม่ผิด

 

คือเราจำได้ว่า ตอนนั้น GHOST IN THE SHELL มันฉายเป็น “ฟิล์ม” แล้วมัน “ฉายกลับหัว” อยู่ม้วนนึง ประมาณ 15-20 นาที ซึ่งคนดูก็เหวอกันทั้งโรง แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้ คนดูทั้งโรงก็เลยต้องดูภาพกลับหัวอยู่ประมาณ 15-20 นาทีช่วงกลางเรื่อง

 

ซึ่งพอเวลามันผ่านมานาน 24-25 ปีแล้ว เราก็เลยเริ่มไม่แน่ใจว่า เราจำเหตุการณ์นี้ถูกต้องหรือเปล่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มันเกิดขึ้นได้ยังไง เราฝันไปเองหรือเปล่า มีใครจำเหตุการณ์นี้ได้บ้างคะ 555555

 

พอพูดถึง “การฉายหนังด้วยฟิล์มที่เอ็มโพเรียม” แล้วก็ขอเสริมถึงอีกเหตุการณ์นึงที่ลืมไม่ลง คือในยุคนั้นมันเกิดเหตุการณ์ “ฟิล์มไหม้” ระหว่างฉายหนังเป็นครั้งคราว ซึ่งถ้าหากมันเกิด “กลางเรื่อง” เราก็ไม่ติดใจอะไร ยังพอดูหนังรู้เรื่อง แต่มันมีครั้งนึงใน “เทศกาลหนังออสเตรเลีย” ที่เอ็มโพเรียม ที่เกิดเหตุการณ์ “ฟิล์มไหม้” ตอนหนังใกล้จะจบพอดี เพราะฉะนั้นคนดูทั้งโรงเลยไม่รู้ว่าหนังเรื่องนั้นมันจบยังไง 55555 ซึ่งก็คือหนังเรื่อง DIRTY DEEDS (2002, David Caesar) ถ้าหากเราจำไม่ผิด

 

ซึ่งเราก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น คือเหวอมาก และฝังใจมาก ๆ แต่โชคดีที่มันเป็นหนังที่เราไม่ได้ชอบมากนัก และมันเป็นหนัง mainstream ที่ถึงเราไม่ได้ดู 1-5 นาทีก่อนหนังจบ เราก็พอจะเดาได้อยู่แล้วว่าทุกอย่างมันต้อง happy ending และคลี่คลาย เราก็เลยไม่ได้ trauma อะไรกับเหตุการณ์ฟิล์มไหม้ครั้งนั้น

 

แต่ถ้าหากเป็นหนังแบบ THE GREEN RAY (1986, Eric Rohmer) แล้วฟิล์มเกิดไหม้ 5 นาทีก่อนหนังจบนี่ ชิบหายหนักที่สุดในชีวิตอย่างแน่นอน 55555

 

ส่วนรูปประกอบนี้ป็นการบันทึกความทรงจำว่า เราดีใจที่ได้ดูหนังของ Mamoru Oshii, Hayao Miyazaki, Satoshi Kon และ Mamoru Hosoda ในโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าต้อง “ดูกลับหัว” อยู่ราว 15-20 นาทีในกรณีของ GHOST IN THE SHELL ก็ตาม 55555

 

No comments: